สามีเก่า...มาขอแต่งงานอีกแล้ว นิยาย บท 244

อยู่บนรถ หร่วนซิงหว่านได้จองตั๋วเครื่องบินที่บินที่เร็วที่สุดไปเมืองอานเฉิงสองใบ

แต่ถึงอย่างนั้น เมื่อพวกเธอลงจากเครื่องบิน ก็เป็นเวลาหกโมงเช้าของวันที่สองแล้ว

เมื่อยืนอยู่ที่ประตูหน้าบ้านของสวี่เยว่ หัวใจของหร่วนซิงหว่านก็เต้นเร็วกว่าก่อนหน้านั้นมากขึ้นกว่าเดิม

เธอหายใจลึกๆ หลังจากที่รอให้ตัวเองสงบลงได้แล้ว ถึงได้ยกมือไปเคาะประตู

ส่วนในห้อง สวี่เยว่เพิ่งจะตื่นนอน เปิดประตูออกมาเห็นหร่วนซิงหว่านยืนอยู่ข้างนอก พูดด้วยความแปลกใจว่า "ซิงหว่าน ทำไมเธอ......"

หร่วนซิงหว่านเม้มริมฝีปาก "น้าสวี่ ฉันอยากดูเด็กอีกครั้ง

สวี่เยว่อึ้งไปสักพัก ในขณะนั้นก็ไม่ได้พูดอะไร

หร่วนซิงหว่านไม่อาจจะรอคำตอบจากเธอได้ จึงได้เดินก้าวยาวๆ เข้าไปในห้อง

เพ้ยซานซานเห็นเช่นนั้น ก็รับเดินตามเข้าไป

แต่เจ้าตัวเล็กก็เหมือนหายไปในกลางอากาศ ในห้องไม่มีสิ่งของอะไรหลงเหลืออยู่เลย

เมื่อหร่วนซิงหว่านตกอยู่ในภวังค์ที่ยืนอยู่ที่เดิม สวี่เยว่เดินไปหาและพูดเบาๆ ว่า "น้าฉินของเธอไม่ใช่ไม่สบายและยังไม่หายเหรอ เมื่อคืนลูกสะใภ้ของเธอมาที่นี่ แล้วพาเด็กกลับไปแล้ว"

หร่วนซิงหว่านอ้าปากค้าง และไม่รู้ควรจะพูดอะไร ส่วนดวงตาก็ได้มีน้ำตาคลอหน่วย

สวี่เยว่ถอนหายใจเงียบๆ รู้ว่าเธอกำลังคิดอะไร แต่ไม่อาจจะบอกความจริงกับเธอ ได้เพียงแค่ตบไปที่ไหลเธอเบาๆ "เสี่ยวหร่วน เด็กยังมีอีกได้"

หร่วนซิงหว่านกัดริมฝีปากล่างไว้แน่น พยายามอดกลั้นไม่ให้ร้องออกมา และพูดพึมพำเบาๆ ว่า "ฉันคิดว่า....ฉันแค่อีกนิดเดียวก็เกือบจะแน่ใจได้แล้ว......"

แต่ผลสุดท้ายคือเธอคิดมากไป

สวี่เยว่พูด "เสี่ยวหร่วน ถ้าเธอต้องการเจอเด็ก ฉันจะไปถามที่อยู่กับน้าฉินของเธอให้"

หร่วนซิงหว่านส่ายหน้า "ไม่เป็นไรค่ะ"

"เสี่ยวหร่วน......"

"น้าสวี่ขอโทษด้วยค่ะ ฉันต้องขอตัวกลับก่อน"

หลังจากที่หร่วนซิงหว่านพูดจบ ได้เดินหันหลังออกไปข้างนอก ด้านหลังดูอ้างว้างไม่สามารถพูดอะไรได้

เพ้ยซานซานยิ้มให้สวี่เยว่ด้วยความอาย หลังจากที่พยักหน้าแสดงความปรารถนาดีแล้ว และเดินตามออกไป

ในเวลานี้ ท้องฟ้าเพิ่งเริ่มจะสว่างขึ้น และโคมไฟถนนทั้งสองฝั่งของแม่น้ำก็ได้ส่องแสงสีส้มสลัว บางๆ และแฝงความเย็นเล็กน้อย

หร่วนซิงหว่านก้มหน้าเดินอย่างเงียบๆ

เพ้ยซานซานเดิมตามขึ้นมา เกาศีรษะแล้วถึงพูดว่า "ซิงซิง โทษที่ฉันเอง หากไม่ใช่เพราะฉันพูดเหลวไหลอะไรพวกนั้นไปจนต้องทำให้เธอต้องเข้าใจผิด เธอก็คงจะ......"

หร่วนซิงหว่านส่ายหน้าเบาๆ "ไม่ใช่เพราะเธอ เป็นฉัน เป็นที่ฉันอ่อนไหวเกิดไป"

อาจเป็นเพราะสองวันนี้ได้อยู่กับเจ้าตัวเล็กเป็นเวลานาน ถึงทำให้เธอมีความปรารถนาที่เลยเถิด

แต่ว่าคิดไปคิดมาก็ใช่ ตอนนั้นเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์รุนแรงขนาดนั้น แล้วเด็กจะรอดมาได้อย่างไร

หร่วนซิงหว่านหายใจออกและพูดว่า "ซานซาน พวกเรากลับกันเถอะ"

หลังจากรอให้หร่วนซิงหว่านกลับไป สวี่เยว่ถึงโทรศัพท์ไปหาโจวฉือเซิน "เสี่ยวเซิน เสี่ยวหร่วนกลับไปแล้ว"

"รู้แล้ว ครับ" หยุดชะงักชั่วคราว โจวฉือเซินพูดอีกว่า "เที่ยวบินตอนบ่าย ผมจะให้คนพาคุณไปจากที่นั้น และในเมื่อเธอได้สงสัยแล้ว ที่นั่นก็ไม่อาจจะอยู่ต่อได้"

สวี่เยว่ถอนหายใจออกไป "เลยนายนี่นะ......ถ้าเสี่ยวหร่วนรู้ความจริงเข้า อาจจะเกลียดนายได้"

"ก็คงไม่ขาดเรื่องนี้หรอก"

หร่วนซิงหว่านมากกว่าที่เกลียดเขา คิดจะฆ่าเขาก็อาจเป็นไปได้

หลังจากที่วางสาย โจวฉือเซินเก็บโทรศัพท์ แล้วหยิบเอาเสื้อโค้ตออกไป

......

หลังจากที่กลับไปกลับมา หร่วนซิงหว่านกับเพ้ยซานซานทั้งสองยังไม่ได้นอนเลยสักคน และเมื่อถึงเมืองหนานเฉิง เพ้ยซานซานได้หาวนอนตลอด "ซิงซิง พวกเรากลับไปนอนก่อนเถอะ ยังไงก็ตามที่สตูดิโอยังมีเสี่ยวเฉินอยู่......"

หร่วนซิงหว่านดึงความคิดกลับมาพูดว่า "เธอกลับไปนอนเถอะ ฉันไม่ง่วง สองวันมานี่ยังมีงานหลายอย่างที่ยังไม่ได้ทำ"

เพ้ยซานซานรู้ดีว่าถ้าเธอดื้อขึ้นมาใครพูดอะไรไปก็ไม่มีประโยชน์ รวมทั้งอารมณ์ตอนนี้ของหร่วนซิงหว่านคงจะยุ่งเหยิงแน่นอน มันคงเป็นเรื่องแปลกถ้าเธอสามารถนอนหลับได้

เธอได้หาวขึ้นอีกครั้ง "ก็ได้ อย่างนั้นเธอไปที่สตูดิโอก่อนเลย ไม่ต้องสนใจฉัน ฉันจะเรียกใช้บริการขับรถแทนเอง"

หร่วนซิงหว่านพยักหน้า "ถ้าอย่างนั้นฉันไปก่อนล่ะ"

เวลาบ่ายสามโมง หร่วนซิงหว่านค่อยมาถึงสตูดิโอ

หร่วนเฉินพูด "พี่ไปไหนมา? ผมติดต่อไม่ได้ทั้งวัน ซานซานก็ไม่รู้ว่าไปไหน?"

หร่วนซิงหว่านพูด "เธออยู่กับพี่ ไปจัดการเรื่องบางเรื่องน่ะ"

หร่วนเฉินยังต้องการจะพูดอะไร หร่วนซิงหว่านพูดต่อว่า "พี่จะเข้าไปสตูดิโอร่างภาพวาดแล้ว มีธุระค่อยเรียกพี่"

หลังจากที่เข้าไปสตูดิโอแล้ว หร่วนซิงหว่านนั่งลงบนเก้าอี้ แต่ก็สามารถสงบจิตสงบใจลงได้ ได้เพียงแค่มองออกไปนอกหน้าต่างอย่างเหม่อลอย

ไม่รู้ผ่านไปนานเท่าไหร่ เธอถึงได้หยิบโทรศัพท์ออกมา เปิดไปดูรูปภาพของเจ้าตัวเล็กที่ถ่ายไว้เมื่อสองวันก่อน

แต่ละภาพเขาดูน่ารักมาก

หร่วนซิงหว่านนอนพาดไปบนโต๊ะอย่างหมดแรง และอ่อนเพลียไปทั้งตัว

เมื่อถึงตอนเย็น หร่วนเฉินได้เข้ามาเรียกเธอ ถึงได้รู้ว่าเธอกำลังหลับอยู่บนโต๊ะ

หร่วนเฉินเม้มปาก และได้ดึงประตูปิดอีกครั้ง

เขาเพิ่งจะได้หันหลัง สวี่วานก็ถามขึ้น "พี่สาวนายล่ะ ยังทำงานอยู่เหรอ?"

"หลับแล้ว"

"หลับแล้ว?" สวี่วานพูดอย่างสงสัย "ไปเรียกเธอแล้วกลับไปนอนที่บ้าน หากว่าไม่สบายขึ้นมาล่ะจะทำอย่างไร"

สวี่วานกำลังจะเดินไปข้างหน้า หร่วนเฉินได้ดึงแขนของเธอไว้ "ให้เธอได้พักผ่อนเถอะ แอร์ก็เปิดอยู่ เป็นหวัดไม่ได้หรอก"

"ก็ได้" สวี่วานได้แต่ปล่อยวาง

บ่ายวันนี้เธอเพิ่งถ่ายนิตยสารเสร็จ และเธอได้งานใหม่ที่ได้รับมอบหมายจากนายทุนที่ชั่วร้ายคนนั้น

เห็นแบบนี้แล้ว หรือว่าอิตาบ้าจะทำให้หร่วนซิงหว่านโมโหแล้ว

ที่สตูดิโอมีแค่พวกเขาสองคน หลังจากที่เงียบลงไป บรรยากาศก็อึดอัดลงไปอย่างบอกไม่ถูก

ยังไม่ได้รอให้สวี่วานได้ระดมสมองเพื่อกระตุ้นหาหัวข้อจะพูด หร่วนเฉินจึงพูดว่า "ต้องการดื่มน้ำไหม?"

สวี่วานพูด "ดื่ม......ดื่มก็ได้"

หลังจากที่หร่วนเฉินไปเทน้ำ สวี่วานได้แอบเอาโทรศัพท์ออกมาส่งข่าว

ผ่านไปสองนาที หร่วนเฉินนำเอาแก้วน้ำวางไว้ตรงหน้าเธอ "เรื่องครั้งก่อน ขอบคุณคุณมากนะ"

สวี่วานรีบวางโทรศัพท์ลง มีปฏิกิริยาสองวินาทีถึงพูดขึ้น "ฮะ? ไม่เป็นไร ได้พบเจอนั้นก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี ไม่เช่นนั้นคงไม่ได้ช่วยนาย"

ขณะพูด สวี่วานได้จับแก้วน้ำขึ้น "น้องชายของหร่วนซองหว่าน ก็เหมือนน้องชายฉัน นายจะเกรงใจฉันทำไม"

หร่วนเฉิน "......"

ในเวลานี้ โทรศัพท์ของสวี่วานสั่นขึ้นครั้งหนึ่ง เธอทั้งมองทั้งดื่มน้ำ หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จึงถามหยั่งเชิงว่า "นั่นอะไรนะ...... นายกินข้าวหรือยัง เราออกไปกินข้าวกันไหม? และถือโอกาสห่อกลับมาให้พี่สาวของนายด้วย"

หร่วนเฉินเหลือบมองไปที่โทรศัพท์ของเธอโดยไม่ทิ้งร่องรอยใดๆ เขามองออกแต่ไม่พูดเปิดความจริง "โอเค"

สวี่วานรีบวางแก้วน้ำลง และลุกขึ้นพูดว่า "งั้นดีเลย! เราไปกันเถอะ"

หร่วนเฉินเม้มริมฝีปากบาง และทนไม่ไหวจึงพูดว่า "ผมได้ยินมาว่า เหมือนคุณได้รางวัลนักแสดงนำหญิงดีเด่น?"

"......"

นี่กำลังบอกว่าฝีมือการแสดงที่เอิกเกริกของเธออยู่เหรอ?

สวี่วานไอออกมาหนึ่งที เพื่อหลีกเลี่ยงคำถามของเขา และพูดขายผ้าเอาหน้ารอดไป "ก็แค่ชื่อเสียงจอมปลอม จอมปลอมแหละ ไม่มีค่าพอที่จะต้องพูดถึง"

หร่วนเฉินไม่พูดอะไรอีก จึงได้ก้าวขายาวๆ เดินออกไปข้างนอก

สวี่วานเห็นเช่นนี้ ก็รีบตามไป

เธอเป็นศิลปินที่ตั้งใจและให้ความสำคัญต่อหน้าที่ที่สุดของโจวซื่อกรุ๊ป ไม่เพียงแต่ระมัดระวังและมีจิตใจที่รับผิดชอบสูงในการถ่ายนิตยสารและถ่ายโฆษณาในช่วงกลางวันเท่านั้น เมื่อถึงตอนเย็นก็ไม่ง่ายเลยที่จะมีเวลาเป็นของตัวเอง ยังต้องช่วยเจ้านายมาแสดงละครใหญ่ในครั้งนี้ด้วย

หากโจวฉือเซินไม่ยอมให้วันหยุดประจำปีหลายสิบวัน มันคงไม่สมเหตุสมผลจริงๆ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สามีเก่า...มาขอแต่งงานอีกแล้ว