ตอน บทที่ 555 เขาไม่มีทางปล่อยแกไป จาก สามีเก่า...มาขอแต่งงานอีกแล้ว – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
บทที่ 555 เขาไม่มีทางปล่อยแกไป คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายโรแมนซ์ สามีเก่า...มาขอแต่งงานอีกแล้ว ที่เขียนโดย สายฝน เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
ตั้งแต่หลังจากที่สวี่เยว่ถูกพาตัวไป หลี่เสวี่ยมีท่าทีที่สงบเสงี่ยมอย่างมากมาตลอด และก็ให้ความร่วมมืออย่างมาก
เดิมทีเธอก็แค่พลอยถูกนำตัวมาด้วยเท่านั้น ไม่มีประโยชน์อะไร เพราะเหตุนี้คนคุมก็ไม่ได้ใส่ใจเธออะไรมากมาย มีกว่าหลายครั้งที่หลังจากเอาอาหารมาให้เธอแล้ว แม้แต่ประตูก็ไม่ได้ล็อก
หลังจากที่หลี่เสวี่ยสังเกตการณ์อย่างเงียบๆมาสองวัน แน่ใจแล้วว่าคนเหล่านี้เอาอาหารมาให้เธอแล้ว ก็ไม่ได้อยู่ด้วย ออกไปเลย อาคารหลังนี้ ก็ไม่ได้มีคนคอยคุมอยู่โดยรอบ
ขอเพียงแค่ตอนที่เธอออกไป ไม่เจอกับคนเหล่านั้น ก็ไม่มีทางเกิดปัญหาอะไร
และทุกบ่ายสามถึงห้าโมงเย็นของทุกวัน คนที่อยู่ในละแวกนี้จะน้อยลงเยอะ เหมือนกลัวว่าคนอื่นจะพบเจอเข้า
ถึงช่วงบ่ายวันที่สาม หลี่เสวี่ยได้รับอาหารแล้ว ตอนที่ผู้ชายเตรียมจะล็อกประตูออกไป จู่ๆหลี่เสวี่ยก็เอ่ยปากพูดว่า : "อาการป่วยของเด็กน้อยดีขึ้นแล้วยัง"
ผู้ชายมองที่เธอแวบหนึ่ง : "อะไรที่คุณไม่ควรถามก็อย่าถาม"
"ฉัน......ก็แค่เป็นห่วงเขา สุขภาพของเขาไม่ค่อยดีมาตลอด ทุกครั้งที่ป่วยก็ต้องใช้เวลานานถึงจะหายดี ฉันรู้ว่าเขาสำคัญกับพวกคุณมาก พวกคุณคงจะดูแลเขาดีใช่ไหม?"
"หายป่วยแล้ว"
หลี่เสวี่ยยิ้มแล้ว : "งั้นฉันก็วางใจแล้ว ขอบคุณนะ"
ผู้ชายไม่ได้ตอบอะไรอีก ปิดประตูและออกไปเลย
เพราะว่าเธอขัดจังหวะแบบนี้ เขากลับว่าลืมล็อกประตูจริงๆด้วย
หลี่เสวี่ยเห็นแบบนี้ ในที่สุดก็โล่งใจแล้ว รู้สึกเหมือนว่าแผ่นหลังเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ
ตอนนี้เธอทำได้แค่รอ รอถึงบ่ายสาม ก็สามารถหนีไปจากที่นี่ได้แล้ว
ตอนเวลาบ่ายสองโมงครึ่ง อากาศค่อยๆมืดครึ้มแล้ว ผ่านไปไม่นาน ฝนก็ค่อยๆตกโปรยปรายลงมาแล้ว
สภาพอากาศแบบนี้ เหมาะที่จะหลบหนีมาก
หลี่เสวี่ยกำหมัดแน่น รู้สึกเหมือนว่าพระเจ้าก็ไม่อาจจะทนมองดูต่อไปได้แล้ว กำลังช่วยเธอ
บ่ายสามโมงครึ่ง เธอค่อยๆเปิดประตูออก เห็นทางเดินเงียบสงัด
เธอเดินไปข้างหน้าอย่างระมัดระวัง มองหาแสงสว่าง ค่อยๆหาจนเจอทางออกแล้ว
รอจนออกไปจากอาคารหลังนี้ หลี่เสวี่ยหลบอยู่ในพงหญ้าด้านนอกทันที มองดูรอบด้าน
สถานที่แห่งนี้ใหญ่กว่าที่เธอคิดไว้อีก อีกอย่างเหมือนว่าเธอจะพักอยู่ส่วนหลังบ้านของที่แห่งนี้ มองไปไกลๆ ข้างหน้าก็ยังมีอาคารที่สูงตระหง่านสูงโดดเด่นกว่านี้อีก
หลี่เสวี่ยจำได้ว่า ประตูนั้นที่หยางเจิ้นพาพวกเธอเข้ามาในวันนั้น นั่งรถเข้ามาก็ใช้เวลานานเลย เพราะงั้นจึงยืนยันได้ว่าไม่ได้เข้ามาจากประตูหลักทางฝั่งนั้นแน่นอน ประตูหลังจะต้องอยู่แถวๆนี้แน่
สิ่งที่คู่ควรที่จะชื่นชมยินดีคือ ต้นไม้ใบหญ้าของที่นี่เยอะมาก แถมยังมีกำแพงดอกไม้ยาวๆ เหมาะที่คนจะหลบซ่อนตัว
หลี่เสวี่ยเปียกฝน ค้อมตัว เคลื่อนตัวไปตามกำแพงดอกไม้อย่างระมัดระวัง
เธอโชคดีไม่เบาเลยที่เลือกเวลานี้ในการหลบหนี ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้ฝนก็ตกลงมาอีกด้วย ทั้งสวนหลังบ้าน เธอไม่เห็นเลยสักคนเดียว
แต่ว่าถึงอย่างนั้น ที่นี่ก็ใหญ่เกินไปแล้ว อย่างน้อยหลี่เสวี่ยก็วนไปมาในหนึ่งกว่าครึ่งชั่วโมงแล้ว ถึงจะเห็นประตูหลัง
หลี่เสวี่ยเห็นแบบนี้ ในใจก็แอบมีความสุข เพียงแต่ว่าหน้าประตูมีเป้ายาม ข้างในมีผู้ชายสองคนกำลังพูดคุยกันอยู่
หลังจากที่สังเกตดูรอบๆแล้วครู่หนึ่ง หลี่เสวี่ยพบว่าบนกำแพงล้อมรอบไปด้วยเถาวัลย์ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือมีที่ที่หนึ่ง เป็นจุดบอดของกล้องวงจรปิดด้วย
เธอไปถึงที่ตรงนั้น ดึงเถาวัลย์ปีนขึ้นไป
อย่างรวดเร็ว ฝ่ามือถูกบาดจนเลือดออกแล้ว
หลี่เสวี่ยไม่ปล่อยมือ กัดฟันไปต่อ ตอนที่ปีนขึ้นมาบนกำแพงอย่างยากลำบาก กลับพบว่าด้านนอกของกำแพง เปลือยเปล่า ไม่มีเถาวัลย์ที่สามารถยืมใช้เป็นกันชนได้เลย
และกำแพงนี้ อย่างน้อยก็สูงสองเมตร
หลี่เสวี่ยมองดูซ้ายขวา ในใจบอกว่าไม่กลัวนั่นมันเรื่องโกหก แต่เมื่อนึกถึงน้าสวี่ และเด็กน้อยที่ป่วยนั่น พร้อมทั้งหยางเจิ้นที่หลอกใช้เธอ......
"ปล่อยคุณเหรอ?ปล่อยให้คุณไปบอกความลับกับโจวฉือเซินเหรอ?"
"แกมันไอ้สารเลว ประธานโจวจะต้องสืบหาความจริงได้แน่ เขาไม่มีทางปล่อยแกไป!"
หยางเจิ้นพูดอย่างไม่แคร์ว่า : "เรื่องนี้ฉันไม่ได้เป็นตัวต้นคิดสักหน่อย อย่างมากก็แค่ผู้สมรู้ร่วมคิด ถ้าเขาจะคิดบัญชีแค้น ฉันก็คงอยู่แถวสุดท้าย รอจนถึงตอนที่เขานึกถึงฉันได้ ฉันก็ไม่อยู่เมืองหนานเฉิงแล้ว"
หลี่เสวี่ยวิงวอนขอร้องว่า : "ฉันขอร้องคุณล่ะปล่อยฉันไปเถอะนะ ฉันหนีออกมาแล้ว คุณก็ทำเหมือนว่าไม่เห็นฉัน พวกเขาไม่รู้แน่นอน"
"เมื่อกี้คุณก็พูดแล้ว โจวฉือเซินไม่มีทางปล่อยฉันแน่ ถ้าตอนนี้ฉันปล่อยคุณไป งั้นจะไม่เป็นการทำร้ายตัวฉันเองเหรอ?"
หลี่เสวี่ยสัมผัสถึงความสิ้นหวัง พูดอย่างช่วยไม่ได้ว่า : "เริ่ม......เริ่มแรกแก จงใจเข้าใกล้ฉันใช่ไหม?"
หยางเจิ้นยิ้ม : "เรื่องนี้พูดมาแล้วก็บังเอิญมาก ฉันก็ไม่ได้คาดคิดเลย ในสนามเด็กเล่นที่ห้างสรรพสินค้า เห็นข้างกายของโจวฉือเซินและหร่วนซิงหว่านมีเด็กน้อยคนหนึ่ง แต่ในตอนนั้นฉันไม่สามารถยืนยันอะไรได้เลย ฉันก็ทำได้เพียงเดินตามแกที่พาตัวเด็กไป หาโอกาสเข้าใกล้แก แต่ว่าคิดไม่ถึงว่าจะเป็นลูกชายของโจวฉือเซินจริงๆ ก็ไม่ทำให้ละครที่ฉันเล่นกับแกมานานขนาดนี้เสียเปล่า "
หลี่เสวี่ยพูดด่า : "ไอ้สัตว์เดียรัจฉาน!"
"ฉันเป็นสัตว์เดียรัจฉาน งั้นแกเป็นอะไรล่ะ?ปากก็บอกว่าโจวฉือเซินเป็นผู้มีพระคุณของแก แกจะหักหลังเขาไม่ได้ แต่ความเป็นจริง ฉันก็แค่ดีกับแกหน่อย พูดหว่านล้อมแกหน่อย แกก็บอกฉันมาหมดทุกอย่างแล้ว"
"ฉัน......ฉันเปล่า......"
"แกไม่ได้บอกฉันตรงๆว่า นั่นคือลูกชายของโจวฉือเซิน แกคิดว่าคนบนโลกนี้ต่างก็โง่กันทั้งนั้นเหรอ ขอเพียงแค่ฉันไปสืบหาสักหน่อย ก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นแล้ว"
หลี่เสวี่ยไร้เรี่ยวแรงไปทั้งตัวเลยทันที ล้มนั่งลงกับพื้น
เป็นเพราะเธอ เป็นเพราะเธอ......
ถ้าไม่ใช่เพราะเธอ เรื่องราวคงไม่มีทางกลายมาเป็นแบบนี้เฉกเช่นวันนี้
หยางเจิ้นคุกเข่าตรงหน้าเธอ : "แกบอกว่า โจวฉือเซินไม่มีทางปล่อยฉันแน่ งั้นแกเดาดูสิ เขาจะปล่อยแกไปไหม?"
หลี่เสวี่ยเงยหน้ามองเขาทันที รู้สึกถึงความเย็นตั้งแต่หัวจรดเท้าเลย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สามีเก่า...มาขอแต่งงานอีกแล้ว
เอาอีกแล้ว รวบรัดตัดจบในสามบทสุดท้าย ตัดทิ้งดื้อๆ ไม่เล่าว่าพี่กับพ่อพระเอกเป็นยังไง และตระกูลของหนิงหนิงเป็นไงกัน น้าชั่วของหนิงหนิงตายจริงไหม...