สามีเก่า...มาขอแต่งงานอีกแล้ว นิยาย บท 242

เสียงปิดประตูดังขึ้น หร่วนซิงหว่านยังอยู่ในผ้าห่มต่ออีกหลายนาที มั่นใจว่าอิตาบ้านั้นได้ออกไปจากห้องของตัวเองแล้วจริงๆ เธอถึงได้โผล่หน้าออกมาจากผ้าห่ม และได้สูดหายใจลึกๆ เพื่อเอาอากาศที่สดชื่นเข้าไป

เธอพลิกผ้าห่มออกแล้วลงจากเตียง และไปดูเตียงเด็กอ่อนสักครู่ เห็นว่าเด็กน้อยนอนหลับสนิทไม่มีวี่แววที่จะตื่นเลย

หร่วนซิงหว่านเปิดกระเป๋าเดินทางอย่างระมัดระวัง หลังจากหยิบเอาชุดนอนตัวเอง ถึงได้ค่อยๆ เดินย่องเข้าไปที่ห้องอาบน้ำ

กลัวว่าจะทำให้เจ้าตัวน้อยตื่น หร่วนซิงหว่านไม่กล้าที่จะใช้ไดร์เป่าผม เธอจึงไม่ได้สระผม ได้แค่ม้วนผมและมัดมันไว้ด้านหลังศีรษะเท่านั้น

เมื่ออาบน้ำเสร็จ หร่วนซิงหว่านออกมาจากห้องอาบน้ำ เห็นเจ้าตัวเล็กทำปากดังแจ๊บๆ ดวงตายังหลับเหมือนเดิม เพียงแค่มือเล็กๆ ที่โบกไปมาบนอากาศ

หร่วนซิงหว่านเดินเข้าไปอย่างรวดเร็ว เธอกำลังเหยียดมือออกไป เจ้าตัวน้อยก็ได้จับนิ้วมือเธออย่างแม่นยำ

เห็นอย่างนี้แล้ว หร่วนซิงหว่านค่อยๆ อมยิ้มขึ้น หลังจากนั้นได้นั่งลงบนเตียงแล้วนอนตะแคงอยู่ข้างเตียงเด็ก มองเขาอยู่อย่างเงียบๆ ด้วยสายตาที่อ่อนโยนอย่างไม่มีเหตุผล

รอจนถึงเที่ยงคืน เมื่อหร่วนซิงหว่านกำลังนอนอย่างสะลึมสะลือ จู่ๆ ได้ยินเจ้าตัวเล็กร้องพึมพำงึมงำอยู่ในเตียงเด็กที่อยู่ข้างๆ

เธอรีบเปิดไฟลุกขึ้นนั่งทันที เห็นท่าทีของเจ้าตัวเล็กคงหิวแล้ว เธอยกผ้าห่มออกลงจากเตียง ไปเปิดขวดเก็บความร้อนเพื่อผสมเข้ากับนมผง

เจ้าตัวเล็กกินเสร็จแล้ว ก็สดชื่นขึ้น ตากลมๆ มองไปรอบๆ ด้วยความสงสัย

และในขณะนี้ ประตูห้องอยู่ๆ ได้ถูกเปิดออก

เสียงเบาๆ ของชาผู้ชายได้ดังเข้ามาจากด้านนอก "ดึกดื่นเที่ยงคืนไม่หลับไม่นอนเธอทำอะไรอยู่"

หร่วนซิงหว่านที่กำลังอุ้มเจ้าตัวเล็กหันมองมา "เสียงของฉันน่าจะไม่ดัง......รบกวนถึงประธานโจวแล้วเหรอ?"

โจวฉือเซินหรี่ตา มองเห็นเจ้าตัวแสบที่ดูมีชีวิตชีวาอยู่ในอ้อมแขนของเธอ และเลียริมฝีปากอย่างไม่เหลือร่องรอย หลังจากนั้นก้าวขายาวๆ เดินเข้ามา พูดด้วยเสียงทุ้มต่ำ "ให้ผม"

หร่วนซิงหว่าน "?"

โจวฉือเซินพูดอีกทีว่า "ให้ผม แล้วคุณไปนอน"

เห็นได้ชัดว่าหร่วนซิงหว่านคิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบนี้ ตกตะลึงไปสักพักถึงได้พูดออกมา "ไม่เป็นไร ฉันทำเองได้ ประธานโจวไปนอนเถอะ"

"ตอนนี้คุณได้รู้จักเกรงใจฉันแล้ว?"

"......"

ไม่รอให้หร่วนซิงหว่านได้ปฏิเสธต่อ โจวฉือเซินก็ได้ไปอุ้มเด็กจากอ้อมแขนของเธอแล้ว

หร่วนซิงหว่านไม่กล้าใช้แรงยื้อแย่งกับเขา กลัวว่าจะทำให้เจ้าตัวเล็กบาดเจ็บ ทำได้เพียงปล่อยให้เขาอุ้มไป

โจวฉือเซินหันหลัง นั่งลงที่โซฟา และพูดกับหร่วนซิงหว่านโดยไม่เงยหน้าว่า "คุณนอนของคุณเถอะ"

หร่วนซิงหว่านอ้าปากค้างและไม่รู้ว่าจะพูดกับเขาอย่างไร

เห็นได้ชัดว่าโจวฉือเซินนั่งอยู่กับสิ่งที่มันไม่เข้ากันกับเขา และภาพที่อยู่ตรงหน้านี้ดูๆ ไปแล้วก็กลมกลืนกันอย่างผิดปรกติ

อีกทั้งเห็นได้ชัดว่าเจ้าตัวเล็กไม่อยากให้เขาอุ้ม ปากเล็กๆ ตอบลง ไม่นานก็จะร้องไห้ออกมา โจวฉือเซินพูดเสียงทุ้มๆ ว่า "หุบปาก"

เจ้าตัวเล็กสูดจมูก และกำหมัดเล็กๆ ดูท่าทางอึดอัดมาก

หร่วนซิงหว่านทำใจดูไม่ได้ "ประธานโจว คุณคืนให้ฉันเถอะ คุณอุ้มแล้วเขาไม่สบายตัว"

โจวฉือเซินพูด "ตามใจเขามากไป"

หร่วนซิงหว่านเบะปาก และไม่รู้ว่าอิตาบ้าตามใจเจ้าตัวเล็กตรงไหน ทั้งๆ ที่ทำให้เขาตกใจจนกลายเป็นแบบนี้

แต่ที่น่าประหลาดใจคือ หลังจากที่เจ้าตัวน้อยได้อยู่ในอ้อมแขนของเขาอย่างไม่เต็มใจอยู่พักหนึ่ง และได้ค่อยๆ หลับตาลงและผล็อยหลับไปภายในไม่กี่นาที

โจวฉือเซินได้เอาเขากลับไปนอนที่เตียงเด็กอีกครั้ง พูดเบาๆ ว่า "ช่วงกลางดึกเขาตื่นแค่ครั้งเดียว คุณนอนต่อได้แล้ว"

หร่วนซิงหว่านมองดูเขา เอียงศีรษะพร้อมถามขึ้นทันที "ประธานโจวรู้ได้อย่างไรว่าช่วงกลางดึกเขาตื่นแค่ครั้งเดียว?"

โจวฉือเซินอึ้งไปสักพัก เงยหน้าสบตากับเธอ พูดช้าๆ ว่า "เรื่องอย่างนี้แค่ไปถาม ก็รู้แล้ว"

"โอ้"

คาดไม่ถึงว่าอิตาบ้าจะคิดละเอียดรอบคอบมากแบบนี้ และนึกไม่ถึงว่ายังคิดถึงที่จะไปถามน้าฉินได้ ว่ากลางดึกเจ้าตัวเล็กตื่นนอนกี่ครั้ง

โจวฉือเซินยืนอยู่ที่เดิม คั่นไปไม่กี่วินาทีถึงได้พูดขึ้นว่า "ผมกลับแล้ว"

หร่วนซิงหว่านมองเขา ท่าทางดูประหลาดนิดหน่อย

ไปก็ไปสิ หรือว่าอิตาบ้ายังคิดว่าเธอจะยับยั้งให้เขาอยู่ต่อเหรอ

เห็นว่าอิตาบ้ายังยืนอยู่ที่เดิมไม่ขยับ หร่วนซิงหว่านลองพูดไปว่า "งั้น......ประธานโจวฝันดี?"

ริมฝีปากบางของโจวฉือเซินได้ขยับเบาๆ โดยไม่ได้มีร่องรอยเลยสักนิด "ฝันดี"

พูดจบ เขาก็ก้าวเท้าออกไป

หร่วนซิงหว่านมองดูแผ่นหลังของเขา จู่ๆ ก็อดยิ้มไม่ได้

ไร้เดียงสาจริงๆ

ช่วงครึ่งหลังกลางดึก เจ้าตัวเล็กก็ไม่ได้ตื่นขึ้นอีก เหมือนอย่างที่โจวฉือเซินพูดไว้จริงๆ

หร่วนซิงหว่านนอนลงบนเตียง แต่พลิกไปพลิกมาอย่างนอนไม่หลับ ไม่รู้ว่าอยู่ในหัวกำลังคิดเรื่องไร้สาระอะไรอยู่

เธอก็ได้งงๆ อยู่แบบนี้ มองดูเตียงเด็กที่อยู่ข้างในความมืดที่สลัวอย่างเงียบๆ

โดยไม่รู้ว่านานแค่ไหนถึงได้หลับไป

เมื่อรอถึงหร่วนซิงหว่านตื่นนอน ฟ้าก็สว่างแล้ว

เธอรีบลุกขึ้นนั่งมองดูเวลา เป็นเวลาสิบเอ็ดโมงแล้ว

หร่วนซิงหว่านลูบศีรษะ และหันหน้าไปจึงได้พบว่าเจ้าตัวเล็กไม่อยู่ที่เตียงเด็กแล้ว

เธอเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้วลงไปชั้นล่าง เมื่อเห็นที่ลานบ้าน มีเจ้าตัวเล็กที่นอนอยู่ในเปล และกำลังถือของเล่นเล่นด้วยตัวเองอย่างมีความสุข และอยู่ข้างๆ เขา มีโจวฉือเซินที่กำลังนั่งอยู่ที่หน้าโต๊ะทำงาน

หร่วนซิงหว่านถาม "น้าสวี่ล่ะ?"

โจวฉือเซินไม่เงยหน้าพูด "ไปโรงพยาบาลเป็นเพื่อนน้าฉินแล้ว"

หร่วนซิงหว่านนั่งอยู่บนเก้าอี้ และมองดูกระถางบอนไซที่อยู่ไม่ไกลอย่างเหม่อลอย เห็นได้ชัดว่ายังไม่ตื่นนอน

"อยากกินอะไร ผมจะให้หลินหนานเอามาให้"

เว้นไปไม่นาน หร่วนซิงหว่านถึงได้ค่อยๆ หวนคืนความคิด "ไม่เป็นไร ในตู้เย็นอาจจะมีผักอยู่ ฉันไปทำเอง"

ในขณะนี้ เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นมา

หร่วนซิงหว่านเดินไปเปิดประตู ด้านนอกมีชายวัยรุ่นยืนอยู่คนหนึ่ง "ขอโทษครับไม่ทราบว่าคุณโจวพักอยู่ที่นี่ใช่ไหมครับ?"

หร่วนซิงหว่านหันกลับไปมองแล้วพยักหน้า "ใช่ค่ะ"

ชายผู้นั้นหยิบเอากล่องของขวัญหนึ่งกล่องออกมาจากกระเป๋า "ผมคือพนักงานของวัดเยว่เหล่า นี่คือของขวัญของพวกคุณที่ได้พูดไว้เมื่อคืนวานครับ"

หร่วนซิงหว่านยื่นมือออกไปรับ "ขอบคุณค่ะ"

"ไม่เป็นไรครับ อย่างนั้นผมขอตัวก่อน"

หลังจากรอให้ชายผู้นั้นจากไป หร่วนซิงหว่านได้ปิดประตู หันหลังเดินถือกล่องเข้ามาวางไว้ที่ข้างหน้าโจวฉือเซิน จากนั้นเดินตรงเข้าไปที่ห้องครัว

ในห้องครัวยังมีผักที่น้าสวี่ไปซื้อที่ตลาดเมื่อคืนนี้อยู่ไม่น้อย หลังจากที่หร่วนซิงหว่านนึ่งข้าวในหม้อแล้ว และเดิมทีคิดอยากจะทำหม่าล่าเนื้อกระต่ายด้วยหนึ่งอย่าง แต่คิดได้ว่าโจวฉือเซินไม่กินเผ็ด จึงได้เพียงแค่ปล่อยความคิดนี้ไป

ทำกับข้าวไปได้สักพัก หร่วนซิงหว่านก็รู้สึกว่าได้มีบางอย่างผิดปกติ ทำไมเธอถึงต้องคิดตามความคิดของเขา?

นึกถึงตรงนี้ เธอได้ตั้งใจหยิบกระต่ายไปอีกครั้ง แต่เพิ่งจะหยิบขึ้น เธอก็ได้วางลงไปอีก

ช่างเถอะ ทำเยอะขนาดนั้นก็กินไม่หมด สุดท้ายก็สิ้นเปลืองเฉยๆ

หร่วนซิงหว่านวางมือบนอ่างล้างผัก และรู้สึกเหมือนว่าตัวเองกำลังป่วย

สุดท้าย หร่วนซิงหว่านได้ทำอาหารสองอย่างกับน้ำซุป ทั้งหมดคือรสจืดไม่ได้เข้มข้น

เมื่อรอให้เธอออกไป โจวฉือเซินได้เก็บคอมพิวเตอร์เรียบร้อยแล้ว และกล่องของขวัญก็ถูกเปิดออกแล้ววางไว้อยู่บนโต๊ะ นั้นคือรูปภาพที่พวกเขาถ่ายรูปกันตอนอยู่ที่วัดเยว่เหล่า

อีกทั้งภาพถ่ายนั้นยังอยู่ในกรอบรูปที่มีเอกลักษณ์เฉพาะของวัดเยว่เหล่า กรอบด้านซ้ายคือ "ขอให้รักกันตลอดไป" กรอบด้านขวา "ขอให้กำเนิดลูกชายที่ดีไวๆ" ด้านบนเป็นรูปหัวใจหนึ่งแถวและด้านล่างเป็นภาพลักษณ์ผลงานด้านศิลปะของการ์ตูนเยว่เหล่าขนาดเล็ก

ดั่งคำกล่าวที่ว่า ไม่ทันสมัยให้ถึงขีดสุด ก็จะกลายเป็นแฟชั่นได้

หร่วนซิงหว่านมองดูกรอบกับรูปภาพนี้ ทันใดนั้นได้มีความคิดที่จะนั่งเครื่องบินกลับไปที่เมืองหนานเฉิงในคืนนั้นทันที

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สามีเก่า...มาขอแต่งงานอีกแล้ว