สามีเก่า...มาขอแต่งงานอีกแล้ว นิยาย บท 351

ทันทีที่เขาพูดจบ เด็กน้อยก็กอดขาของหลี่เสวี่ย "แม่ครับ ผมคิดถึงแม่กับน้องชาย"

หลี่เสวี่ยตอบสนองกลับอย่างรวดเร็ว เธอรีบพูดทันทีว่า "ก็ฉันบอกแล้วไงว่าให้ฉันอยู่คนเดียวเงียบๆ ก่อน คุณควรพิจารณาตัวเองให้ดีหน่อย ว่าคุณผิดตรงไหน โชคดีนะที่ก่อนแต่งงานพ่อกับแม่ซื้อบ้านไว้ให้ฉันแล้ว ไม่อย่างนั้นเวลาทะเลาะกัน แม้แต่ที่ที่จะพาเสี่ยวเป่าไป ฉันก็ยังไม่มี!"

"ใช่ใช่ใช่ คุณพูดถูกแล้ว เป็นความผิดของผม เป็นความผิดของผมเอง ครั้งนี้ผมจะคิดทบทวนให้ดี ผมสัญญาว่าหลังจากนี้ไป ผมจะไม่ทำให้คุณโกรธอีกแล้ว"

หลี่เสวี่ยพูดอย่างฝืนใจว่า "ฉันขี้เกียจจะพูดกับคุณล่ะ วันนี้ยังมีแขกอยู่ เดี๋ยวฉันค่อยจัดการกับคุณทีหลัง!"

พูดจบ เธอก็หันไปมองหร่วนซิงหว่านด้วยใบหน้าที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก "คุณหร่วนคะ ฉันขอโทษด้วยจริงๆ ที่ต้องให้คุณมาดูเรื่องน่าขันนี่ คุณดูฉันนี่......"

หร่วนซิงหว่านพูด "ไม่เป็นไรค่ะ ฉันสิควรจะขอโทษ"

เธอยกเรื่องขึ้นมาพูด "ในเมื่อคุณมีธุระ อย่างนั้นฉันไม่รบกวนคุณแล้วค่ะ"

หลี่เสวี่ยพูดว่า "ถ้าอย่างนั้นให้ไปส่งคุณหร่วน?"

หร่วนซิงหว่านมองเด็กน้อยในอ้อมอกเธอ ก่อนจะเอื้อมมือไปจิ้มแก้มของเขา และพูดว่า "ไม่ต้องหรอกค่ะ คุณยุ่งอยู่นี่"

เมื่อจะจากไป หร่วนซิงหว่านลูบศีรษะเด็กน้อยข้างตัว ก่อนจะหมุนกายออกไป

หลังจากรอให้ประตูปิด หลี่เสวี่ยชายหนุ่มที่เพิ่งจะมาถึงก็ลอบถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกเกือบพร้อมกัน

ทว่าเจ้าตัวน้อยในอ้อมอก กลับเริ่มร้องไห้แผดเสียงจ้าขึ้นมาราวกับขาดใจ

หลี่เสวี่ยกลัวว่าหร่วนซิงหว่านจะได้ยินเข้า จึงรีบอุ้มเด็กน้อยเดินเข้าไปยังห้องเด็กอ่อน

เมื่อหร่วนซิงหว่านเดินไปถึงลิฟต์ เธอก็ได้ยินเสียงร้องไห้เบาๆของเด็กน้อยดังมาจากทางด้านหลัง แต่ครู่หนึ่งเสียงก็พลันเงียบไป

ตั้งแต่ลิฟต์ตลอดทางมาจนถึงสวนหย่อม สติเธอแตกกระจายเล็กน้อย

เธอบอกตัวเอง ว่าเธอคิดมากไป สิ่งต่างๆ ไม่ได้เป็นไปอย่างที่เธอคิด เป็นเธอที่อ่อนไหวเกินไป

แต่เธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม รายละเอียดเหล่านั้นถึงปรากฏขึ้นซ้ำๆ ในใจของเธอ

ราวกับข้อสงสัยทุกอย่างของเธอต่างก็ถูกเติมให้เต็ม แต่ยิ่งเป็นอย่างนี้ ก็ยิ่งยอมรับไม่ได้มากขึ้นเท่านั้น

จะมีเรื่องบังเอิญอย่างนี้ได้ยังไงกัน

เธอจำได้ว่าวันที่โจวฉือเซินพาเธอมาที่นี่ เป็นเทศกาลตรุษจีน เป็นไปได้ไหมที่หลี่เสวี่ยจะทะเลาะกับสามีในเวลานั้น และพาเจ้าตัวเล็กมาอาศัยตามลำพังที่นี่?

ถึงแม้มันจะเป็นอย่างนี้จริงๆ เรื่องนี้มันก็ผ่านมานานแล้ว หลี่เสวี่ยอาศัยอยู่กับเจ้าตัวเล็กตามลำพังที่นี่ สามีของเธอไม่มาหาเธอ แต่เมื่อวันนี้เธอมา เขาก็รีบมาหาทันที

สิ่งนี้ไม่สามารถอธิบายด้วยความบังเอิญได้อีกต่อไป ราวกับว่ามันจงใจแสดงให้เธอเห็น

เมื่อนั่งลงบนรถ หร่วนซิงหว่านนั่งพิงไปยังเบาะคนขับ มองไปยังประตูของสวนหย่อม และพ่นลมหายใจออกมาเบาๆ ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่

เธอนั่งอยู่อย่างนั้นเป็นเวลากว่าสองชั่วโมง พวกเขาก็ยังไม่ออกมา

หร่วนซิงหว่านหลับตา ฉับพลันเธอก็รู้สึกเหนื่อยขึ้นมานิดหน่อย

เธอไม่สามารถแยกออกได้อีกต่อไปแล้วว่าเธอคิดมากเกินไป หรือว่าพวกเขาซ่อนอยู่ลึกเกินไป

ผ่านไปสักพัก ในที่สุดหร่วนซิงหว่านก็ยอมแพ้ ก่อนที่เธอจะสตาร์ทรถ และ ขับออกไป

หลังจากที่เธอขับรถออกไปแล้ว ชายหนุ่มในรถคันสีดำที่จอดอยู่ไม่ไกล ก็ได้หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาออกมา แล้วโทรออกไปยังหมายเลขหนึ่ง "ประธานโจวครับ คุณหร่วนออกไปแล้วครับ"

อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ โจวฉือเซินตอบรับเบาๆ ไม่มีอารมณ์ใดในน้ำเสียงของเขา

"ประธานโจวครับ เราจะทำยังไงต่อไปครับ?"

หลังจากเงียบไปไม่กี่วินาที โจวฉือเซินก็ค่อยพูดออกมาว่า "คืนนี้ ออกไปก่อน"

"แต่ถ้าทำอย่างนี้ ถ้าหากว่าคุณหร่วนรู้เข้า เกรงว่าจะยิ่ง......"

โจวฉือเซินพูด "ไม่ต้องคิดมาก ออกไปก่อน เรื่องอื่นค่อยว่ากันทีหลัง"

ลูกน้องตอบรับ "รับทราบครับ"

ในจณะเดียวกัน ที่อิตาลี

โจวฉือเซินวางสาย ก่อนจะบีบจมูกของตัวเอง

เขาไม่คิดว่า หร่วนซิงหว่านจะนึกสงสัยขึ้นมา กระทั่งออกไปสืบหาด้วยตัวเอง

โชคดีที่ทุกอย่างจัดการได้ทันท่วงที

แต่แค่ครั้งนี้ไม่น่าจะหลอกเธอได้ง่ายขนาดนั้น

ในตอนนี้ หลินหนานเคาะประตู ก่อนจะเข้ามา "ประธานโจวครับ การประชุมจะเริ่มขึ้นแล้ว"

โจวฉือเซินถอนความคิดกลับมา ก่อนจะพูดด้วยเสียงสงบว่า "อีกนานแค่ไหนที่งานนี่จะเสร็จสิ้น"

หลินหนานมองตารางงาน "อย่างน้อย... ก็ต้องใช้เวลาอีกห้าวันครับ"

เมื่อได้ฟัง โจวฉือเซินก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว

หลินหนานรู้ว่าเขาเป็นกังวลเรื่องของหร่วนซิงหว่าน จึงลองพูดหยั่งเชิงว่า "ถ้าประธานโจวกลัวว่าจะเกิดเรื่องขึ้นกับทางฝั่งของคุณหญิง ผมมีอีกหนึ่งวิธีครับ"

โจวฉือเซินเหล่มอง "วิธีอะไร?"

......

เมื่อหร่วนซิงหว่านกลับมาถึงตระกูลหลิน ก็เป็นเวลาตกค่ำแล้ว แต่เธอไม่คาดคิดเลยว่าหลินจืออี้จะมานั่งรอเธอที่ห้องนั่งเล่น

เมื่อหร่วนซิงหว่านจะขึ้นไปยังชั้นบน หลินจืออี้จึงเรียก เพื่อหยุดเธอเอาไว้ "ได้ยินว่าคุณหร่วนผ่านรอบคัดเลือกมาแล้ว ยินดีด้วยนะคะ"

ในเวลานี้หร่วนซิงหว่านไม่มีอารมณ์จะมาแสดงละครปั้นหน้าเสแสร้งกับเธออีกแล้ว จึงทำได้เพียงมองอย่างสงบ "คำแสดงความยินดีของคุณหลินมีค่าต่ำขนาดนี้เลยเชียวหรือคะ?"

หลินจืออี้ไม่คิดว่าเธอจะพูดอย่างนี้ เธอนิ่งงันไปชั่วอึดใจ ก่อนจะพูด "หมายความว่าอะไรคะ?"

"ในเมื่อมาแสดงความยินดีกับคนอื่น จะมามือเปล่าได้ยังไงกัน"

ชั่วพริบตาเดียว หลินจืออี้ถูกเธอทำให้โกรธเสียแล้ว "ที่แท้คุณหร่วนก็มาที่นี่ด้วยจุดประสงค์นี้"

หร่วนซิงหว่านตอบกลับด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ "ฉันพูดชัดเจนไปนานแล้วนะคะ ฉันเพียงแค่ต้องการได้ในสิ่งที่ฉันควรจะได้รับ ถ้าหากคุณหลินไม่ได้ตั้งใจที่จะส่งของขวัญให้ฉัน คงดีกว่าที่จะถอนประโยคแสดงความยินดีนี้ไปเสียแต่เนิ่นๆ"

ไม่รอให้หลินจืออี้ตอบ หร่วนซิงหว่านก็ชิงตรงขึ้นไปยังชั้นบนโดยไม่แม้แต่จะหันไปมอง

หลินจืออี้ยืนนิ่งอยู่ที่เดิม เธอรู้สึกว่าเรื่องไร้สาระที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนนี้ เป็นครั้งแรกเลยที่เธอเห็นคนคนหนึ่งสามารถพูดคำที่ไร้ยางอายอย่างนี้ออกมาได้อย่างมั่นใจ

ไม่รู้เลยว่าทำไมโจวฉือเซินชอบเธอเพราะอะไร

เมื่อกลับมาถึงห้องนอน หร่วนซิงหว่านก็พุ่งเข้าไปอาบน้ำร้อน แล้วออกมานอนแผ่หลาอยู่บนเตียงนิ่งๆ

ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ พลันโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่บนโต๊ะก็สั่นขึ้นมาอย่างหนวกหู

หร่วนซิงหว่านพลิกกาย และเอาผ้าห่มขึ้นมาคลุมหัว เธอไม่อยากรับสาย

แต่ดูเหมือนว่าโทรศัพท์จะไม่ยอมรามือกับเธอเลย มันส่งเสียงอย่างไม่หยุดพัก ซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนคนฟังนึกรำคาญ

หร่วนซิงหว่านลุกขึ้นนั่งทันที เธอยันกายลุกขึ้นมารับโทรศัพท์ ขมวดคิ้วและพูดว่า "ดึกขนาดนี้แล้ว คุณไม่นอนหรือไง?"

เมื่อได้ยินเสียงหงุดหงิดของเธอ โจวฉือเซินก็นิ่งไปนิด ก่อนจะพูดว่า "ที่นี่เป็นเวลากลางวัน คุณนอนแล้วเหรอ?"

หร่วนซิงหว่านส่งเสียงโอ้ แล้วนั่งลงที่ปลายเตียงทันที "ก็นอนแล้ว จนถูกคุณปลุกนั่นแหละ"

"เสียงดุจัง ใครทำให้ไม่พอใจเหรอ?"

หร่วนซิงหว่านอ้าปาก ก่อนจะพบว่าตอนนี้เธอในใจเธอร้อนดังไฟสุม เธอกอดหมอน ก่อนพูดอย่างหงุดหงิด "เปล่า แค่อารมณ์ไม่ดี"

"อารมณ์ไม่ดีโดยไม่มีเหตุผล?"

"อืม"

โจวฉือเซินพูดช้าๆ "เพราะประจำเดือนจะมาหรือเปล่า?"

หร่วนซิงหว่าน "......"

ไอ้ผู้ชายชั่วนี่สามารถพูดคำนี้ออกมาได้อย่างชำนาญเชียวนะ

เธอสูดหายใจเข้าลึก ทำใจให้สงบ "เปล่า อาจเพราะว่าช่วงนี้แรงกดดันมันหนัก เลยนอนไม่ค่อยหลับดีเท่าไหร่"

"เข้ารอบชิงแล้วก็ยังไม่ดีใจเหรอ?"

หร่วนซิงหว่านพูดต่อ "ก็เพราะว่าเข้ารอบชิงชนะไงแรงกดดันก็เลยหนัก อย่างไรคุณก็ไม่เข้าใจอยู่ดี"

"โอเค ผมไม่เข้าใจ มีอะไรก็พูดกับผมสิ อย่าเก็บไว้ในใจจนทำให้ตัวเองเป็นทุกข์"