ถูกเย่หลิงเตะเข้าอย่างนี้ กู้เย่จิ่นก็ถอยหลังไปหนึ่งก้าว แล้วก็คลายมือออก
เย่หลิงขยับเท้าแล้ววิ่ง
มือน้อย ๆ กำลังจะแตะที่ลูกบิดประตู กู้เย่จิ่นก็เข้ามากอดจากด้านหลัง จูบของเขากระทบลงที่ผมเป็นลอนของเธอ พร้อมกับลมหายใจกดดันและเร่าร้อน “ทำไงดี ตอนนี้ฉันถูกปีศาจน้อยอย่างเธอครอบงำเข้าแล้ว”
เขาพลิกฝ่ามือ เย่หลิงที่อยู่ในอ้อมกอดของเธอก็พลักตัวกลับ เขากดไหล่ของเธอและพลักเธอไปติดอยู่ที่ประตู แล้วโน้มตัวลงไปจูบเธอ
ริมฝีปากบางเย็นเฉียบของกู้เย่จิ่นปกคลุมเข้ามา ม่านตาของเย่หลิงหดเล็กน้อย และผลักเขาออกอย่างแรงทันที
แต่ว่าทรวงอกของชายหนุ่มดุจกำแพง จะผลักจะตีอย่างไรก็ไม่ขยับ นิ้วมือของเขาเสยทะลุเข้ามาในผมลอนของเธอแล้วจับท้ายทอยศีรษะของเธอไว้ ใช้ฝ่ามือในลักษณะที่ควบคุมได้ล็อกเธอไว้ในอ้อมแขน ทำให้เธอรับกับจูบของเขา
เย่หลิงทำได้เพียงกัดฟันแน่น ไม่ยอมเปิดปาก
กู้เย่จิ่นจูบเธออยู่ครู่หนึ่งแล้วก็ปล่อยเธอ ปลายจมูกกดแนบกับใบหน้าที่สวยงามของเธอและพูดด้วยเสียงแหบแห้งว่า “เปิดปากของเธอ”
นัยน์ตาของเย่หลิงที่ดึงดูดคนจ้องมาที่เขา “พี่ว่าพี่น่าขยะแขยงไหม น้ำลายจะแพร่เชื้อโรคมากมาย อยากจะจูบก็ไปจูบคนอื่นโน่น”
กู้เย่จิ่นขมวดคิ้ว ใบหน้าเปื้อนด้วยความดุดัน “ไม่เชื่อฟังใช่ไหม เปิดปาก ฉันจะจูบ”
“นี่มันอารมณ์ไหนของพี่ ผิดหวังกับสิ่งที่ปรารถนาเหรอ กู้เย่จิ่น เห็นทีสองปีมานี้คงไม่เคยถูกตัวผู้หญิง พี่กระหายจนถึงขั้นที่แค่จูบก็อดไม่ไหวที่จะสอดลิ้นแล้วเหรอ”
ริมฝีปากบางของกู้เย่จิ่นเม้มขึ้น ดวงตาดำขลับอันเยือกเย็นราวกับน้ำหมึกที่สาดกระเซ็นออก เข้มและลึกซึ้งจนมองไม่เห็นก้นบึ้ง “ฉันไม่เคยแตะต้องตัวผู้หญิง เธอเองก็เหมือนกันที่ไม่เคยถูกผู้ชายแตะเนื้อต้องตัวไม่ใช่เหรอ”
เย่หลิงเลิกคิ้วใบหลิวที่ประณีต “นี่ก็ล้วนเป็นเพราะพี่ คนรอบข้างของฉันล้วนรายล้อมด้วยคนของพี่ ถูกพี่เฝ้าจับตาตลอดเวลา แม้แต่ยุงสักตัวก็ยังไม่ปล่อยเข้ามา กู้เย่จิ่น พี่คอยเฝ้าจับผิดฉันตลอด 24 ชั่วโมง กลัวว่าฉันจะสวมเขาให้พี่ ไปนอนกับผู้ชายอื่น พี่ทำแบบนี้ พี่เหนื่อยบ้างไหม”
เผชิญหน้ากับการยั่วยุของเธอ กู้เย่จิ่นยกริมฝีปากบางขึ้น “หลายปีนั้นยังผ่านมาแล้ว ทำไมเธอไม่ถามฉันล่ะว่าเหนื่อยบ้างไหม ตั้งแต่เล็กจนโตเธอถูกผู้ชายอื่นจับจ้อง จนฉันชินแล้ว ตอนนี้เลี้ยงเธอมาจนโต ฉันจะให้คนอื่นมาชุบมือเปิบ ยกดอกไม้อย่างเธอไปพร้อมกับกระถางได้ยังไง”
“…กู้เย่จิ่น ป่วยใจก็ให้ไปหาหมอเถอะ ฝีมือการรักษาของหวั่นหวั่นไม่เลว ฉันจะบอกหวั่นหวั่นให้…”
กู้เย่จิ่นขัดจังหวะเธอโดยตรง “หวั่นหวั่น หวั่นหวั่น ตอนนี้ปากของเธอก็มีแต่เซี่ยซีหวั่น พวกเธอยู่ด้วยกันจูงมือกัน ทำให้ฉันรู้สึกทิ่มแทงตา ตอนนี้ฉันขอจูบหน่อยก็ไม่ยอมเปิดปาก เธอเย็นชากับฉันเช่นนี้ อย่าบอกนะว่ามีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเซี่ยซีหวั่นแล้ว”
“...”
มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งเหรอ
ผู้หญิงด้วยกันจะจูงมือกันไม่ได้เหรอ
ผู้ชายไม่สามารถอยู่ได้โดยปราศจากผู้หญิงเหรอ
เย่หลิงยื่นมือน้อย ๆ ออกมาผลักใบหน้ารูปงามของเขา ผลักออกไปไกล ๆ “จูบก็จูบแล้ว สามารถปล่อยฉันไปได้หรือยัง ฉันปวดฉี่”
กู้เย่จิ่นจ้องเธอแรง ๆ แวบหนึ่ง จากนั้นก็ยัดของลงในมือน้อย ๆ ของเธอ “ให้เธอ”
เย่หลิงก้มลงมอง สิ่งที่เขายื่นมาคือคีย์การ์ดห้อง
เมื่อครู่ฮั่วเสวียนกับแมวสาวเหล่านั้นแสดงการเต้นอย่างเต็มที่ ล้วนอยากได้คีย์การ์ดห้องของเขา แต่เขาไม่ได้ให้ใครสักคน
ตอนนี้เขาดึงเธอมาที่ห้องน้ำชาย ฝืนบังคับยัดคีย์การ์ดใส่ในมือของเธอ
“ฉันไม่เอา!” เย่หลิงนำคีย์การ์ดห้องคืนให้เขา “อย่าฝันอีกเลย ฉันไม่มีทางไปที่ห้องของพี่หรอก!”
“ในตอนกลางคืนมาที่ห้องฉัน เต้น fire ให้ฉันดู ฉันสามารถควบคุมตัวเองให้ไม่ทำอะไรเธอ”
ไปเต้น fire ให้เขาดูที่ห้องของเขาเหรอ
เย่หลิงไม่ใช่หญิงสาวที่ไม่รู้อะไรสักหน่อย ชายหนุ่มหญิงสาว เธอไปเต้น fire ในห้องของเขายามดึกดื่น คงเต้นเป็นฟืนเป็นไฟจริง ๆ แน่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สามีพันล้าน รักฉันให้มีสติหน่อย
นิยายที่เคยอ่านแล้วชอบหายไปหลายเรื่องเลยค่ะชอบอ่านซ้ำบางเรื่องอ่านจบแล้วก็มาเริ่มใหม่แต่ก็ไม่ต่อเนื่องค่ะ...