สามีเก่า...มาขอแต่งงานอีกแล้ว นิยาย บท 297

ข้างในห้อง หร่วนซิงหว่านหานาฬิกาพกออกมาจากกล่อง จากนั้นก็เอาข้อมูลการซื้อขายออกมาจากกระเป๋า แล้วก็มายืนยันว่าเลขที่รุ่นนี้นั้นถูกต้องอีกครั้ง

เธอดูวนไปวนมาหลายรอบ ในที่สุดก็เห็นแล้วว่ามีส่วนหนึ่งที่ไม่เหมือนกัน

นาฬิกาพกอันนี้มีอายุยี่สิบกว่าปีแล้ว แล้วก่อนหน้านี้ก็อยู่ในมือหร่วนจุนมาตลอด จึงโดนสึกหรอไปค่อนข้างมาก และมีรอยอยู่หลายแห่ง

และร่องรอยที่โดนเธอละเลยมาตลอดนั้น ที่ด้านล่างของร่องรอยหนึ่งที่จริงแล้วมีตัวอักษรอยู่ตัวหนึ่ง

สามารถดูออกได้เลือนรางว่าเป็นตัวอักษรM

หลินจื้อหย่วนสามตัวอักษร ก็ไม่ใกล้เคียงกับตัวอักษรนี้นี่

แล้วหร่วนซิงหว่านก็เอาบันทึกการซื้อขายมาเปิดดูอีกรอบหนึ่งตั้งแต่ต้นจนจบ ก็พบว่ามีแต่ตรงบันทึกการซื้อขายของหลินจื้อหย่วนนั้น มีเครื่องหมายดอกจันมาร์กเอาไว้

หร่วนซิงหว่านคิดวิเคราะห์ดูเล็กน้อย แล้วก็โทรศัพท์หาผู้รับผิดชอบ

หลังจากที่โทรติดแล้ว เธอก็พูดขึ้นว่า "คุณมู่ ฉันคือหร่วนซิงหว่านค่ะ ต้องขอโทษด้วยนะคะดึกขนาดนี้แล้วยังมารบกวนคุณอีก ฉันมีปัญหาอย่างหนึ่งอยากจะถามคุณค่ะ"

"คุณพูดมาเถอะ"

"เมื่อกี้ฉันเพิ่งดูบันทึกการซื้อขายเมื่อกี้ แล้วก็เห็นมีเครื่องหมายดอกจันอันหนึ่งค่ะ แต่อันอื่นต่างก็ไม่มี ฉันอยากจะถามหน่อยว่า อันนี้มันหมายความว่ายังไงคะ?"

"อ๋อ อันนั้นเหรอ อันนั้นน่าจะเป็นลูกค้าพิเศษของเรา สำหรับลูกค้าพิเศษนั้น สามารถสั่งทำนาฬิกาพกได้ แต่ผมจำได้ว่า ลูกค้าพิเศษนั้นน่าจะมีน้อยมากเลยนะ"

หร่วนซิงหว่านกลั้นหายใจไว้ แล้วถามขึ้นอย่างระมัดระวังว่า "งั้นของถามหน่อยนะคะ ว่าลูกค้าพิเศษนั้น ปกติแล้วหมายถึงใครบ้างคะ?"

"ปกติแล้วจะเป็นผู้บริหารระดับสูงของโรงงานผลิต หรือว่าเป็น......อ๋อ ใช่แล้ว อยู่ๆ ผมก็นึกขึ้นมาได้ เหมือนกับว่าคุณหลินเองก็เคยสั่งทำนาฬิกาพกไปสองอันนะ"

หร่วนซิงหว่านถามต่อขึ้นว่า "คุณหลินคือใครคะ?"

"พื้นที่ทั้งแถวโรงงานเป็นของคุณหลินทั้งหมด โรงงานผลิตเขาก็ร่วมลงทุนด้วยเหมือนกัน" พูดแล้ว คนแก่ก็พูดไปเองเรื่อยๆ ขึ้นว่า "ใช่แล้ว ใช่แล้ว คุณหลินจะต้องเคยสั่งทำนาฬิกาพกไปสองอันแน่ ตอนนี้ผมยังเป็นคนรับผิดชอบดูแลเขาด้วย เขาบอกว่านาฬิกาพกอันนี้เขาจะเอาไปมอบให้กับภรรยาเป็นของขวัญวันแต่งงาน......อันหนึ่งแกะเป็นชื่อของเขา อีกอันหนึ่งให้แกะเป็นชื่อภรรยาของเขา"

พอฟังมาถึงตอนนี้ หร่วนซิงหว่านก็ได้รับคำตอบแล้ว เธอพูดขึ้นว่า "ฉันรู้แล้วค่ะ ขอบคุณคุณมู่มากนะคะ"

พอวางสายไป หร่วนซิงหว่านก็จ้องมองนาฬิกาพกอยู่ตลอด แล้วก็ไม่พูดอะไร

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานขนาดไหน เสียงเคาะประตูเบาๆ ก็ดังเข้ามา จากนั้นประตูก็โดนผลักออก เพ้ยซานซานยื่นหัวอันหนึ่งเข้ามา "ซิงซิง เธอยุ่งอยู่เหรอ? กับข้าวเย็นหมดแล้ว จะไปกินก่อนแล้วค่อยมาทำต่อไหม?"

หร่วนซิงหว่านรวบรวมความคิดกลับมา แล้ววางนาฬิกาพกลงแล้วยิ้มเล็กน้อย "ได้"

ตอนที่กินข้าวนั้น เพ้ยซานซานเห็นหร่วนซิงหว่านมักจะเหม่อลอยอยู่ตลอด ก็เลยนึกว่าเธอยังเป็นกังวลเพราะว่าข้อมูลการซื้อขายอันนั้น จึงพูดปลอบใจขึ้นว่า "ซิงซิง เธออย่าคิดมากขนาดนั้นเลยนะ มีคนซื้อนาฬิกาพกไปตั้งมากขนาดนั้น มันก็ไม่แน่ว่าจะเป็น......บนนั้นก็มีเบอร์โทรติดต่ออยู่ไม่ใช่เหรอ เดี๋ยวพรุ่งนี้ พวกเรามาลองโทรทีละเบอร์ทีละเบอร์ ถ้าโทรไม่ติด พวกเราก็......"

หร่วนซิงหว่านพูดขึ้นว่า "ซานซาน ไม่มีอะไรแล้ว เอาตามนี้ไปก่อนเถอะ อย่างอื่นไว้วันหลังค่อยว่ากัน"

พอได้ยินแบบนี้ เพ้ยซานซานก็พยักหน้าขึ้นมาเล็กน้อย แล้วก็ไม่พูดหัวข้อนี้ต่ออีก แต่กลับล้วงโทรศัพท์ออกมา "ซิงซิง ฉันดูบ้านมาหลายที่เลยไม่เลวนะ มีอยู่สองแห่งอยู่ตรงหมู่บ้านอพาร์ทเม้นท์ยีกุ้ย สุดสัปดาห์นี้พวกเราสามารถไปดูกันที่นี่ได้"

หลังจากที่เงียบขรึมไปครู่หนึ่งแล้ว หร่วนซิงหว่านถึงพูดขึ้นว่า "ซานซาน ฉันอาจจะไปดูบ้านพร้อมเธอไม่ได้แล้ว ฉันกะว่าจะไปที่แห่งหนึ่งน่ะ"

บนหน้าของเพ้ยซานซานมีรอยยิ้มที่กรุ้มกริ่มโผล่ออกมา "จะย้ายไปอยู่กับประธานโจวใช่หรือเปล่าล่ะ?"

หร่วนซิงหว่านยิ้มแล้วส่ายหน้าเล็กน้อย "รอให้ผ่านไปช่วงหนึ่งฉันค่อยบอกเธอนะ"

ตอนนี้เธอเองก็ไม่รู้ว่าควรจะพูดยังไงดี เพราะทุกอย่างเป็นเพียงแค่สิ่งที่เธอคาดเดาขึ้นมาเท่านั้น

แต่ไม่ว่าจะเป็นยังไง เธอก็ต้องไปหายืนยันให้ได้

เพ้ยซานซานพูดขึ้นว่า "ได้ แต่ถ้าเธอมีเรื่องอะไรจะต้องบอกฉันให้ได้นะ อย่าเก็บไว้ในใจเองคนเดียวเด็ดขาด"

"ได้"

หลังจากที่กินข้าวเสร็จแล้วไม่นาน เพ้ยซานซานก็กลับไปนอนที่ห้องแล้ว

หร่วนซิงหว่านนั่งอยู่ที่ห้องรับแขกไปพักหนึ่ง พอคิดวิเคราะห์ดูแล้ว ก็ลุกขึ้นมา แล้วไปเคาะประตูห้องข้างๆ

ตอนที่Danielเห็นเธอนั้น ก็เหมือนกับว่าจะไม่ได้แปลกใจอะไร เพียงแต่พูดขึ้นว่า "เข้ามาคุยกันข้างในเถอะ"

หร่วนซิงหว่านตามอยู่ข้างหลังเขา แล้วเดินเข้าไป

Danielดึงประตูตู้เย็นออก "คุณหร่วนอยากจะดื่มอะไรครับ?"

"น้ำเปล่าแก้วหนึ่งก็พอแล้วค่ะ"

Danielยักคิ้วขึ้น แล้วเทน้ำอุ่นมาให้เธอแก้วหนึ่ง

พอมานั่งลงแล้ว Danielก็พูดขึ้นว่า "ถ้าหากผมเดาไม่ผิดละก็ ที่คุณหร่วนมาหาผมนั้นน่าจะเป็นเพราะเรื่องของหลินจืออี้ใช่ไหมครับ"

หร่วนซิงหว่านยกแก้วน้ำขึ้นมา แล้วพูดขึ้นช้าๆ ว่า "ใช่ แต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมด"

Danielไม่เข้าใจ "อ๋อ?"

หร่วนซิงหว่านพูดต่อ "ฉันอยากจะไปตรวจสอบอะไรที่บ้านตระกูลหลินหน่อยค่ะ และน่าจะลากหลินจืออี้เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยไม่มากก็น้อยค่ะ"

"คุณหร่วนอยากจะตรวจสอบอะไรหรือครับ?"

หร่วนซิงหว่านพูดขึ้น "ขอโทษค่ะ ไม่ใช่ว่าฉันจะไม่อยากจะบอกไปตามตรง เพียงแต่ว่ามีเรื่องมากมายแม้แต่ตัวฉันเองก็ยังไม่แน่ใจเลยค่ะ เพราะฉะนั้น......"

Danielเข้าใจความหมายของเธอ แล้วก็ยิ้มขึ้นเล็กน้อย "คุณหร่วนอย่าถือสาเลยครับ ผมก็แค่ถามไปเฉยๆ เท่านั้น"

เขาพูดขึ้นอีกว่า "อีกสามวันให้หลัง หลินซื่อกรุ๊ปมีงานเปิดประมูลโครงการอันหนึ่ง พอถึงเวลานั้นบุคคลมีชื่อมากมายในวงการนี้ก็จะมาร่วมงานทั้งนั้น ผมคิดว่า ประธานโจวเองก็คงไม่น่าจะพลาดโอกาสในครั้งนี้ด้วย ถึงผมจะไม่รู้ว่าตกลงคุณหร่วนอยากจะทำอะไรกันแน่ แต่ผมรู้สึกว่า นี่สำหรับคุณแล้ว อาจจะเป็นโอกาสครั้งหนึ่งก็ได้"

มุมปากของหร่วนซิงหว่านเม้นขึ้นเล็กน้อย นี่คือโอกาสที่หาได้ยากครั้งหนึ่งจริงๆ

Danielพูดขึ้นว่า "ถ้าหากผมเดาไม่ผิดละก็ ในเมื่อคุณหร่วนมาหาผมแล้ว ก็น่าจะไม่อยากให้ประธานโจวช่วยเหลือใช่ไหมครับ ผมสามารถช่วยคุณหร่วนเอาการ์ดเชิญมาได้ครับ"

หร่วนซิงหว่านกลับคิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบนี้ หลังจากที่อึ้งไปครู่หนึ่งแล้ว ก็ไม่ได้ปฏิเสธ แล้วก็พูดขอบคุณขึ้นเสียงเบา "ขอบคุณค่ะ"

"ไม่ต้องเกรงใจหรอกครับ ก็ศัตรูของศัตรูก็คือมิตรนี่ครับ"

หร่วนซิงหว่านหยุดนิ่งไปครู่หนึ่ง "ศัตรูเหรอคะ?"

เธอรู้ว่าDanielต่อกรกับตระกูลหลินมาตลอด แต่ก็เพิ่งได้ยินครั้งแรกที่เห็นเขาเรียกตระกูลหลินว่าเป็นศัตรู ตอนนี้มาดูแล้ว เหมือนกับว่าเป้าหมายของเขาจะชัดเจนขึ้นมามากเลย

ขาที่เรียวยาวของDanielไขว้เข้าหากัน แล้วก็เปิดปากพูดขึ้นมาอย่างไม่ทุกข์ไม่ร้อน "จากพวกปัญหาที่หลินซื่อกรุ๊ปแสดงออกมาในครั้งนี้ คุณหร่วนน่าจะสามารถมองออกมาได้ว่า คนที่ต่อต้านหลินซื่อกรุ๊ปก็มีอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน แต่ว่าศัตรูที่ตัวฉกาจที่สุด ก็ยังคือประธานโจวไม่ใช่ใครอื่นอยู่ดี"

พอได้ยินคำพูดนี้ หร่วนซิงหว่านก็ยิ้มอย่างอึดอัดขึ้นเล็กน้อย

ไม่มีใครรู้เลย ว่าทำไมโจวฉือเซินกับหลินซื่อกรุ๊ปถึงได้กลายเป็นศัตรูกันไปได้

และนี่ก็คือสาเหตุว่าเพราะอะไรเธอถึงได้มาหาDaniel แต่ไม่ได้ไปหาโจวฉือเซิน

โจวซื่อกรุ๊ปตั้งแต่แรกก็มีทั้งปัญหาภายในและภายนอก เธอจึงไม่อยากจะลากโจวฉือเซินเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย

หร่วนซิงหว่านลุกขึ้นแล้วพูดขึ้นว่า "งั้นก็รบกวนด้วยนะคะ"

"แต่ว่ายังไงผมก็ยังอยากจะเตือนคุณหร่วนสักคำ ตอนนี้โจวฉือเซินเป็นคู่แข่งของตระกูลหลิน มีความเป็นไปได้สูงมากว่าพวกเขา อาจจะเอาความโกรธเคืองนี้มาลงที่คุณหร่วนได้"

คำพูดของDanielพูดได้ชัดเจนมากแล้ว เข้าเชื่อว่า หร่วนซิงหว่านน่าจะสามารถเข้าใจความหมายของเขาได้

หร่วนซิงหว่านพยักหน้าเล็กน้อย "ฉันรู้ว่าอะไรควรไม่ควรค่ะ แต่ไม่ว่ายังไง ฉันก็ต้องพูดขอบคุณกับคุณสักคำนะคะ"

ที่จริงวันนี้เธอแค่จะมาถามความเคลื่อนไหวในช่วงนี้ของตระกูลหลิน จริงๆ แล้วDanielแค่บอกเธอมาก็พอแล้ว ไม่จำเป็นที่จะต้องช่วยเธอเลย แต่ว่าเขากลับเป็นฝ่ายเอ่ยออกมาว่าจะช่วยเอาการ์ดเชิญมาให้เธอ

Danielไม่ได้ถามความลับของเธอมากมาย และแน่นอนว่าเธอเองก็จะไม่ไปถามของเขาเหมือนกัน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สามีเก่า...มาขอแต่งงานอีกแล้ว