บทที่ 43 ทำไม......เป็นเขา?
วันต่อมา หลังจากตัดสินใจเรื่องห้องเสร็จ หร่วนซิงหว่านก็นำกระเป๋าเดินทางที่มีไม่กี่ใบย้ายเข้ามาในห้องเช่า
เพ้ยซานซานกับหร่วนเฉินก็ไม่ปล่อยให้เธอทำความสะอาด บอกให้เธอนั่งลงพักผ่อนให้ดีก็พอ
หร่วนซิงหว่านทำรังอยู่บนโซฟา ในขณะที่สั่งชายามบ่ายให้พวกเขาก็คิดไปด้วย อันที่จริงเธอ......ก็ค่อนข้างมีความสุขเลยทีเดียว
มีแม่ทูนหัวกับน้าที่ดีขนาดนี้ เด็กน้อยคลอดออกมาก็จะได้รับการดูแลอย่างดีเช่นกัน
คิดได้อย่างนี้ หร่วนซิงหว่านก็ก้มหน้า มือกุมท้องเบาๆ เธอเองก็ไม่รู้ว่าช่วงนี้อ้วนขึ้น หรือว่าเด็กน้อยโตขึ้นแล้ว ท้องน้อยนูนขึ้นเล็กน้อยแล้ว
บ่ายวันนี้ยังมีการถ่ายภาพของเพ้ยซานซาน ดังนั้นเธอจึงลามาได้เพียงไม่กี่ชั่วโมง ก่อนจะไปยังซื้อของใช้ในชีวิตประจำวันมากมายให้กับหร่วนซิงหว่าน “ซิงซิง หลังจากนี้ฉันดูแลเธอไม่ได้แล้ว เธอจะต้องดูแลตัวเองให้ดีนะ อย่าปล่อยให้หิวเด็ดขาด”
หร่วนเฉินออกมาจากห้องครัว “ผมจะดูแลพี่สาวผมเอง”
หร่วนซิงหว่านพูดยิ้ม “พวกเธอพอแล้ว ฉันไม่ใช่เด็กเล็ก ไม่ต้องเป็นห่วงฉันขนาดนั้น”
“เธอไม่ใช่เด็กเล็ก แต่ในท้องเธอมีหนูน้อยอยู่นะ” เพ้ยซานซานพูด พลางเข้าไปใกล้ท้องของเธอ “หนูน้อย หนูเป็นเด็กดีนะ ทรมานหม่าม๊าของหนูน้อยๆหน่อย ไม่งั้นพอหนูคลอดออกมาแล้ว แม่ทูนหัวจะตีก้นเล็กๆของหนู”
เพ้ยซานซานไปได้ไม่นาน หร่วนซิงหว่านก็พูดขึ้น “นายก็กลับไปเถอะ ที่เหลือฉันเก็บกวาดเองก็ได้”
“ไม่ได้” หร่วนเฉินพูด “ผมจะอยู่ที่นี่เป็นเพื่อนพี่สามสี่วัน รอพี่คุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมรอบๆแล้วผมค่อยไป”
หร่วนซิงหว่านหัวเราะ “นายคิดว่าฉันเป็นเด็กไปแล้วจริงๆเหรอ ฉันเป็นพี่สาวนายนะ”
หร่วนเฉินตอบอย่างจริงจังมาก “ผมแค่อยู่ไม่กี่วัน แบบนี้คนอื่นจะได้รู้ว่าบ้านพี่มีผู้ชาย ไม่เห็นว่าพี่เป็นผู้หญิงตัวคนเดียวแล้วมารังแกพี่”
รอยยิ้มบนใบหน้าของหร่วนซิงหว่านแข็งทื่อ และไม่ได้ปฏิเสธอีก “งั้นฉันซื้อเตียงเดี่ยวให้นายอันหนึ่ง หลังจากนี้นายจะมาอยู่ก็จะได้สะดวก”
“ไม่ต้อง ผมนอนโซฟาก็พอแล้ว”
ขณะที่หร่วนเฉินพูด ก็หยิบขยะในห้องออกไปข้างนอก “ผมกลับไปเอาเสื้อผ้าสามสี่ชุด พี่อยากกินอะไรผมเอากลับมาให้”
……
หนึ่งเดือนหลังจากนั้น
“จืออี้ รบกวนเธอแล้วจริงๆ ทุกครั้งต้องให้เธอมาเป็นเพื่อนฉัน”
หลินจืออี้พยุงแขนของจี้หรัน “พี่จี้หรัน พี่ไม่ต้องเกรงใจฉันเหรอก ฉันอยู่บ้านคนเดียวก็อยู่ไปอย่างนั้น ออกมาขยับแข้งขยับขากับพี่ได้ผ่อนคลายพอดี”
จี้หรันถอนหายใจ “เพราะเรื่องการแต่งงานกับตระกูลโจว หวยเจี้ยน ช่วงนี้ทะเลาะกับที่บ้านไม่มีความสุข รู้แต่แรกตอนนั้นก็ไม่ควรตอบตกลงเรื่องการแต่งงานนี้เลย ตอนนี้แม้ว่าจะค่อยยังชั่วแล้ว ตระกูลโจวไม่สนใจพวกเรา หวยเจี้ยนเองก็ไม่มีความสุข ทั้งสองฝ่ายต่างไม่พอใจ”
“พี่จี้หรัน พี่เข้าใจผิดแล้ว ฉือเซินไม่ได้ว่าอะไรพวกพี่ เขาเพียงแค่......”
พูดถึงตรงนี้ จี้หรันก็กดเสียงต่ำพูด “จืออี้ มีเรื่องหนึ่งที่ฉันอยากถามเธอมานานแล้ว ฉันได้ยินข่าวลือมาว่าโจวฉือเซินไม่ได้เกิดมาจากคุณหญิงโจว แต่เป็นลูกนอกสมรสของท่านใหญ่โจวตอนเด็กเธอไปตระกูลโจวบ่อยๆ ที่แท้แล้วมันเป็นความจริงไหม?”
โจวฉือเซินถูกรับกลับมาที่ตระกูลโจวตอนเจ็ดขวบ ตระกูลโจวบอกกับคนนอกว่าหลังจากเขาเกิดมาก็ร่างกายไม่แข็งแรง รักษาตัวอยู่ต่างประเทศมาโดยตลอด บวกกับท่านใหญ่โจวใช้วิธีการบางอย่าง หลังจากนั้นก็ไม่มีใครพูดคุยเรื่องนี้อีกเลย
แต่โจวฉือเซินถูกพากลับมาที่ตระกูลโจว และโจวจู้นเหนียนประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ขาทั้งสองข้างพิการไม่สามารถเป็นทายาทของโจวซื่อกรุ๊ปต่อไปได้ ทั้งสองเป็นเรื่องที่อยู่ในระยะเวลาสองเดือน
ถ้าบอกว่าแต่ก่อนข่าวลือพวกนี้เป็นเพียงการไล่จับลม งั้นครั้งก่อนที่จี้หรันเห็นสถานการณ์เหมือนสนามรบที่ตระกูลโจว ก็สามารถเกิดความสงสัยได้อย่างสมเหตุสมผลแล้ว
หลินจืออี้ยิ้มอย่างขออภัย “ฉันไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อน พี่จี้หรัน พี่อย่าคิดมากเลย ฉือเซินไม่เห็นด้วยเรื่องการแต่งงานของหวยเจี้ยนกับโจวอานอานก็พอเข้าใจได้ พี่ลองคิดดู นิสัยของโจวอานอานเป็นคนหยิ่งผยอง ในกรณีที่เธอกับหวยเจี้ยนแต่งงานกันแล้ว ไม่เพียงแต่จะไม่สำรวม แต่กลับจะยิ่งไม่เกรงใจ ถึงตอนนั้นก็เป็นเรื่องของสองครอบครัว สองบริษัทที่เพิ่มขึ้นมาแล้ว”
“ฉือเซินไม่ชอบความยุ่งยากมาโดยตลอด บวกกับที่โจวอานอานเป็นแค่ลูกพี่ลูกน้องของเขาเท่านั้น เขาจะต้องไม่เต็มใจไปช่วยเธอจัดการเรื่องพวกนี้แน่นอน”
จี้หรันรู้สึกว่าที่เธอพูดมามีเหตุผล พูดอย่างช่วยไม่ได้ “ฉันก็ไม่ได้ชอบโจวอานอานเท่าไหร่ แต่พ่อของฉันคิดว่าได้ปรองดองกับโจวซื่อกรุ๊ปก็นับว่าเป็นโอกาสที่ดี ท่าทีของโจวฉือเซินก่อนหน้านี้ พ่อฉันก็โกรธจนสำลัก คาดว่าเรื่องนี้ท้ายที่สุดคงไม่จบ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สามีเก่า...มาขอแต่งงานอีกแล้ว
เอาอีกแล้ว รวบรัดตัดจบในสามบทสุดท้าย ตัดทิ้งดื้อๆ ไม่เล่าว่าพี่กับพ่อพระเอกเป็นยังไง และตระกูลของหนิงหนิงเป็นไงกัน น้าชั่วของหนิงหนิงตายจริงไหม...