หลังจากที่กลับมาถึงห้องอีกครั้ง หร่วนซิงหว่านเอนนอนลงบนเตียง ทั้งที่รู้สึกเหนื่อยล้าไปทั้งตัว แต่นอนไม่หลับเลย
ผ่านไปครึ่งชั่วโมง โทรศัพท์ที่วางอยู่บนหัวเตียงก็สั่นขึ้นแล้ว
หร่วนซิงหว่านหยิบขึ้นมาดู สายเรียกเข้าจากโจวฉือเซิน
จนกระทั่งใกล้จะสิ้นสุดเสียงเรียกสาย เธอถึงรับสาย
อย่างรวดเร็ว เสียงของโจวฉือเซินแผ่ซ่านเข้ามา : "นอนแล้ว?"
หร่วนซิงหว่านพูด : "ยังนะ"
"ยังไม่นอน?"
หร่วนซิงหว่านไม่พูด
สายในโทรศัพท์หยุดเงียบไปครู่หนึ่ง โจวฉือเซินพูดขึ้นมาอีกว่า : "ผมนั่งเครื่องกลับมาพรุ่งนี้บ่ายนะ"
ผ่านไปนาน หร่วนซิงหว่านพูดว่าอ๋อ
โจวฉือเซินพูด : "เกิดเรื่องอะไรขึ้นกับคุณหรือเปล่า"
หร่วนซิงหว่านพูด : "ไม่นะ จะเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับฉันได้ล่ะ"
"คุณดูผิดปกติ"
"......"หร่วนซิงหว่านพูดอย่างไม่สบอารมณ์ว่า : "คุณนั่นแหละที่ผิดปกติ"
ในเวลานี้ ในสายโทรศัพท์นั้นเหมือนว่ามีคนเรียกโจวฉือเซิน เขาพูดเสียงทุ้มต่ำว่า : "มีเรื่องอะไรก็รอผมกลับไปค่อยคุยกัน ถ้าหากรีบร้อนจริงๆ ล่ะก็ ก็ไปหาเจียงย่าน อย่าไปเสี่ยงอันตรายคนเดียว"
"รู้แล้ว"
เหมือนว่าทางฝั่งนั้นจะเร่งรีบมาก โจวฉือเซินพูดอีกว่า : "อีกเดี๋ยวผมให้เจียงย่านติดต่อคุณมา ห้ามปิดเครื่อง"
"อืม"
หลังจากวางสายโทรศัพท์ หร่วนซิงหว่านถอนหายใจลากยาว เหมือนว่าความไม่สบายใจและวิตกกังวลเมื่อตะกี้ ได้หายไปหมดแล้ว
ทั้งคืน หร่วนซิงหว่านนอนไม่ค่อยหลับเลย
เวลาที่เขียนในจดหมายแบล็กเมล์คือสองทุ่มของวันรุ่งขึ้น หร่วนซิงหว่านก็ไม่ได้เตรียมที่จะไปรวบรวมเงินห้าล้าน แต่เตรียมกระเป๋าที่ว่างเปล่าไว้เรียบร้อยแล้ว
เธอรู้สึกมาตลอดว่า คนที่ส่งจดหมายแบล็กเมล์ให้เธอในครั้งนี้ น่าจะเกี่ยวข้องกับคนที่ส่งเธอเข้าไปในมู่สื้อเมื่อสามปีก่อน
ไม่งั้นในมือของเขาไม่มีทางที่จะมีของพวกนี้ได้
และคนเหล่านั้นในตอนแรก ส่วนใหญ่ก็คือลูกน้องของเซ่หรง ตั้งแต่ที่เซ่หรงพาเธอไปส่งโรงพยาบาลก็หายสาบสูญไปเลย และก็ไม่เคยปรากฏตัวออกมาอีก
กลุ่มคนนั่นมีทั้งคนดีและคนเลวอยู่ปะปนกัน ไม่แน่ว่ารูปภาพก็อาจจะไม่ได้อยู่ในมือของคนคนเดียว
เมื่อคิดถึงสิ่งเหล่านี้ หร่วนซิงหว่านรู้สึกไร้เรี่ยวแรง
จัดการกับคนเหล่านี้ แจ้งความก็ไม่มีประโยชน์ พวกเขาไม่ได้กลัวกฎหมายเลยด้วยซ้ำ
ถึงตอนบ่าย เจียงย่านมาถึงสาย เขายืนอยู่ในสตูดิโอกวาดสายตามองรอบหนึ่ง สุดท้ายก็มองไปที่หร่วนซิงหว่าน : "พูดมาแล้ว ตอนที่คุณเปิดธุรกิจผมควรส่งของขวัญสักชิ้นมาให้ เพียงแต่ว่าผมคิดว่าในตอนนั้นคุณน่าจะไม่อยากเจอหน้าผม"
หร่วนซิงหว่านยิ้มหน้าเจื่อนๆ พูดตามความจริง ตอนนี้เธอก็ไม่ได้อยากเจอหน้าเขาเท่าไหร่ คนที่เสนอไอเดียที่ไม่มีประโยชน์ใดๆ ของโจวฉือเซิน
เจียงย่านยืนพิงเคาร์เตอร์ : "ได้ยินโจวฉือเซินบอกว่าเกิดเรื่องขึ้นกับคุณแล้ว มันเกิดอะไรขึ้นเหรอ?"
หร่วนซิงหว่านพูด : "ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร"
ครุ่นคิดแล้ว หร่วนซิงหว่านก็พูดขึ้นมาอีกว่า : "ขอยืมคนของคุณหน่อยได้ไหม"
"ยืมคนน่ะได้อยู่แล้ว แต่ว่าโจวฉือเซินให้ผมอยู่กับคุณตลอด จนกระทั่งเขากลับมา คุณพูดมาก่อน ถ้าหากเรื่องมันไม่ได้ร้ายแรงล่ะก็ ผมก็จะส่งคนมาให้คุณเลย ผมก็ไม่ไปแล้ว"
หร่วนซิงหว่านมองไปที่เขา ขมวดคิ้วแน่น เหมือนว่ากำลังลังเล
เจียงย่านสังเกตเห็นความกังวลของเธอ เคาะนิ้วมือเบาๆ บนโต๊ะสองสามครั้ง : "คุณไม่อยากให้โจวฉือเซินรู้?"
เรื่องนี้ หร่วนซิงหว่านไม่คิดที่จะบอกโจวฉือเซินตั้งแต่แรกแล้ว เพียงแต่เธอก็รู้อยู่แล้ว แม้ว่าจะให้เพ้ยซานซานไปเป็นเพื่อนเธอ ด้วยพละกำลังของพวกเธอสองคน ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของอีกฝ่าย
เพราะงั้นตอนที่โจวฉือเซินเสนอให้เจียงย่านติดต่อเธอ เธอก็ไม่ได้ปฏิเสธ
ผ่านไปครู่หนึ่ง หร่วนซิงหว่านถึงได้หยิบจดหมายแบล็กเมล์ฉบับนั้นส่งให้เขา พูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจังว่า : "ฉันไม่ได้คิดที่จะให้เงินเขาจริงๆ ยิ่งไปกว่านั้นก็ไม่เคยคิดที่จะขอเงินจากโจวฉือเซิน ฉันแค่อยากจะไปดูสถานการณ์ที่นั่นก่อน หาโอกาสแจ้งความ"
เจียงย่าน:"......"
เกี่ยวกับความกังวลของหร่วนซิงหว่าน เจียงย่านเข้าใจอย่างมาก
ถึงอย่างไร เมื่อไม่นานมานี้ หร่วนซิงหว่านในสายตาของโจวฉือเซินก็ยังคงเป็นผู้หญิงที่ให้ความสำคัญกับเงินมากกว่าชีวิต เพื่อให้บรรลุเป้าหมายไม่ว่าจะต้องทำอะไรก็ยอมทำทั้งนั้น
ถ้าหากเรื่องนี้เกิดขึ้นก่อนที่พวกเขาจะหย่ากัน งั้นหร่วนซิงหว่านต่อให้พูดยังไงก็ไม่อาจจะอธิบายได้ชัดเจนแล้วจริงๆ
เจียงย่านอ่านเนื้อหาในจดหมายแบล็กเมล์ครู่หนึ่ง เอ่ยถามทันทีว่า : "รูปภาพอยู่ที่คุณ?"
หร่วนซิงหว่านเม้มริมฝีปาก พยักหน้าเบาๆ
เจียงย่านถามอีกว่า : "คุณแน่ใจนะว่าเป็นรูปที่ถ่ายในตอนนั้น?"
หร่วนซิงหว่านสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้ว : "ใช่"
"งั้นก็แปลกแล้ว"
"แปลกอะไร?"
"ตอนนั้นที่อยู่มู่สื้อ คนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ทั้งหมด ล้วนแต่ถูกจัดการจนเกลี้ยงหมดแล้ว ไม่มีเหตุผลที่จะหลงเหลือรูปภาพไว้"
เมื่อได้ยิน หร่วนซิงหว่านก็ตกตะลึงเล็กน้อย : "จัดการ?"
เจียงย่านวางจดหมายแบล็กเมล์ลงมองไปที่เธอ : "ในตอนนั้นไม่ว่ายังไงคุณก็เป็นภรรยาของโจวฉือเซิน แม้ว่าปากเขาจะบอกว่าเกลียดคุณ แต่จะให้เรื่องนี้รั่วไหลออกไปจริงๆ ได้อย่างไรกัน"
เพราะงั้น ทุกคนเพียงแค่รู้ว่าหร่วนซิงหว่านถูกขายไปให้มู่สื้อ แต่ว่าสุดท้ายแล้วขายให้กับใคร และมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ในคืนนั้น กลับว่าไม่มีใครที่รู้ความจริงแม้แต่คนเดียว
แม้แต่หร่วนซิงหว่านเองก็ด้วย ไม่เคยไปคิดถึงเรื่องนี้เลย
ผ่านไปนาน เธอถึงพูดว่า : "สรุปว่า......คุณอย่าบอกเขานะ คืนนี้ฉันไปดูก่อน ถ้าหากอีกฝ่ายต้องการเพียงแค่เงินเท่านั้น ฉันค่อยคิดหาวิธี"
ในเมื่ออีกฝ่ายส่งรูปภาพเหล่านี้มาให้เธอ เห็นได้ชัดว่าทางฝั่งนั้นจะต้องมีฟิล์มแน่นอน ถ้าหากเธอผลีผลามไปแจ้งทำให้อีกฝ่ายรู้ตัว ก็เป็นการล้มเหลวในขั้นตอนสุดท้าย ทำให้รูปภาพถูกเปิดเผยออกไป
เจียงย่านพูด : "ผมไปกับคุณดีกว่านะ"
หร่วนซิงหว่านพูด : "แต่ว่าเขาให้ฉันไปแค่คนเดียวนะ"
"คุณก็บอกแค่ว่าผมเป็นคนขับรถ" เจียงย่านมองไปยังกระเป๋าที่เธอวางไว้ข้างกาย: "เล่นละครก็ต้องเล่นให้สมจริงหน่อย คุณทำแบบนี้แม้แต่ที่ว่างให้ต่อรองเจรจากันก็ไม่มี"
เจียงย่านส่งกระเป๋าให้กับลูกน้องที่อยู่ข้างหลังเขา หลังจากที่ให้พวกเขาเตรียมตัวกันแล้ว ถึงจะพูดกับหร่วนซิงหว่านว่า : "คุณวางใจได้ ผมไม่บอกโจวฉือเซินหรอกนะ คืนนี้ผมไปกับคุณ รับรองว่าทุกอย่างจะจัดการได้อย่างเหมาะสม"
หร่วนซิงหว่านพยักหน้าแล้ว : "ขอบคุณ"
กลางคืน รถจอดแถวหน้าตึกที่พักอาศัยที่อยู่ละแวกโรงเรียนมัธยมศึกษา
หร่วนซิงหว่านเพิ่งจะลงจากรถ ก็ได้ยินเสียงแหบๆ ของผู้ชายแผ่ซ่านเข้ามาในความมืดแล้ว : "ขึ้นไปยังชั้นบนสุดทางฝั่งนั้น"
หร่วนซิงหว่านมองไปแล้ว เห็นชั้นสองที่อยู่ไม่ไกล มีพื้นที่ที่กว้างขวางมาก
ในเวลานี้ เจียงย่านก็ลงมาจากรถแล้ว
ผู้ชายพูดทันที : "บอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าให้คุณมาคนเดียว!"
เจียงย่านยกมือขึ้นสองข้าง : "ฉันมาส่งเธอก็เท่านั้น เพื่อน ผู้หญิงออกจากบ้านตอนกลางคืนไม่ปลอดภัย สิ่งที่นายต้องการมีแค่เงินเท่านั้น สนใจอะไรมากมายล่ะ ฟิล์มก็อยู่ในมือของนายน่ะ เราก็ทำอะไรนายไม่ได้สักหน่อย "
ในความมืด ผู้ชายเงียบไปครู่หนึ่งถึงพูดว่า : "แกยืนอยู่ตรงนั้นแหละ อย่าขยับ ห้ามขยับแม้แต่ก้าวเดียว!"
"โอเคๆ ฉันไม่ขยับ" พูดแล้ว เจียงย่านมองไปที่หร่วนซิงหว่านแวบหนึ่ง หร่วนซิงหว่านถือกระเป๋า เดินไปยังชั้นสองทางฝั่งนั้น
ก้าวถึงบันไดขั้นสุดท้ายแล้ว หร่วนซิงหว่านก็ได้ยินเสียงผู้ชายที่อยู่ไกลๆ แผ่ซ่านเข้ามาอีกว่า : "ฉันให้แกเอาเงินมาห้าล้านไม่ใช่เหรอ?ในนี้มีเพียงแค่เท่าไหร่เอง?แกเล่นตุกติกกับฉันเหรอ!"
หร่วนซิงหว่านน้ำเสียงสงบนิ่ง : "ในนี้มีเพียงแค่ส่วนหนึ่ง รอนายเอาฟิล์มมาให้ฉันแล้ว ฉันจะเอาเงินส่วนที่เหลือให้นาย"
"ถุย!แกอย่ามาเล่นบิดพลิ้วแบบนี้กับฉันนะ รีบเอาเงินส่วนที่เหลือมา ไม่งั้นฉันจะโพสต์รูปลงบนอินเทอร์เน็ต ทำให้แกต้องอับอายไปทั้งชีวิต!"
หร่วนซิงหว่านจ้องมองไปในความมืดนั่น ขมวดคิ้วเบาๆ แล้วครู่หนึ่ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สามีเก่า...มาขอแต่งงานอีกแล้ว