สามีเก่า...มาขอแต่งงานอีกแล้ว นิยาย บท 611

อีกด้านหนึ่ง เจียงหยวนอยู่ในห้องทดลองมาได้สองสามวันแล้ว เมื่อรู้สึกว่าร่างกายเริ่มมีกลิ่นโชย จึงจัดการงานในมือ กลับบ้านไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า

ขับมาได้ครึ่งทาง เจียงหยวนก็รู้สึกได้ว่ามีคนตามเขา

หลังจากขับไปได้สักระยะ เขาจึงฉวยโอกาสตอนที่อีกฝ่ายไม่สนใจ และหาทางอย่างแยกลงทางด่วนอย่างเร็ว

เมื่อมาถึงใต้สะพานแล้ว เจียงหยวนก็จอดรถตรงข้างทาง เมื่อเห็นว่ารถคันที่ตามเขามาเมื่อครู่อันตรธานหายไปแล้ว เขาก็ผิวปากอย่างพึงพอใจ ขับรถวนรอบเมืองอยู่พักใหญ่ ก่อนจะกลับบ้าน

หลังจากจอดรถในชั้นใต้ดินเสร็จแล้ว เจียงหยวนหยิบกุญแจลงมาจากรถอย่างเชื่องช้า

หลินหนานยืนยิ้มให้เขาอยู่ไม่ไกล

เจียงหยวน "......"

เขารีบหันกาย คิดอยากจะกลับขึ้นรถ แต่กลับพบว่ามีคนมายืนข้างหลังเขาตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้

เจียงหยวนขยี้เส้นผม ส่งเสียงไม่พอใจ "ไม่คิดเลยว่าฉันจะมีวันนี้ได้ พวกแกเป็นคนของใคร ไปถามให้แน่ชัดหรือยังว่าฉันเป็นใคร? กล้ามาขวางฉันถึงที่นี่"

หลินหนานพูด "คุณเจียง พวกเราก็แค่อยากมาถามอะไรนิดหน่อยเท่านั้นครับ"

"เรื่องอะไรถึงต้องเอาคนมาเยอะขนาดนี้? แล้วยังล้อมตัวฉันไว้รอบอีก นายบอกฉันให้รอที่บ้านก็จบ"

หลินหนานยังคงรักษารอยยิ้มเอาไว้ "อย่างนี้ครับ ที่คนของเราตามคุณ ก็เพื่อความปลอดภัยของตัวคุณเอง แต่ไม่คิดเลยว่า จู่ๆคุณจะหนีมาแบบนี้"

เจียงหยวนยืนเอนตัว ไม่รู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ตอนนี้เลยสักนิด "มีเรื่องอะไรก็พูดมา ผมได้ฟังแล้วจะพิจารณาว่าจะตอบดีไหม"

หลินหนานไม่พูดอะไร เพียงแค่ก้าวถอยหลัง

ในเสี้ยวนาที ร่างสูงเพรียวของชายหนุ่มก็ปรากฏสู่สายตาของเขา ดวงตาสีดำขลับไร้อารมณ์จ้องมองมาทางเขา

เจียงหยวน "......"

เขาอยากโกยแนบออกไปจากที่นี่ตอนนี้เสียจริง

เสียงเย็นชาของโจวฉือเซินดังขึ้น "นายคิดจะพูดตรงนี้?"

เจียงหยวนรีบยืนตัวตรงเด่ "เชิญข้างในครับ"

ในลิฟต์ เจียงหยวนยืนอย่างวิตกกังวลอยู่ตรงประตู หลินหนานยืนอยู่ข้างเขา ส่วนโจวฉือเซินยืนพิงผนังลิฟต์อยู่หลังสุด

ทั่วทั้งลิฟต์ อบอวลไปด้วยความหนาวเหน็บ

เจียงหยวนรู้สึกเสียใจภายหลังเล็กน้อย การที่ผู้ชายสกปรกและเหม็นไม่ใช่เรื่องใหญ่ ทำไมถึงต้องกลับบ้านอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าด้วย

ตอนนี้ก็ได้แต่สมน้ำหน้า ถูกจับเลย

มีความทุกข์ที่พูดออกมาไม่ได้

ความเงียบในลิฟต์แพร่กระจายไร้เสียงราวกับความตาย เมื่อรอจนกระทั่งอากาศภายในยิ่งลดน้อยลงเรื่อยๆ ----

'ติ๊ง' เสียงลิฟต์เปิดก็ดังขึ้น

เจียงหยวนไม่ขยับไปครู่หนึ่ง

ขายาวของโจวฉือเซินก้าวออกไป

เจียงหยวนอดไม่ได้ที่จะพึมพำ คนคนนี้ไม่น่าจะรู้แม้กระทั่งที่อยู่ของเขาไหม

หลังจากไม่กี่วินาที โจวฉือเซินก็หยุดฝีเท้าลงตรงหน้าประตู

เป็นไปตามคาด

เจียงหยวนไอไม่กี่ที ก่อนจะสาวเท้าเข้าไปแสกนลายนิ้วมือเพื่อเปิดประตู

หลังจากประตูเปิด เขาก็เดินเข้าไปด้านใน "นั่งตามสบายเลยครับ ไม่ต้องเกรงใจ"

เมื่อมือของเขากำลังจะกดสัญญาณเตือนภัยเพื่อติดต่อกับเจียงซ่างหานตรงตู้ลับ หลินหนานก็ปรากฏตัวตรงหน้าเขาพลางยิ้มน้อยๆ "คุณเจียง คุณก็นั่งด้วยสิครับ"

เจียงหยวนไม่คิดดิ้นรนต่อไป

เขานั่งตรงข้ามโจวฉือเซิน เห็นได้ชัดว่าอยู่ไม่เป็นสุข

ขายาวของโจวฉือเซินพันไขว้ เพียงแค่เปรยตาขึ้นมอง ก็เต็มไปด้วยกระแสแห่งความกดดัน

เจียงหยวนเปลี่ยนท่าทาง "ที่พวกคุณบอกว่ามีเรื่องถามผม คือเรื่องอะไรครับ? ถ้าผมรู้ผมจะบอกแบบไม่หมกเม็ดเลย"

หลินหนาน "......"

ตะกี้เขาพูดอย่างนี้?

โจวฉือเซินพูดอย่างไม่เร่งรีบ ด้วยน้ำเสียงราบเรียบ "อาการโรคของลูก"

"เรื่องนี้......ผมอธิบายให้คุณหร่วนฟังแล้วครับ เขาไม่ได้บอกคุณ?"

"ฉันอยากฟังจากปากของนายด้วยตัวเอง"

เจียงหยวนไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องยอมจำนน เขานำคำพูดที่เคยพูดกับหร่วนซิงหว่านเมื่อสองวันก่อน เล่าให้โจวฉือเซินฟังทุกคำอีกรอบ

โจวฉือเซินนั่งพิงโซฟาฟังด้วยใบหน้าที่ไม่เปลี่ยนเลยตั้งแต่ต้นจนจบ

หลังจากเจียงหยวนพูดจบ เขาก็พูดต่อ "เรากำลังวางแผนการรักษาครับ สถานการณ์มันค่อนข้างซับซ้อน บวกกับห้องทดลองไม่อนุญาตให้คนนอกเข้าไปด้วย ดังนั้นพวกคุณเลยไม่สามารถเข้าไปดูเด็กได้ แต่ผมส่งรูปเด็กให้คุณหร่วนดูทุกวันนะครับ เธอน่าจะ......บอกคุณแล้วใช่ไหม?"

โจวฉือเซินไม่ตอบ เพียงแค่พูด "ต้องใช้เวลารักษานานเท่าไหร่"

เจียงหยวนพูด "อันนี้......ยังไม่แน่ใจจริงๆครับ ตอนนี้ยังไม่มีการสรุปแผนการรักษาเลยครับ"

"เวลาสองปีพอไหม"

เจียงหยวนส่ายศีรษะ "อาการป่วยของเขา รุนแรงกว่าเด็กคนก่อนหน้านั้นเล็กน้อย นั่นเป็นสาเหตุที่ทำไมเราไม่ปฏิบัติตามแผนการรักษาแบบเดียวกันครับ เรื่องอื่นผมไม่สามารถรับประกันได้ แต่สองปีแน่นอนว่าไม่ได้แน่ ห้าปี สิบปี หรือนานกว่านั้น เป็นเรื่องปกติครับ"

โจวฉือเซินเม้มริมฝีปากเล็กน้อย สีหน้าเย็นชากว่าก่อนหน้าเป็นเท่าตัว

เจียงหยวนรีบพูดต่อว่า "เฮ้เฮ้เฮ้ แต่ว่าสิ่งนี้ก็มีปัญหาของความน่าจะเป็นเช่นกันครับ ตอนนี้พวกเราจะหาจุดสำคัญไม่พบ ถ้าหาเจอ ไม่แน่ว่าปาฏิหาริย์อาจจะเกิดขึ้นครับ"

โจวฉือเซินมองไปยังเขา "อาการป่วยรุนแรงขึ้น นายหมายความว่าอะไร"

เมื่อได้ยิน สีหน้าของเจียงหยวนก็หม่นลงเล็กน้อย เขาขมวดคิ้วบางๆ "มีคนทำการเปลี่ยนพื้นฐานของเข็มบำรุงร่างกายเดิม เลยเป็นเหตุให้......หลังจากฉีดแล้วอาการแย่ลงครับ"

"คนที่มีข้อมูลเหล่านี้ต่างก็เป็นคนในห้องทดลองของนาย"

"สิ่งนี้......ถึงแม้จะเป็นจริงอย่างที่ว่า แต่ข้อมูลกับข้อมูลที่เกี่ยวข้องทั้งหมดต่างก็ถูกทำลายไปแล้วเมื่อสองปีก่อนครับ มีคนมากมายในห้องทดลอง ทุกคนต่างก็มีชื่อเสียงในด้านการแพทย์ ไปพูดลอยๆ เชื่อถือไม่ได้ ไม่ดีที่จะไปสงสัยคนอื่นนะครับ"

โจวฉือเซินไม่พูดอะไร ใบหน้าที่ไร้ซึ่งอารมณ์มองไปทางเขา

เจียงหยวนรู้สึกใจฝ่อเมื่อถูกเขามองมา ก่อนจะหลบสายตา

ครู่ใหญ่ โจวฉือเซินก็พูดขึ้นมาอีกครั้ง "เรื่องที่สอง ฉันอยากรู้เวลาที่แน่ชัดเกี่ยวกับงานเลี้ยงตระกูลของตระกูลเจียง"

"นี่ไม่ดีหรือครับ?"

โจวฉือเซินพูด "มีบางคำที่ฉันถามนาย แต่นายก็ไม่มีความกล้าที่จะพูด"

เจียงหยวนพูด "แต่ถึงแม้ผมจะบอกเวลาที่แน่นอนกับคุณไป คุณก็เข้าไปไม่ได้นี่ครับ"

"นายเข้าไปได้ไม่ใช่เหรอ"

เจียงหยวน "?"

โจวฉือเซินพูด "เรื่องที่สาม พาพวกเราเข้าไป"

เจียงหยวนลุกขึ้น ก่อนจะปฏิเสธด้วยเหตุผลที่เต็มไปด้วยสัจธรรม "นี่มันจะเกินไปหน่อยนะครับ ฆ่าผมจะยังดีเสียกว่า"

"เหรอ"

โจวฉือเซินมองไปยังหลินหนาน หลินหนานพยักหน้า ก่อนจะโบกมือ ทันใดบอดี้การ์ดสองสามคนก็รีบรุดมาข้างหน้า

เจียงหยวนรีบนั่งลงอีกครั้งด้วยความเร็ว และพูดอย่างจริงจังว่า "ผมมาคิดอย่างละเอียดแล้ว เรื่องนี้ก็ไม่ใช่ว่าเราจะปรึกษาหารือกันไม่ได้ พวกเรามาพูดกันถึงแผนการเถอะครับ"

ปากบางของโจวฉือเซินยกยิ้มเล็กน้อย สายตาที่มองไปทางเขา เหมือนกับมองคนโง่งม

เจียงหยวนหลับตาลง พูดออกไปอย่างหมดหนทาง "อาทิตย์หน้า บ้านเก่าตระกูลเจียงครับ"

"มีใครเข้าร่วมบ้าง"

"คนตระกูลเจียงทุกคน แต่ไปก็ไม่น่าสนใจหรอกครับ คนแก่ก็เที่ยววางมาด ส่วนคนหนุ่มสาวก็อยู่ไม่นิ่ง"

นิ้วมือของโจวฉือเซินเคาะเบาๆเข้ากับที่จับโซฟา พูดอย่างสงบว่า "เจียงซ่างหานไปไหม"

เจียงหยวนพยักหน้า "ตอนนี้เขาเป็นผู้นำตระกูลของตระกูลเจียงครับ ถึงแม้เขาจะไม่อยากไป พวกเหล่าผู้อาวุโสในตระกูลก็จะมัดเขาไปอยู่ดี"

โจวฉือเซินพูด "จุดประสงค์หลักของการนัดรวมตัวคืออะไร"

"เซ่นไหว้บรรพบุรุษครับ"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สามีเก่า...มาขอแต่งงานอีกแล้ว