สองเรื่องก่อนหน้า ที่บอกจะแก้ ก็ยังแก้อะไรไม่ถึงไหน
เพราะเมื่อเทียบกัน เรื่องสุดท้ายสำคัญกว่ามาก
และดูเหมือนว่าเหล่าผู้อาวุโสนี้ พวกเขาถอยให้หนึ่งก้าวสำหรับสองเรื่องก่อนหน้า เพื่อให้เกียรติเจียงซ่างหาน
สุดท้าย พวกเขาก็ไม่ถอย
ท่านทวดเจียงพูด "เกี่ยวกับสิ่งที่เจ้าพูดก่อนหน้า เรื่องที่ให้เจียงเยว่กลับมายังตระกูลเจียง นี่เป็นเรื่องใหญ่ ไม่ใช่แค่พูดคำสองคำก็เข้าใจ ยังขาดการพิจารณาทุกด้าน"
มีผู้อาวุโสพูดต่อ "ถูก นี่เป็นกฎที่บรรพบุรุษได้กำหนดเอาไว้ จะมาเปลี่ยนเพราะคนคนเดียวได้ยังไงง่ายๆ"
มีคนพูดอีกว่า "อีกอย่าง เรื่องที่เจียงหยวนไปเมืองหนานเฉิง กับเรื่องเธอมีแก่นสารที่ต่างกัน ตอนแรกเธอเต็มใจที่จะลบชื่อออกจากแผนผังวงศ์ตระกูล และต้องการออกไปจากที่นี่กับชายคนนั้น พวกเราห้ามก็ไม่ฟัง ตอนนี้กลับมาก็ไม่เหมาะสม"
หลังจากถูกกลุ่มคนฝังกลบด้วยคำครหา ท่านทวดเจียงก็ยกมือขึ้นห้ามพวกเขาพูด
ท่านทวดเจียงมองไปยังสวี่เยว่ที่นั่งคุกเข่าอยู่บนพื้นตลอด "เธอยังจำ สิ่งที่เธอพูดตอนแรกก่อนจะออกไปจากตระกูลเจียงได้ไหม?"
"ฉันยินยอม ให้ลบชื่อออกไปจากตระกูลเจียง และจะไม่ย่างกรายเข้ามายังเมืองเจียงโจวอีกตลอดชีวิต"
"เธอจำได้ก็ดี" ท่านทวดเจียงพูดอีก "ถ้าอย่างนั้นตอนนี้ เธอกลับมาทำไม?"
สวี่เยว่พูด "ฉันไม่สามารถแสดงความกตัญญูในขณะที่ท่านยังมีชีวิตได้ เขาเพิ่งจากไปได้ไม่นาน ฉันปรารถนาจะไว้ทุกข์ให้เขา3ปีค่ะ"
ไม่รอให้ใครพูด เธอก็พูดต่อ "ฉันจะไม่เข้าวงศ์ตระกูล แค่เพียงต้องการเข้าไปยังศาลบรรพบุรุษเพื่อทำการไว้ทุกข์ค่ะ"
เจียงซ่างหานพูด "ในเมื่อคุณป้าพูดอย่างนี้ นี่เป็นความปรารถนาสุดท้ายของคุณปู่ ผมเชื่อว่าทุกท่านน่าจะไม่มีความคิดเห็นที่ไม่เห็นด้วยนะครับ"
กลุ่มคนกลืนคำพูดก่อนหน้าลงไป ก่อนจะทยอยมองไปยังท่านทวดเจียง
แต่พวกเขาก็รู้อยู่แก่ใจ ว่าท่านทวดเจียงวางแผนให้เจียงชูหนิงแต่งงานกับเจียงซ่างหาน และคงไม่ทำกระทำการฉีกหน้าเขาแน่
เจียงชูหนิงพูด "ก็แค่นี้เอง แต่เธอต้องคิดให้ดี ที่บอกว่าสามปี ต้องไม่มีขาดไปสักวัน ทุกวันต้องมาคุกเข่าที่นี่ ไม่เพียงแค่ไว้ทุกข์ แต่ต้องพิจารณาตัวเองถึงเรื่องที่ทำผิดมาตลอดหลายปีนี้ด้วย"
โจวฉือเซินขมวดคิ้ว พลางก้าวไปข้างหน้า หร่วนซิงหว่านจับมือเขาไว้แน่น
ถึงแม้เธอจะไม่รู้ว่าตอนนี้คือสถานการณ์อะไร แต่น้าสวี่ไม่มองมาทางโจวฉือเซินเลยสักนิด เจียงซ่างหานรวมไปถึงท่านทวดเจียง ก็ไม่ได้ขานชื่อโจวฉือเซินออกมา เห็นได้ชัดว่าไม่ต้องการให้ผู้อาวุโสคนอื่นในตระกูลรู้ชื่อของเขา
สวี่เยว่พูด "คิดดีแล้วค่ะ"
ท่านทวดเจียงลุกขึ้นพลางตัวสั่นโงนเงน "เอาล่ะ คนที่ควรคุกเข่าก็คุกเข่าอยู่ที่นี่ ส่วนคนอื่น ก็ไปทำธุระของตัวเอง"
เจียงจิ้งเหยาก้าวเข้าไปประคองเขา
ส่วนผู้อาวุโสคนอื่นเห็นถึงสถานการณ์แล้ว จึงค่อยๆทยอยพากันออกไป
เจียงซ่างหานหันมามองหร่วนซิงหว่านกับโจวฉือเซิน ก่อนจะพูดอย่างสงบ "ตามผมมา"
เจียงหยวนเงยหน้า ใบหน้าขุ่นเคือง
เจียงซ่างหานเมิน ก่อนจะก้าวขาเดินจากไป
หร่วนซิงหว่านหันไปมองแผ่นหลังของน้าสวี่ เธออ้าปาก แต่กลับกลืนคำพูดของตัวเองลงไป
ไม่นาน ก็จะได้คำตอบแล้ว
เธอดึงสายตากลับมา และเห็นโจวฉือเซินก็มองไปยังน้าสวี่เหมือนกัน
หร่วนซิงหว่านดึงแขนเสื้อชุดสูทของเขา โจวฉือเซินดึงสายตากลับมา ใบหน้าเคร่งขรึมเครียดเขม็งเล็กน้อย ก่อนจะพาเธอออกไป
หลังจากเสียงฝีเท้าทั้งหลายเดินหายจากไป ในที่สุดเจียงหยวนก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก รู้สึกว่าตัวเองมีชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง เขานั่งแหมะลงบนพื้น พูดพึมพำว่า "ใจร้ายจริงๆ"
เขาพูดพลางหันไปมองเจียงชูหนิง ยื่นมือออกไปจิ้มไหล่เธอ "ยังคุกเข่าอีกเหรอ? เขาไปกันหมดแล้ว"
ในตอนนี้เจียงชูหนิงกำลังโกรธ ขยับไหล่ ไม่สนใจเขา
เจียงหยวนทุบเข่า "ไม่ใช่ฉันว่านะ ช่วงนี้เธอไปกินหัวใจหมีดีเสือมาเหรอ ถึงได้กล้ากระด้างกระเดื่องกับพวกคน......" เขายังพูดไม่ทันจบ แต่สวี่เยว่หันมามองก่อน ทำให้ไม่ได้พูดออกมา
สวี่เยว่พูดอย่างสงบ "ปลาหมอตายเพราะปาก"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สามีเก่า...มาขอแต่งงานอีกแล้ว
เอาอีกแล้ว รวบรัดตัดจบในสามบทสุดท้าย ตัดทิ้งดื้อๆ ไม่เล่าว่าพี่กับพ่อพระเอกเป็นยังไง และตระกูลของหนิงหนิงเป็นไงกัน น้าชั่วของหนิงหนิงตายจริงไหม...