สามีเก่า...มาขอแต่งงานอีกแล้ว นิยาย บท 305

หลังจากที่ท่านใหญ่โจวออกไปอย่างโกรธเป็นฟืนเป็นไฟแล้ว หลินหนานก็เคาะประตูห้องทำงานของผู้อำนวยการ

โจวฉือเซินลุกขึ้น ขาเรียวยาวเดินตรงไปยังโต๊ะทำงาน "เข้ามา"

หลินหนานนำเอกสารฉบับหนึ่งวางไว้บนโต๊ะทำงาน "ประธานโจวครับ นี่คือบันทึกการประชุมเมื่อครู่ และมีเอกสารหลายฉบับที่คุณต้องเซ็นชื่อครับ"

โขวฉือเซินตอบรับเสียงเรียบ

หลินหนานอดไม่ได้ที่จะถามขึ้นว่า "ทำไมจู่ๆ ท่านกรรมการถึงคิดจะจัดงานแต่งให้คุณ......"

เมื่อได้ยินเช่นนี้ โจวฉือเซินก็หัวเราะเยาะออกมาเสียงเย็น เขาพลิกเปิดหน้าเอกสาร ก่อนพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา "จะทำไมอีกละ เขากลัวว่าถ้าหร่วนซิงหว่านได้รับการพิสูจน์ว่าเป็นสมาชิกของตระกูลหลินแล้ว จะร่วมมือกับฉันจัดการเขานะสิ เป็นธรรมดาที่จะนั่งไม่ติดเก้าอี้"

"ถ้าอย่างนั้นข่าวของท่านกรรมการก็ค่อนข้างที่จะเร็ว......"

งานประชุมเปิดประมูลในครั้งนี้ของหลินซื่อ ตาแก่นั่นก็คงเฝ้ามองอยู่ตลอดเวลา ต้องการฉวยตำแหน่งที่ว่างนี้เข้ามา

ดังนั้นเมื่อได้รับข่าวนี้ ก็เลยไม่แปลกใจ

โจวฉือเซินพูด "เจอหร่วนจุนหรือยัง?"

หลินหนานหวาดกลัวเล็กน้อย "ยังครับ เขาซ่อนเก่งเกินไป เราได้จัดกำลังคนเข้าไปในคาสิโนใต้ดินหลายแห่ง แต่ดูเหมือนเขาจะรู้ตัวและไม่เคยปรากฏตัวขึ้นอีกเลย"

โจวฉือเซินยกมือขึ้นบีบสันจมูกของเขา "ช่างเถอะ ไม่ต้องสนใจกับมันตอนนี้ สืบมาว่าเขาออกมาจากคุกตั้งแต่เมื่อไหร่ อิงตามความสามารถของเขาแล้วคงทำด้วยตัวเองไม่ได้แน่"

"ความหมายของประธานโจวคือมีคนคอยช่วยเขา?"

"หร่วนจุนไม่สามารถหายตัวไปโดยไร้เหตุไร้ผลได้ ถ้าเขาสามารถควบคุมไม่ให้เล่นพนันได้ ก็คงไม่เป็นอย่างทุกวันนี้"

หลินหนานพยักหน้าเล็กน้อย "ผมจะไปสืบตอนนี้ครับ"

"เดี๋ยว"

เมื่อหลินหนานจะออกไป เสียงของโจวฉือเซินก็ดังมา

เขาพูด "ประธานโจวจะสั่งอะไรอีกเหรอครับ?"

โจวฉือเซินเลียริมฝีปากบาง ก่อนจะพูดช้าๆ ว่า "เรื่องนี้ อย่าบอกหร่วนซิงหว่าน"

หลินหนานกลั้นยิ้มไว้ในใจ ก่อนพูดด้วยใบหน้าที่สุภาพว่า "ครับ"

ดูเหมือนว่าตอนนี้ประธานโจวจะยิ่งคุ้นเคยกับการไล่ตามภรรยาของเขามากขึ้นเรื่อยๆ และในที่สุดความพยายามอันอุตสาหะของเขาก็ไม่ได้เสียแรงเปล่า

หลังจากหลินหนานออกไป โจวฉือเซินก็หยิบโทรศัพท์ออกมา ก่อนจะต่อสายไปที่เบอร์ของเจียงย่าน และพูดด้วยเสียงสงบ "เป็นยังไงบ้าง?"

"เฝ้าอยู่ครับ หลังจากที่งานประชุมเปิดประมูลสิ้นสุดลงแล้ว เขาก็กลับบ้าน ไม่มีการเคลื่อนไหวอื่นเลย"

"ทางฝั่งDanielละ"

"เหมือนกันครับ เขาตรงกลับบ้านเลย"

โจวฉือเซินมุมปากยกยิ้มเล็กน้อย ดูท่าว่าคนพวกนี้ จะมีความอดทนที่เพียงพอ

เจียงย่านพูดอีก "ตามข่าวที่ผมสืบมาได้ แสดงให้เห็นว่า ในข้อมูลของWilliam ไม่มีข้อมูลของลูกสาวเขาเลยครับ พูดได้ว่า ไม่ก็ไม่มีคนคนนี้ตั้งแรก หรือไม่ก็คือ......"

"เขาคิดว่าเธอตายไปแล้ว"

อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ เจียงย่านเงียบไปสักพัก "ตามที่คุณพูด ถ้าอย่างนั้นหร่วนซิงหว่านอาจจะเป็น......ถ้าอย่างนั้นเขาน่าจะ......"

โจวฉือเซินเบรกคำพูดเขา "ยังเร็วเกินไปที่จะพูดแบบนี้ เฝ้าต่อไป มีข่าวอะไรก็บอกฉันอีก"

......

สตูดิโอ

นับตั้งแต่หร่วนซิงหว่านกลับมา ก็อยู่ในห้องทำงานตลอดเวลา เธอจ้องมองนาฬิกาด้วยความใจลอย ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่

ไม่รู้ว่าทำไม เธอมักจะมีความรู้สึกอย่างหนึ่ง ราวกับว่าความจริงจะอยู่ใกล้เธอมาก ใกล้เสียจนคล้านกับห่างกันเพียงเอื้อมมือ

และท่านจิ้น ก็น่าจะรู้เรื่องทุกอย่าง

ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน พลันได้มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น เป็นเพ้ยซานซานยื่นศีรษะเข้ามา หร่วนซิงหว่านก็รีบวางนาฬิกาพกลงทันที "ซานซาน มีอะไรไหม?"

เพ้ยซานซาน "เธอกำลังวาดแบบร่างอยู่เหรอ?"

หร่วนซิงหว่านส่ายหน้า เธอนวดขมับ "ยังเลย"

เพ้ยซานซานยกมือจากด้านหลังขึ้นชู ในมือมีถุงที่อัดแน่นไปด้วยชานมและขนม เธอพูดว่า "ดูสิว่าฉันเอาของดีอะไรมาให้เธอ กินก่อนสักหน่อยเถอะ กินแล้วค่อยทำต่อนะ"

เธอพูดพลางนำสิ่งของวางไว้บนโต๊ะทำงานของหร่วนซิงหว่าน หลังจากนั้นจึงพูดว่า "เดี๋ยวฉันมีถ่ายวิดีโอ ต้องออกไปข้างนอก ตอนเย็นก็ต้องไปดูบ้านด้วย คงไม่กลับมาที่สตูดิโอแล้วนะ ตอนเธอกลับก็ระวังตัวด้วยละ"

"โอเค"

เพ้ยซานซานถามอีกครั้ง "ซิงซิง เธอจะย้ายไปเมื่อไหร่"

หร่วนซิงหว่านพูด "อีกสองวัน"

เพ้ยซานซานถอนหายใจแบบไร้เสียง จากนั้นก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ ก่อนจะถามอีกรอบ "แล้วเสี่ยวเฉินรู้เรื่องนี้ไหม?"

"ฉันยังไม่บอกเขาเลย เธออย่าเพิ่งไปบอกก่อนนะ รอให้ผ่านช่วงนี้ไปก่อนค่อยว่ากัน"

เพ้ยซานซานพูด "สบายใจเถอะน่า ฉันจะรูดซิปปากให้สนิท รับประกันว่าไม่หลุดพูดแน่"

ในขณะที่พูด เธอก็ทำท่าทางรูดซิปที่ปากของตัวเองด้วย

ไม่นานนัก เพ้ยซานซานก็พูดอีก "ซิงซิง เธอกินก่อนเถอะ ฉันออกไปแล้วนะ ในร้านยังมีพวกถิงถิงอยู่ เธอไม่ต้องห่วง ทำธุระของเธอไปเถอะ"

หลังจากที่เพ้ยซานซานออกไปแล้ว ภายในห้องทำงานก็เงียบลงอีกครั้ง

หร่วนซิงหว่านสูดหายใจเข้าลึก และเปิดคอมพิวเตอร์เพื่อวาดต้นฉบับ

เวลาได้ผ่านล่วงเลยไป เมื่อเธอเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้ง ท้องฟ้าข้างนอกก็มืดลงแล้ว

หร่วนซิงหว่านดูโทรศัพท์ ก่อนจะพบว่าเป็นเวลาสามทุ่มแล้ว

เธอขยับคอเล็กน้อย ก่อนจะออกจากห้องทำงาน

ตอนนี้สตูดิโอก็ได้ปิดร้านแล้ว ในร้านไม่มีใคร หร่วนซิงหว่านเดินไปที่ห้องน้ำชา ก่อนจะรินน้ำให้ตัวเองหนึ่งแก้ว ทันทีที่จิบน้ำ เธอก็ได้ยินเสียงฝีเท้าที่หน้าประตู เธอคิดว่าเป็นโจวฉือเซิน ยังไม่ทันได้หันกลับไปมองก็พูดขึ้นมาว่า "รอฉันข้างนอกนั่นแหละ ฉันจะรีบ......"

"ซิงหว่าน"

เป็นเสียงของเฉิงเว่ย

หร่วนซิงหว่านตกใจเล็กน้อย รีบหมุนตัวกลับไปวางแก้วน้ำทันที

เฉิงเว่ยยืนอยู่ตรงหน้าประตู และส่งยิ้มให้กับเธอ "เลิกงานแล้ว?"

หร่วนซิงหว่านพยักหน้าเบาๆ

เฉิงเว่ยเม้มปาก "ซิงหว่าน ตอนนี้คุณสะดวกไหม? ผมอยากเลี้ยงข้าวคุณสักมื้อ"

"อา?" หร่วนซิงหว่านนิ่งไปนิด เมื่อกำลังจะตอบ พลันเสียงเรียบและเย็นชาของผู้ชายก็ดังขึ้น "ในเมื่อประธานเฉิง มีน้ำใจเชิญที่เปี่ยมล้น จะไม่ไปได้อย่างไรละครับ?"

เฉิงเว่ย "......"

โจวฉือเซินยืนสูงชะลูดอยู่ข้างเฉิงเว่ย กวาดสายตาไปมอง ริมฝีปากบางเผยรอยยิ้มอ่อน "ช่างบังเอิญเหลือเกิน ดูเหมือนว่าทุกครั้งที่ประธานเฉิงจะเลี้ยงข้าว ผมก็จะพบเจอกับคุณ ดูท่าว่าผมจะมีลาภปากนะ"

เฉิงเว่ยหัวเราะแห้งๆ ก่อนจะหันไปมองหร่วนซิงหว่านอีกรอบ นึกไปถึงสิ่งที่เธอจะพูดเมื่อตอนเขาเดินเข้ามา เขาเก็บสายตา ตัวเอง ก่อนจะรีบพูดว่า "ถ้าประธานโจวไม่รังเกียจ ข้าวสักมื้อจะเป็นอะไรไปละครับ"

โจวฉือเซินพูด "ถ้าอย่างนั้นรบกวนประธานเฉิงรอข้างนอก พวกเราจะรีบออกไปครับ"

เฉิงเว่ยพยักหน้าอย่างใจลอย ก่อนจะหมุนตัวออกไปจากสตูดิโอ

หรวนซิงหว่านหันไปมองโจวฉือเซินอย่างไม่พอใจ "คุณทำอะไร?"

โจวฉือเซินเลิกคิ้ว "นี่คุณคิดจะไปทานข้าวกับเขาสองต่อสองเหรอ?"

"ฉัน......"

มันไม่ใช่อย่างนั้น เธอรู้สึกว่าที่เฉิงเว่ยมาหาเธอในครั้งนี้ เหมือนกับว่าเขามีเรื่องอะไรจะพูดอย่างนั้นแหละ

เธอยังไม่ทันได้คิดดี ก็ถูกไอ้ผู้ชายบ้านี่มารังควานเสียก่อน

โจวฉือเซินพูด "ผมจะไปกับคุณ"

"คุณอย่ามาก่อกวน เห็นได้ชัดว่าเขามีเรื่องจะคุยกับฉัน คุณไปแล้วเขาจะพูดได้ยังไง"

"เรื่องที่เปิดเผยได้ จะกลัวถูกคนรู้ทำไม"

หร่วนซิงหว่าน "......"

ไอ้ผู้ชายชั่วนี่ให้เหตุผลไม่สมเหตุสมผลเลย

พูดขี้โม้เสียจริง

หรวนซิงหว่านหยิบกุญแจ มองไปยังเฉิงเว่ยที่ยืนอยู่ข้างนอก ก่อนจะพูดเตือนเสียงเบา "คุณจะไปก็ได้ แต่พยายามอย่าพูดมากละ ช่างเถอะ......คุณอย่าพูดอะไรเลยดีกว่า แม้แต่คำเดียวก็ห้าม"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สามีเก่า...มาขอแต่งงานอีกแล้ว