สามีเก่า...มาขอแต่งงานอีกแล้ว นิยาย บท 299

หร่วนซิงหว่านหลับตาไว้ ผ่านไปไม่กี่นาทีถึงรู้สึกว่าฟูกนอนข้างตัวเองค่อยๆ ยุบลงมาเล็กน้อย

จากนั้น ร่างกายที่อุ่นร้อนของชายหนุ่มก็นอนลงข้างๆ ตัวเธอ

หร่วนซิงหว่านเพิ่งอยากจะขยับไปชิดขอบเตียง แขนข้างหนึ่งของโจวฉือเซินก็โอบอยู่ที่เอวของเธอเลย แล้วถามเสียงต่ำขึ้นว่า "ใส่เสื้อผ้านอนเยอะขนาดนี้ แถมยังห่มผ้าห่มด้วย ไม่ร้อนเหรอ?"

"......ไม่ร้อน" คือเรื่องปลอม

ตอนนี้เธอทั้งร้อนทั้งอึดอัด แล้วก็อึดอัดจนหายใจไม่ออกขึ้นมาอย่างรวดเร็วเลย

ที่ด้านหลัง โจวฉือเซินเองก็ไม่ได้พูดอะไรอีก เพียงแต่แค่กอดเธอไว้แน่นเท่านั้น

พอผ่านไปครู่หนึ่ง หร่วนซิงหว่านก็ได้ยินเสียงลมหายใจอย่างสม่ำเสมอของชายหนุ่มลอยมา

เธอค่อยๆ หันหน้าไป แล้วลองเปิดปากพูดขึ้นเสียงเบาว่า "ประธานโจวคะ?"

สิ่งที่ตอบเธอกลับมา คือความเงียบทั้งหมด

ดูท่าคงจะหลับไปแล้วจริงๆ

หร่วนซิงหว่านโล่งอกไปได้เปลาะหนึ่ง แล้วก็ดึงแขนเขาออกอย่างระมัดระวัง แล้วก็ยื้อตัวออกมาจากอกของเขา

เธอนั่งลงบนเตียง หันไม่มองโซฟา แล้วก็มองผู้ชายชั่วที่นอนหลับอยู่เล็กน้อย แต่สุดท้ายก็ยอมแพ้ไป

พอถอดเสื้อคลุมออกแล้ว หร่วนซิงหว่านก็นอนลงไปอีกครั้ง ตอนที่นอนลงไปนั้น ก็ยังพยายามรักษาระยะห่างกับโจวฉือเซินให้ได้มากที่สุด

ดวงตาของเธอลืมจนตาโต เมื่อเทียบกับเมื่อกี้ที่ง่วงจะแย่แล้ว ตอนนี้กลับไม่มีความง่วงเลยแม้แต่เสี้ยวเดียว

แต่มาลองคิดดูแล้วมันก็ใช่ อีกฝ่ายเป็นคู่แข่งที่แข็งแกร่งขนาดนั้นคนหนึ่ง สมาธิของเธอจะสามารถผ่อนคลายลงจริงๆ ได้ยังไง

ถ้าหากว่าเธอจะเข้าไปในบ้านตระกูลหลินได้แล้วจริง หลินจื้อหย่วนกับหลินจืออี้ก็จะยิ่งหวาดระแวงเธอมากขึ้น

ถ้าเธออยากจะหาความจริงให้เจอ ก็คงจะไม่ง่ายขนาดนั้นแล้ว

แล้วในตอนที่หร่วนซิงหว่านกำลังคิดได้อย่างออกรสนั้น อยู่ๆ ก็รู้สึกว่าที่เอวหนักอึ้ง มือของชายหนุ่มมาวางไว้ที่เอวเธออีกครั้งอย่างแม่นยำไม่ผิดพลาด

หร่วนซิงหว่าน "......"

เธอพูดขึ้นอย่างอารมณ์ไม่ดีว่า "ประธานโจว คุณอย่าชิดเข้ามาอีกเลย ฉันจะตกลงไปจากขอบเตียงแล้วนะ"

โจวฉือเซินไม่ได้ตอบกลับ

หร่วนซิงหว่านพูดต่อขึ้นว่า "ฉันรู้ว่าคุณยังไม่หลับ เร็วๆ เลย ขยับไปทางนั้นหน่อย"

พูดแล้ว ก็ยื่นมือไปผลักเขาเล็กน้อย

ในความมืด โจวฉือเซินค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา เรียวปากบางคลี่ยิ้มออกเล็กน้อย แล้วจับมือเธอไว้ และก็รวบตัวเธอเข้ามาอยู่ในอกทั้งตัว "คุณก็พิงตัวผมไว้หน่อย ก็จะไม่ตกลงไปแล้วไม่ใช่เหรอ ใครใช้ให้คุณเอาแต่จะไปนอนตรงขอบเตียงล่ะ"

หร่วนซิงหว่านรู้ว่าตัวเองถึงจะมีปากสิบอันก็คงจะเถียงไม่ชนะผู้ชายชั่วนี่หรอก เธอเงียบขรึมไปครู่หนึ่ง แล้วพูดอย่างหงุดหงิดขึ้นว่า "ฉันง่วงแล้ว จะนอน!"

โจวฉือเซินอืมไปเบาๆ คำหนึ่ง นอกจากกอดตัวเธอไว้ ก็ไม่ได้ทำอะไรอย่างอื่นที่เกินเลยไปอีก

นี่ทรมาทรกรรมกันมาทั้งคืน ความง่วงที่เพิ่งหายไปเมื่อกี้ก็ค่อยๆ หวนกลับมาอีกแล้ว คราวนี้ตาของหร่วนซิงหว่านจะลืมขึ้นก็ยังเปลืองพลังงานแล้ว ตอนแรกเธอกะว่าจะนอนตะแคงข้าง แต่กลับโดนโจวฉือเซินบีบบังคับมาอยู่ในอ้อมกอดของเขาจนได้

ฟังเสียงหัวใจเต้นที่มีเรี่ยวแรงและมั่นคงของชายหนุ่มไป ผ่านไปไม่นาน หร่วนซิงหว่านเองก็นอนหลับสนิทไปเลย

โจวฉือเซินจูบลงตรงหน้าผากของเธอเล็กน้อย แล้วก็พูดเสียงต่ำขึ้นว่า "ราตรีสวัสดิ์"

คราวที่แล้วที่ได้กอดตัวเธอไว้อย่างนี้ เหมือนกับว่าจะเป็นเรื่องที่นานมามากแล้ว

......

ด้วยการมาถึงของฤดูใบไม้ผลิ อากาศในแต่ละวันต่างก็กำลังเพิ่มสูงขึ้น

เวลาผ่านไปรวดเร็วมาก แล้วก็มาถึงวันที่มีงานประมูลแล้ว

หลังจากที่หร่วนซิงหว่านเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว แล้วก็แต่งหน้าที่สว่างสดใสสวยงามหน่อยหนึ่ง

รอจนทำทุกอย่างนี้ทำเสร็จแล้ว เธอก็ดูเวลาเล็กน้อย เป็นเวลาบ่ายสองโมง

งานประมูลนั้นจะเริ่มขึ้นตอนบ่ายสามโมง ถ้าเธอไปตอนนี้ ก็ทันเวลาพอดี

ตอนที่จากไปนั้น เธอเอานาฬิกาพกมาเก็บไว้ในกระเป๋า แล้วก็ค่อยๆ สูดลมหายใจเข้าทีหนึ่ง แล้วเดินทีละก้าวทีละก้าวออกไป

เริ่มตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป ก็ไม่มีทางที่จะให้หันกลับแล้ว

เธอจะยืนหยัดไปเรื่อยๆ จนให้ถึงวันที่ตามหาความจริงพบ

ที่งานประมูล

หลินจืออี้จ้องมองผู้คนที่เข้ามาทักทายกับเธอไม่ขาดสาย รอยยิ้มเย็นชาที่มุมปากมีแววเยาะเย้ยอยู่

พวกเขามีความคิดอะไรอยู่ เธอนั้นรู้ดีเป็นที่สุด

ก็แค่มาทำให้เธอพอใจ เพื่อให้บรรลุเงื่อนไขที่มีผลประโยชน์ต่อตัวเองเท่านั้น

ตระกูลหลินก็แค่ประสบกับความเสี่ยงครั้งหนึ่งเท่านั้น คนพวกนี้ก็อดรนทนไม่ไหวแล้ว และถึงแม้ว่าตระกูลหลินจะเกิดเรื่องขึ้นมาจริงๆ แต่เธอก็ยังเป็นคุณหนูใหญ่ของตระกูลหลิน คนพวกนี้คู่ควรด้วยเหรอ?

และอย่างรวดเร็ว แม้แต่รับหน้าหลินจืออี้ก็ยังไม่อยากจะรับหน้าแล้ว เธอรับแก้วเหล้ามา แล้วก็หาDanielเจอในงาน แล้วก็ถามขึ้นเรียบๆ ว่า "เรื่องที่ฉันให้คุณไปสืบ สืบได้ความยังไงบ้างแล้ว"

Danielจิบแชมเปญที่อยู่ในแก้วไปคำหนึ่ง แล้วยักคิ้วไปทีหนึ่ง "น่าจะสืบได้พอประมาณแล้วครับ"

หลินจืออี้สีหน้าตื่นเต้นขึ้นมา "รีบบอกฉันมาเร็ว!"

"ไม่ต้องรีบร้อน รอให้งานประมูลเสร็จแล้วค่อยว่ากันเถอะครับ ผมรู้สึกว่าความจริงของเรื่องราว อาจจะต้องเกินความคาดหมายของคุณไปบ้าง"

หลินจืออี้กำลังอยากจะเปิดปากพูดขึ้น ในงานก็เกิดความเคลื่อนไหวขึ้นมาเล็กน้อย เพราะว่าโจวฉือเซินมาแล้ว

หลินจืออี้สองมือกอดอก แล้วจ้องมองไปทางโจวฉือเซิน ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่

Danielมองไปตามสายตาของเธอ นิ้วมือเรียวยาวก็กำลังเล่นแก้วเหล้าที่อยู่ในมือไป "ถ้าผมเดาไม่ผิดละก็ ตอนนี้คุณก็คงน่าจะยังไม่ยอมปล่อยโจวฉือเซินตัวเลือกที่ดีขนาดนี้ไปหรอกใช่ไหมครับ"

พอได้ยินแบบนี้ หลินจืออี้ก็อึ้งไปเล็กน้อย แล้วรวบรวมสายตากลับมา "ไม่มีเรื่องแบบนั้นหรอก"

Danielยิ้มเล็กน้อย ไม่ได้แสดงออกอะไรชัดเจนมากนัก

ถึงแม้ว่าหลินจืออี้จะปฏิเสธ แต่ว่าตอนนี้คนที่จะสามารถช่วยฉุดหลินจืออี้ได้จริงๆ ก็มีแต่โจวฉือเซินแล้ว

ส่วนเขาถ้าอยากจะทำอย่างนั้นจริงๆ ทั้งหลินซื่อกรุ๊ปเขาก็จะสามารถได้ไปง่ายๆ เลย

แต่น่าเสียดาย ถึงโจวฉือเซินจะอยากได้หลินซื่อกรุ๊ปมาจริงๆ แล้วถึงจะไม่ได้ใช้วิธีแบบนี้ ใครๆ ก็รู้ว่าเงื้อมมือของโจวฉือเซินนั้นเลือดเย็นและแข็งกร้าวมากแค่ไหน แล้วตอนนี้หลินจืออี้หวังเป็นอย่างยิ่งมากว่าจะสามารถสานสัมพันธ์กับโจวฉือเซินใหม่ได้ ถึงแม้ว่าจะต้องเสียหลินซื่อกรุ๊ปไปให้กับมือของโจวฉือเซินก็ตาม

เหมือนกับว่าจะรู้สึกถึงสายตาของเขา โจวฉือเซินก็มองมาจากระหว่างฝูงชน ใบหน้าเย็นชาเรียบเฉย

ดูท่าเขาเองก็มีการเตรียมการก่อนมาแล้ว

Danielยกแก้วที่อยู่ในมือขึ้นมา แล้วก็ชูแก้วขึ้นให้เขาจะระยะไกล

โจวฉือเซินไม่ได้สนใจเขา แล้วก็รวบรวมสายตากลับมา

Danielพูดต่อว่า "ตอนนี้สำหรับหลินซื่อกรุ๊ปแล้ว คู่แข่งที่ใหญ่ที่สุดก็คือโจวฉือเซินแล้วใช่ไหม คุณคิดดีหรือยังว่าจะต่อกรกับเขายังไง"

หลินจืออี้พูดขึ้น "โจวฉือเซินหยิ่งยโสมากเกินไป และรู้สึกว่าเรื่องอะไรก็ล้วนอยู่ในกำมือเขาทั้งนั้น ยิ่งเป็นคนแบบนี้ ยิ่งสามารถหาข้อบกพร่องจากตัวเขาออกมาได้"

"อ๋อ? เหรอครับ"

"คนอื่นฉันไม่รู้ แต่ว่าจุดอ่อนที่ใหญ่ที่สุดของโจวฉือเซิน ก็คือหร่วนซิงหว่านไม่ใช่เหรอ"

Danielเหล่ตามองเธอทีหนึ่ง "คุณแน่ใจเหรอครับว่าเขาจะยอมโดนข่มขู่เพราะว่าผู้หญิงคนหนึ่งได้?"

หลินจืออี้หัวเราะเสียงเย็นขึ้นมาคำหนึ่ง "คุณมองเขาสูงเกินไปแล้ว โจวฉือเซินไม่ได้ร้ายกาจขนาดที่คุณคิดหรอก พูดจนสุดแล้ว เขาก็แค่เพื่อผู้หญิงคนนั้นแล้ว ยอมละทิ้งโอกาสเดียวที่สามารถล้มล้างตระกูลโจวไปได้"

Danielยิ้มเรียบๆ ไม่พูดอะไร นักธุรกิจไม่มีทางที่จะทำการค้าที่ขาดทุนอยู่แล้ว โจวฉือเซินเองก็ยิ่งเป็นเช่นนั้น

ผ่านไปไม่นาน งานประมูลก็เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการแล้ว คนทั้งหมดต่างก็นั่งลงตรงที่นั่ง

หลินจืออี้วางแก้วเหล้าลง "งานเริ่มแล้ว ไปกันเถอะ"

Danielจ้องมองแผ่นหลังของเธอ แล้วหันหน้าไปมองรอบๆ ด้าน ทั่วทั้งงานก็ไม่เห็นเงาของหร่วนซิงหว่านเลย จึงหรี่ตาลงเล็กน้อย

จากพวกคำพูดที่หร่วนซิงหว่านพูดออกมานั้น เขามักจะรู้สึกว่าวันนี้จะต้องเกิดเรื่องใหญ่อะไรขึ้นมาแน่ๆ

Danielมองหาไปด้วย แล้วก็เดินถอยหลังไปด้วยหลายก้าว จากนั้นก็หันหน้ากลับไป แล้วเดินตามฝีเท้าของหลินจืออี้ไป

และงานประมูล ก็ได้เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการแล้ว

ผู้รับผิดชอบโครงการของหลินซื่อกรุ๊ป ขึ้นไปบนเวทีแล้วก็ทำการแนะนำโครงการในครั้งนี้คร่าวๆ ให้ทุกคน

ผู้รับผิดชอบคนนี้ ก็คือหยางเจิ้นนั่นเอง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สามีเก่า...มาขอแต่งงานอีกแล้ว