วันรุ่งขึ้น โจวฉือเซินเพิ่งลงมาชั้นล่าง หลินหนานก็รีบเดินเข้ามาพูดว่า "ประธานโจว เกิดเรื่องขึ้นแล้วครับ"
ไม่ว่าจะก่อนหมั้นหรือหลังหมั้น ท่าทีที่จี้หวยเจี้ยนมีต่อโจวอานอานล้วนแต่เย็นชามากมาโดยตลอด และตระกูลโจวกับตระกูลจี้ถือว่าการแต่งงานครั้งนี้เป็นเพียงความร่วมมือทางธุรกิจเท่านั้น โดยไม่สนใจความรู้สึกที่พวกเขามีต่อกันเลย
คนเดียวที่จริงจังกับการหมั้นในครั้งนี้ อาจจะมีเพียงโจวอานอานเท่านั้น
ถ้าหากจะพูดก็คือก่อนหน้านี้เป็นเพราะว่าเธอกลัวว่าจี้หวยเจี้ยนจะเกลียดเธอดังนั้นเธอก็เลยปฏิเสธการแต่งงานครั้งนี้และมีความยับยั้งชั่งใจอยู่บ้าง หลังจากที่การหมั้นหมายนั้นเสร็จสิ้นสมบูรณ์เธอจึงสามารถแสดงท่าทีที่ไม่เกรงกลัวอะไรออกมาได้
เรื่องที่หร่วนซิงหว่านตั้งครรภ์เป็นเหมือนหนามที่ทิ่มแทงเข้าไปในหัวใจของเธอ ดังนั้นความเฉยเมยและความห่างเหินที่จี้หวยเจี้ยนมีต่อเธอ ล้วนต้องโทษที่ตัวของหร่วนซิงหว่านทั้งหมด
อีกทั้งเธอยังรู้สึกมาโดยตลอดว่า หร่วนซิงหว่านแต่งงานกับลูกพี่ลูกน้องของเธอมาสามปีแล้วก็ยังไม่ตั้งครรภ์เลย แต่พอหย่าร้างปุ๊บก็ตั้งครรภ์แล้วได้อย่างไร และเด็กคนนั้นมีความเป็นไปได้มากว่าจะเป็นลูกของจี้หวยเจี้ยนก็ได้
ดังนั้นในตอนเช้าตรู่ของวันนี้ โจวอานอานก็ก่อความวุ่นวายบนโต๊ะอาหารเสียแล้ว แต่ทว่าเธอฉลาดมาก เธอไม่มีการเอ่ยชื่อของหร่วนซิงหว่านเลยตั้งแต่ต้นจนจบ เธอเพียงแต่พูดว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งตั้งครรภ์ลูกของจี้หวยเจี้ยน และให้ท่านใหญ่โจวจัดการให้เธอ
หลังจากเกิดเรื่องราวขึ้นแล้วต่อให้ท่านใหญ่โจวจะรู้ว่าคนคนนั้นคือหร่วนซิงหว่าน แต่มันก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเธอเลย
พอได้ยินอย่างนั้นท่านใหญ่โจวก็ระเบิดอารมณ์ขึ้นมาในทันที และไม่มีความรู้สึกเล็กๆน้อยๆเลย แต่เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับหน้าตาของตระกูลโจว ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาเพิ่งจะหมั้นกันได้ไม่กี่วัน ก็เกิดเรื่องวุ่นวายเช่นนี้ขึ้นแล้ว ในช่วงเวลาสำคัญนี้ ตระกูลจี้เกิดเรื่องที่ไม่สามารถเอาไปพูดโอ้อวดบนโต๊ะอาหารได้อย่างนี้ ก็คงจะส่งผลกระทบต่อความร่วมมือระหว่างพวกเราเช่นกัน
หลินหนานพูดว่า "ท่านใหญ่ฝ่ายนั้นต้องการคำอธิบาย และคนของตระกูลจี้ก็กำลังอยู่ระหว่างทางไปบ้านใหญ่แล้วครับ "
สีหน้าของโจวฉือเซินยังคงไม่เปลี่ยนแปลง เขาเอ่ยปากพูดด้วยความเมินเฉยว่า "โจวอานอานรู้เรื่องนี้ได้ยังไง"
"ยังไม่ทราบแน่ชัดครับ ผมจะไปตรวจสอบเดี๋ยวนี้"
"ไม่ต้องแล้ว" โจวฉือเซินสาวเท้าก้าวออกไปข้างนอกอย่างรวดเร็ว แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาเล็กน้อยว่า "ลองไปถามดูก็จะรู้เอง"
......
ณ บ้านใหญ่ตระกูลโจว
ท่านใหญ่โจวนั่งบนโซฟาโดยเอามือทั้งสองข้างค้ำหัวไม้เท้าเอาไว้ และทำสีหน้าเคร่งขรึมไม่พูดไม่จา
ฝั่งตรงข้าม โจวอานอาน เอาแต่ร้องไห้อยู่ตรงนั้นตลอดเวลา
เวลาล่วงเลยมานานแล้ว ท่านใหญ่โจวจึงพูดด้วยความหงุดหงิดเล็กน้อยว่า "เรื่องทั้งหมดมันก็เกิดขึ้นแล้ว เธอร้องไห้ไปมันก็ไม่มีประโยชน์หรอก ในตอนแรกไม่ใช่เธอหรอกเหรอที่เอะอะโวยวายต้องการจะแต่งงานกับจี้หวยเจี้ยน โดยที่เขาก็ไม่ชอบเธอ ไม่ช้าก็เร็วเขาก็จะมีเรื่องผู้หญิงอยู่ข้างนอกอยู่ดีนั่นแหละ"
โจวอานอานพูดด้วยความน้อยใจว่า "แต่เห็นได้ชัดว่าผู้หญิงคนนั้นมาคอยกวนใจเขาอยู่ตลอดเวลา และตอนนี้ยังมีลูกแล้วอีกด้วย พวกเขาไม่สนใจความรู้สึกของหนูเลย"
ท่านใหญ่โจวพูดด้วยความโมโหว่า "ต่อให้มีลูกแล้วยังไง ฉันไม่เชื่อหรอกว่าจี้หวยเจี้ยนเขาจะกล้าปล่อยให้เด็กคลอดออกมาแล้วไปเจอบรรพบุรุษเลยหรอกน่ะ!"
ในเวลานั้นเอง โจงเสียนเหลือบมองไปที่ประตู ทันใดนั้นก็พูดออกมาว่า "ใช่แล้ว อันที่จริงไม่ใช่ว่าลูกนอกสมรสทุกคนจะมีชีวิตที่ดีขนาดนี้ทุกคนนะ"
ทันใดนั้น เสียงของคนรับใช้ก็ดังขึ้นมาว่า "คุณชายรอง"
โจวฉือเซินทำเสียงอืมอย่างเมนเฉย และมองไม่เห็นอารมณ์ใดๆบนใบหน้าที่เย็นชาของเขาเลย
ในชั่วพริบตาภายในห้องทั้งห้องเงียบสงบลง และอุณหภูมิก็ลดลงเช่นเดียวกัน
เมื่อเห็นโจวฉือเซินมาถึง โจวอานอานก็ไม่กล้าที่จะร้องไห้อีก ดังนั้นเธอจึงได้แต่สะอื้นเงียบๆอยู่ตรงนั้น
และเมื่อโจวจู้นเหนียนลงมาที่ชั้นล่าง ฉากที่เขาเห็นก็คือฉากเช่นนี้ เขาจึงถอนหายใจอย่างเงียบๆ แล้วพูดว่า "ฉือเซิน นายเข็นฉันไปเดินเล่นที่สวนหน่อยได้ไหม พอดีฉันมีเรื่องบางอย่างจะพูดกับนายน่ะ"
หลังจากที่พวกเขาจากไป ท่านใหญ่โจวก็ขมวดคิ้วและพูดว่า "คุณอย่าไปยั่วยุเขาในตอนนี้จะได้ไหม!"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สามีเก่า...มาขอแต่งงานอีกแล้ว
เอาอีกแล้ว รวบรัดตัดจบในสามบทสุดท้าย ตัดทิ้งดื้อๆ ไม่เล่าว่าพี่กับพ่อพระเอกเป็นยังไง และตระกูลของหนิงหนิงเป็นไงกัน น้าชั่วของหนิงหนิงตายจริงไหม...