หลังจากที่หร่วนจุนได้เงินสองล้านจากโจวฉือเซิน ก็ใช้ชีวิตเหมือนปลากระดี่ได้น้ำ เขาปาดเจลจนผมเรียบแปล้ดำวาว จากนั้นก็เดินอวดคนอื่นไปทั่ว ในใจก็เริ่มลำพองขึ้นเรื่อยๆ
ในตอนนี้เอง ก็มีคนมาเสนอหนทางสร้างเงินให้เขา
สองล้านจึงไม่เพียงพอต่อความต้องการของหร่วนจุน เมื่อมีคนมาหลอกขายฝัน เขาก็รีบลงทุนด้วยเงินทั้งหมดที่มี แต่ว่ายังขาดอีกสองสามแสน ดังนั้นเขาจึงไปหาคนปล่อยเงินกู้นอกระบบ เชิญชวนพวกเขามาเข้าร่วมทีมด้วยกัน
แต่ตัวต้นเรื่องกลับต้มตุ๋นเขา แถมยังหอบเงินหนีไปอีกด้วย ด้วยเหตุนี้เจ้าหนี้นอกระบบจึงมาคิดบัญชีกับเขาแทน
หร่วนจุนรู้เบาะแสล่วงหน้าจึงหลบหนีทัน แต่ไม่รู้ว่าคนพวกนั้นไปรู้มาจากไหนว่าลูกชายของเขาทำงานอยู่ที่ร้านสะดวกซื้อ ถึงได้ไปเอาเรื่องหร่วนเฉินถึงที่
แน่นอนว่าหร่วนเฉินไม่ยอมให้เงินพวกเขาอยู่แล้ว พวกเขาก็ไม่ได้มาดี จึงลงมือในทันที
หลังจากที่หร่วนซิงหว่านได้ฟังเรื่องทั้งหมด ขมับก็กระตุกเป็นระยะๆ มิน่าล่ะช่วงนี้เธอถึงมีลางสังหรณ์แปลกๆ....
เมื่อหร่วนเฉินเห็นเธอไม่พูดอะไร ก็ขมวดคิ้ว “พี่อย่ามายุ่งเรื่องนี้เลย เขาจะเป็นจะตายก็ไม่เกี่ยวกับเราหรอก”
“เด็กน้อย พูดอย่างนี้ไม่ได้นะ เป็นหนี้ก็ต้องใช้คืนมันคือสัจธรรมที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ จะไม่สนใจได้ยังไง”
จู่ๆเสียงผู้ชายที่อยู่ข้างหลังก็ดังขึ้นมา เมื่อหร่วนซิงหว่านหันไปมอง ก็จับแขนของหร่วนเฉินแน่นโดยอัตโนมัติ
ผู้ชายคนนี้ คือคนเมื่อสามปีก่อนที่บุกเข้ามาในบ้านและกดมือของหร่วนเฉินเอาไว้แล้วให้เธอเลือก
หร่วนเฉินเองก็จำเขาได้ ไอเย็นๆจึงพลันปกคลุมไปทั่วร่างกาย เขากำลังจะพุ่งเข้าไป แต่ถูกหร่วนซิงหว่านห้ามเอาไว้
เซ่หรงมองมาที่หร่วนซิงหว่านยิ้มๆ “บังเอิญจังเลยนะ ไม่คิดเลยว่าเราจะได้เจอกันอีก”
หร่วนซิงหว่านเม้มปากเน้นไม่พูดไม่จา
หร่วนเฉินดึงหร่วนซิงหว่านมาหลบอยู่ข้างหลัง บนใบหน้าหล่อใสเต็มไปด้วยความเยือกเย็น “ถ้าต้องการเงินก็ไปเอาที่หร่วนจุน”
“โอ๊ะโอ ก็ว่าอยู่ใครกันถึงได้เดือดขนาดนี้ ที่แท้ก็ลูกชายของหร่วนจุนนี่เอง ไม่เจอกันสามปี โตขึ้นขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย” เขาพูดเสร็จ ก็หันไปพูดกับกลุ่มอันธพาลข้างหลัง “พวกแกมาดูนี่เร็ว หมอนี้ ที่หนึ่งประจำจังหวัดเลยนะ มาแสดงความยินดีหน่อยเร็ว”
กลุ่มอันธพาลหัวเราะเกรียวกราว
เสียงหัวเราะของพวกเขาดังรบกวนคนอื่น ตำรวจจึงเดินเข้ามาพูดว่า “จะสร้างความวุ่นวายอะไรอีก เห็นที่นี่เป็นอะไร!”
เซ่หรงจึงยกมือส่งสัญญาณให้กลุ่มอันธพาลเงียบเสียงลง “คุณตำรวจอย่าโมโหสิ นี่เราอยู่กับที่หนึ่งประจำจังหวัดเลยนะ ทุกคนกำลังแสดงความยินดีอยู่นี่ไง”
เซ่หรงปล่อยกู้นอกระบบตลอดทั้งปี จึงมีชื่อในบันทึกประจำวันของสถานีตำรวจทุกที่ ตำรวจเหลือบมองเขาทีหนึ่ง แล้วเอ่ยเตือน “อย่ามัวแต่พูดจากำกวม มีอะไรก็พูดมา”
“ก็ได้ๆๆ เรื่องส่วนตัวของพวกผม พวกผมไปจัดการกันเองก็ได้ ไม่รบกวนคุณตำรวจหรอกครับ”
ในตอนนี้เอง จู่ๆหร่วนซิงหว่านก็ส่งเสียงออกมา “ฉันอยากแจ้งความค่ะ”
ในตอนที่ทุกคนหันมามอง เธอก็พูดซ้ำอีกรอบ “ฉันอยากแจ้งความคนที่ทำร้ายน้องชายฉัน”
สีหน้าของเซ่หรงนิ่งค้าง ในตอนที่กำลังจะเอ่ยพูด หร่วนซิงหว่านก็พูดกับเขาว่า “นายต้องการเงินไม่ใช่เหรอ ฉันให้นายก็ได้ แต่ว่าคนพวกนั้นทำร้ายน้องชายฉัน ฉันไม่สามารถปล่อยไปเฉยๆได้หรอกนะ”
รอยยิ้มบนหน้าของเซ่หรงกลับมาอีกครั้ง “นั่นมันก็แน่อยู่แล้ว แต่มันก็ต้องดูกันไปทีละเรื่อง”
กลุ่มอันธพาลพวกนี้ก่อเรื่องเป็นปกติ จึงได้เข้าสถานีตำรวจเป็นว่าเล่น
เซ่หรงพูดขึ้นมาอีกว่า “จะให้เงินได้เมื่อไหร่”
“อีกสามวัน ฉันขอเวลาหาเงิน”
“ได้ จัดไป งั้นตกลงตามนี้นะ”
หร่วนเฉินดึงหร่วนซิงหว่านเอาไว้ “อย่าเอาให้เขานะ!”
หร่วนซิงหว่านพูดเสียงเบาว่า “เสี่ยวเฉิน เรื่องนี้แกไม่ต้องยุ่ง”
เซ่หรงมองมาที่หร่วนเฉิน แล้วส่งเสียงจิ๊ปากออกมา “เด็กน้อย พี่สาวนายเด็ดขาดกว่านายเยอะ ถ้าฉันเป็นนายเมื่อสามปีก่อน ฉันคงยอมตัดนิ้วตัวเองดีกว่าให้เธอ........”
ผลัวะ!
หมัดหลุนๆของหร่วนเฉินปะทะลงบนหน้าของเขา
กลุ่มอันธพาลที่อยู่ข้างหลังเซ่หรงพากันลุกขึ้นในทันที แต่เซ่หรงก็โบกมือส่งสัญญาณว่าไม่เป็นไร จากนั้นก็ใช้มือลูบหน้า “เดือดอะไรขนาดนี้ ปกติที่หนึ่งประจำจังหวัดของเราก็แค่คนปอดแหกที่เก่งแต่หลบหลังพี่สาวแหละน่า ปล่อยให้เขาระบายความโกรธออกมาเถอะ เรื่องเล็กน้อย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สามีเก่า...มาขอแต่งงานอีกแล้ว
เอาอีกแล้ว รวบรัดตัดจบในสามบทสุดท้าย ตัดทิ้งดื้อๆ ไม่เล่าว่าพี่กับพ่อพระเอกเป็นยังไง และตระกูลของหนิงหนิงเป็นไงกัน น้าชั่วของหนิงหนิงตายจริงไหม...