คนของสมาคมผู้บริโภคมาสอบถามเรื่องราวที่สตูดิโอ จากนั้นจึงกลับไป ร้านไม่ได้โดนปิดเพื่อตรวจสอบเหมือนกับที่ เหลียงซือซือจินตนาการเอาไว้
หลังคนพวกนั้นกลับไป เพ้ยซานซานจิปากพูดว่า "คิดไม่ถึงจริงๆ ความรู้สึกของการมีที่พึ่ง นี่มันดีจริงๆ เลย"
พนักงานข้างๆ ไม่เข้าใจว่าเธอพูดอะไร จึงถามอย่างซื่อๆ ว่า "ที่พึ่งอะไรคะ"
หร่วนซิงหว่านเดินมาได้ยินพอดี เธออดขำไม่ได้ "ไม่มีอะไรหรอก อย่าไปฟังเธอพูดไร้สาระ"
พนักงานรู้ว่าตัวเองไม่จำเป็นต้องมาหนักใจเรื่องนี้ เธอรีบวิ่งไปทำเรื่องอื่น
หร่วนซิงหว่านยืนหน้าเคาน์เตอร์ และจัดการบันทึกที่เหลียงซือซือมาซื้อของที่สตูดิโอ นอกจากเหลียงซือซือ คนที่กล่าวหาบนเวยป๋อ ว่าซื้อของปลอมที่สตูดิโอ แค่จงใจเข้ามาก่อเรื่องเท่านั้น
ตอนนี้เหลียงซือซือกำลังควบคุมเรื่องราว ถึงเธอจะชี้แจงลูกค้าพวกนั้น ก็ไม่น่าจะมีใครเชื่อ และคิดว่าพวกเธอเบี่ยงเบนความสนใจเท่านั้น
เพ้ยซานซานดูเอกสาร "ยังดีที่ตอนนั้น ฉันถ่ายรูปเครื่องประดับทุกชิ้นหลังทำเสร็จ เพื่อเก็บไว้เป็นที่ระลึก ไม่งั้นคงหลงกลคนพวกนั้นแน่นอน"
นอกจากนี้ อัญมณีที่หร่วนซิงหว่านซื้อมาประดับ ล้วนมีสัญญาซื้อขายอย่างถูกต้อง ฝั่งนั้นทำงานธุรกิจกับสินค้าแบรนด์หรูมากมาย ไม่มีทางเป็นของปลอมแน่นอน
หร่วนซิงหว่านพูดว่า "หลินจืออี้น่าจะรู้ว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่ ถึงก่อเรื่องเพิ่มเข้ามาอีก แต่อีกไม่นาน ความจริงจะปรากฏ"
เพ้ยซานซานพูดอย่างไม่เข้าใจ "งั้นเธอทำแบบนี้เพราะจุดประสงค์อะไร"
หร่วนซิงหว่านหัวเราะ "สั่งสอนฉันมั้ง ถือว่าได้ระบายความโกรธ"
"โอ้โห ทุเรศสิ้นดี"
หร่วนซิงหว่านพูดว่า "ตั้งแต่โจวฉือเซินยกเลิกการหมั้นหมาย หลินจืออี้คิดมาตลอดว่าทั้งหมดเพราะฉัน ปกติก็ประชดประชันไม่น้อย บวกกับเรื่องในงานวันเกิดวันนั้น ฉันทำให้เธออับอาย เธอจะเก็บงำความโกรธได้ยังไง"
เพ้ยซานซานส่ายหน้า "ไม่ใช่ เธอพูดผิดแล้ว"
"หา?"
"ฉันบอกเธอไปนานแล้วไม่ใช่เหรอ แค่มองก็รู้ว่าหลินจืออี้เจ้าเล่ห์ ตอนนั้นหลินจืออี้ยังไม่หมั้นกับโจวฉือเซิน ก็จงใจเข้าใกล้เธอ มาคิดดูตอนนี้ ดูเหมือนจะวางแผนมาแล้วจริงๆ" เงียบไปครู่หนึ่ง เพ้ยซานซานเอามือลูบคาง และพูดอย่างจริงจัง "แต่มาคิดดู หลินจืออี้คิดว่าเหตุผลที่โจวฉือเซิน ยกเลิกการหมั้นเพราะเธอ เรื่องนี้เดาไม่ผิดนะ"
หร่วนซิงหว่าน "......"
เพ้ยซานซานเพิ่งพูดจบ ชายที่อยู่ในบทสนทนา ปรากฏตัวขึ้นที่สตูดิโอ
เพ้ยซานซานกระแอมออกมา และหาข้ออ้างหนีเข้าไปในห้องพัก
ถึงไม่ได้ปิดร้านเพื่อจัดการ แต่เพราะผลกระทบจากความเห็นบนอินเทอร์เน็ต บวกกับปัจจัยภายนอก วันนี้ที่สตูดิโอเงียบจนผิดปกติ ไม่มีลูกค้าสักคน
โจวฉือเซินเดินเข้ามาในสตูดิโอ เหมือนเดินกลับบ้านตัวเอง เขาเดินเข้ามานั่งลงบนโซฟาอย่างคุ้นเคย จากนั้นจึงนวดหัวคิ้วแล้วพูดว่า "ชงกาแฟให้ผมหน่อย"
"......"
ผู้ชายเลวยังกล้าพูดออกมา คิดว่าที่นี่เป็นโจวซื่อกรุ๊ปหรือไง
หร่วนซิงหว่านวางของในมือ แล้วหันหลังเดินไปห้องชงกาแฟ เธอชงกาแฟสำเร็จรูปมาให้เขาหนึ่งแก้ว
หลังวางกาแฟลงตรงหน้าโจวฉือเซิน เธอพูดอย่างไม่สบอารมณ์ว่า "ประธานโจวเป็นกันเองจริงๆ"
โจวฉือเซินยกแก้วกาแฟขึ้น "คุณพูดแบบนี้ไม่เป็นกันเองเลยนะ"
เขาจิบกาแฟ คิ้วสวยขมวดเข้าหากัน แต่กลับไม่พูดอะไร และเอาแก้วกาแฟวางไว้บนโต๊ะตามเดิม
หร่วนซิงหว่านพูดว่า "ประธานโจวมีธุระอะไร ถ้าไม่มีก็กลับไปเถอะ ฉันไม่มีเวลามาต้อนรับคุณ"
โจวฉือเซินได้ยินดังนั้น จึงกวาดตามองไปรอบๆ "ไม่ว่างเหรอ"
หร่วนซิงหว่านกัดฟัน "ประธานโจวมีอะไรก็พูดมาตรงๆ"
โจวฉือเซินยกขายาวมาไขว้ทับกัน แล้วพูดช้าๆ "ผมบอกให้คุณอย่าบุ่มบ่ามกับหลินจืออี้ต่อหน้า แต่ไม่ได้ให้คุณเป็นคนอ่อนแอ ให้เธอบีบตามอำเภอใจ"
"งั้นประธานโจวหมายความว่า......"
"หลังเกิดเรื่อง ทำไมคุณถึงไม่มาหาผม"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สามีเก่า...มาขอแต่งงานอีกแล้ว
เอาอีกแล้ว รวบรัดตัดจบในสามบทสุดท้าย ตัดทิ้งดื้อๆ ไม่เล่าว่าพี่กับพ่อพระเอกเป็นยังไง และตระกูลของหนิงหนิงเป็นไงกัน น้าชั่วของหนิงหนิงตายจริงไหม...