สาวโก๊ะทะลุมิติ มาใช้ชีวิตในยุคโบราณ นิยาย บท 11

“คิดว่าจะไม่ทันซะแล้ว ทำข้าเหนื่อยแทบแย่” เหมยเหม่ยได้ที่นั่งแล้ว ก็บ่นออกมาทันทีด้วยความเหนื่อยหอบ เหมยเหม่ยกับฟางเหนียงพากันวิ่งไปขึ้นรถม้ากลัวว่าจะไม่ทันรอบแรกเพราะวันนี้คนไปอำเภอเยอะกว่าทุกวัน ฟางเหนียงที่เห็นเพื่อนนั่งหอบไปบ่นไป ก็ส่ายหน้าให้เพื่อนไปมาเบาๆ นางทั้งสองมาถึงที่ทำงานก็แยกย้ายกันไปทำงานตามปกติ ตั้งแต่เถ้าแก่ได้ลูกค้าใหม่เพิ่มมา พนักงานของเถ้าแก่ทั้ง 3 คนก็หัวหมุนจนไม่ได้หยุดพักกันเลยในแต่ล่ะวัน แม้แต่เถ้าแก่เองก็ไม่ได้นั่งพักเช่นกัน เถ้าแก่บอกพวกนางว่าจะรับคนงานเพิ่มมาอีก 2 คนแต่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่เช่นกัน “ไหนเถ้าแก่ว่าจะรับคนงานเพิ่ม ไม่เห็นว่าจะรับมาสักที ตอนนี้ข้าจะไม่ไหวแล้วนะ ที่หน้าร้านวุ่นวายไปหมด” นางทั้งสองเดินไปขึ้นรถม้าหลังเลิกงาน เหมยเหม่ยก็บ่นให้เถ้าแก่ทันที

“ข้าก็เช่นกันต้องลำบากลู่จื้อมาช่วยข้าทุกวัน กว่าลู่จื้อจะได้ออกไปส่งของก็สายมากแล้ว” นางสงสารลู่จื้อที่ต้องกลับบ้านค่ำทุกวัน นางเห็นเหมยเหม่ยมองหน้านางอยู่สักพักแล้ว เหมือนว่าอยากจะพูดอะไรแต่ก็ยังไม่กล้า สุดท้ายเหมยเหม่ยก็พูดออกมา “ฟางเหนียงข้ามีเรื่องจะบอกเจ้า คือว่า คือว่า ข้าคงทำงานที่ร้านอีกไม่นานแล้วล่ะ ท่านพ่อของข้าให้ข้าไปช่วยทำนา ข้าคงไปทำงานเป็นเพื่อนเจ้าไม่ได้อีกแล้ว” 2 ปีแล้วที่เหมยเหม่ยไม่ได้ไปช่วยท่านพ่อท่านแม่ทำนาเพราะสงสารฟางเหนียงที่เสียท่านพ่อไป เหมยเหม่ยคิดว่าจะไปทำงานเป็นเพื่อนฟางเหนียงก่อน หากฟางเหนียงทำใจเรื่องท่านพ่อได้เมื่อไหร่เหมยเหม่ยจะกลับไปช่วยงานท่านพ่อท่านแม่ ช่วงนี้เหมยเหม่ยก็เห็นว่าฟางเหนียงเริ่มทำใจได้มากแล้ว จึงตัดสินใจจะออกจากงาน อีกอย่างท่านทั้งสองก็แก่ขึ้นมากแล้วด้วย ตอนแรกเหมยเหม่ยอยากจะทำงานต่อ ถึงแม้ว่าฟางเหนียงจะออกจากงานไป อย่างน้อยก็หาเงินเพิ่มให้ครอบครัวได้ แต่ปีนี้ท่านแม่เหมยเหม่ยไม่ค่อยสบาย เหมยเหม่ยจึงอยากดูแลท่านแม่ให้เต็มที่

“ทำไมรึ เจ้าไม่อยากทำงานแล้วอย่างนั้นหรือ” ฟางเหนียงถามด้วยความสงสัย เพราะครั้งก่อนเหมยเหม่ยบอกกับนางว่าหากนางออกจากงานไปทำนาเหมยเหม่ยคงไม่ได้ไปช่วยนางเพราะติดงาน “ท่านแม่ข้าไม่ค่อยสบายเท่าไหร่ หากปล่อยท่านไปทำนาอีก ข้ากลัวว่าท่านแม่จะเป็นหนักกว่าเดิม” เหมยเหม่ยอธิบายให้ฟางเหนียงฟัง “ท่านป้าไม่สบายตั้งแต่เมื่อไหร่รึ ไม่เห็นเจ้าพูดให้ข้าฟังบ้างเลย” ฟางเหนียงรู้สึกเป็นห่วงท่านแม่ของเหมยเหม่ยขึ้นมาทันที ท่านป้าดีกับนางมาตลอด ตอนเสียท่านพ่อไปก็มีแค่ท่านป้านี่แหละที่คอยปลอบใจนางอยู่เสมอ ครั้งก่อนที่เห็นท่านป้า ท่านก็ยังแข็งแรงดีอยู่เลย วันนี้ทำไมเหมยเหม่ยถึงมาบอกกับนางว่าท่านป้าไม่สบายได้ล่ะ

“เจ้าอย่าเพิ่งคิดไปไกล ข้าแค่เห็นท่านแม่ไม่ค่อยแข็งแรงเหมือนเมื่อก่อนก็เท่านั้น ข้าได้ไปถามท่านหมอแล้วท่านหมอบอกว่าท่านแม่ไม่ได้เป็นอะไรมาก แต่อย่าให้ท่านแม่ทำงานหนักเท่านั้น” ฟางเหนียงที่ได้ยินดังนั้นก็สบายใจมากขึ้น นางต้องหาโอกาสไปเยี่ยมท่านป้าสักครั้งแล้วล่ะ “แล้วเจ้าจะมาทำงานคนเดียวได้ใช่ไหม หากข้าออกจากงานแล้ว” เหมยเหม่ยถามฟางเหนียงด้วยความเป็นห่วง เพราะฟางเหนียงกำลังเริ่มทำใจได้ หากปล่อยให้ไปทำงานคนเดียวอีกจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมรึปล่าว “เจ้าไม่ต้องเป็นห่วงข้าหรอก เจ้าจำได้ไหมที่ข้าบอกกับเจ้าว่าข้าอยากทำนา ทำนาครั้งนี้ต้องรบกวนเจ้ามาช่วยข้าด้วยนะ” เหมยเหม่ยได้ยินเช่นนั้นก็หัวเราะออกมา ฟางเหนียงก็ตั้งใจจะบอกเรื่องนี้กับเหมยเหม่ยเช่นกัน เพราะนางอยากมีเวลาทำภารกิจให้เต็มที่ “เรื่องนี้เราต้องคุยกับเถ้าแก่ก่อน ท่านจะได้หาคนงานมาเพิ่มอีก” เหมยเหม่ยพูดถึงเถ้าแก่แล้วก็นึกเสียใจอยู่บ้าง ทำงานด้วยกันมาตั้งนาน อีกหน่อยก็ต้องจากกันแล้วสินะ

 ฟางเหนียงมาถึงบ้านก็รีบไปถางหญ้าต่อให้เสร็จ วันนี้นางน่าจะทำเสร็จพอดีเพราะเหลือไม่เยอะเท่าไหร่ “เฮ้อออ ในที่สุดข้าก็ทำสำเร็จ” หลังจากที่นางทำงานเสร็จนางก็ไปอาบน้ำอาบท่า แล้วค่อยเข้ามานั่งลงบนเก้าอี้ข้างตู้อย่างเหนื่อยล้า “สวัสดีโฮสต์ วันนี้ทำภารกิจเสร็จหรือไม่ วันนี้ครบกำหนดของภารกิจแล้วนะ” เสียงระบบพูดขึ้นมาทำให้ฟางเหนียงตกใจอีกครั้ง “อร๊าาาย อีกแล้วนะระบบ ก็ข้าบอกแล้วอย่างไรเล่า ว่าอย่ามาแบบเงียบๆ เช่นนี้อีก” นางตกใจจนต้องบ่นออกมาให้ระบบ “โฮสต์ควรจะชิน" ระบบยังคงยอกย้อนนาง เฮ้ออ!!! นางต้องทำตัวให้ชินจริงๆ หรอเนี้ย “ช่างเถอะๆ วันนี้ข้าทำภารกิจเสร็จแล้วล่ะ ข้าต้องเอากระดาษภารกิจนี้เข้าไปในตู้นี้ใช่รึไม่” นางพูดแล้วก็เปิดตู้เอากระดาษภารกิจเข้าไปแล้วปิดตู้ ตัวหนังสือที่เคยหายไปเมื่อครั้งก่อนตอนนี้กลับมาเช่นเดิมแล้วเพราะนางทำภารกิจสำเร็จ นางไม่เคยเอากระดาษภารกิจนี้ออกจากบ้านเลยสักครั้ง เพราะกลัวว่าตัวเองจะทำหาย นางจะเอาไปเก็บไว้ในกล่องตรงหัวนอน

“ (คุณทำภารกิจเสร็จสมบูรณ์ โปรดรับรางวัล) ” เสียงแจ้งเตือนจากตู้ดังขึ้น นางจึงเปิดตู้แล้วหยิบของรางวัลออกมา “ (นี่คือผงปุ๋ยวิเศษ ที่จะทำให้พืชพันธุ์ของคุณมีผลที่ใหญ่หรือมากกว่าปกติหลายเท่าของผลนั้นๆ และวิธีใช้ก็คือ เอาผงปุ๋ยวิเศษครึ่งช้อนผสมกับน้ำ 1 โอ่ง รดน้ำวันละ 1 ครั้งหากมากว่านี้อาจทำให้พืชพันธุ์รับไม่ไหวแล้วตายไปในที่สุด”) เสียงแจ้งเตือนได้อธิบายถึงสรรพคุณและวิธีการใช้ผงปุ๋ยวิเศษนี้ให้กับฟางเหนียงฟัง นางพยักหน้าตอบ “เงินรางวัลภารกิจของโฮสต์ครั้งนี้ได้มา 3 ตำลึงเงินระบบให้เป็น 2 เท่าๆ กับ 6 ตำลึงเงิน โฮสต์จะเก็บเงินนี้ไว้ใช้ก่อน หรือจะเก็บเป็นเงินสะสม หากโฮสต์จะเก็บเป็นเงินสะสม โฮสต์จะไม่สามารถเอาเงินนี้มาใช้ได้อีกจนกว่าจะสะสมครบตามจำนวน” นางฟังที่ระบบอธิบายแล้วพูดตอบระบบไป

“ข้าเลือกเก็บเป็นเงินสะสม” หากนางได้เงินมานางจะสะสมไว้ทั้งหมด เพราะเงิน 10,000 ตำลึงทองรอให้นางไปปลดล็อคอยู่ “ระบบเก็บเงินสะสมไว้เรียบร้อย โฮสต์จะรับทำภารกิจต่อเลยรึไม่” นางได้ยินเช่นนั้นก็ตกใจนิดๆ นี่ระบบไม่คิดจะให้นางพักก่อนสักวันเลยหรอ นางคิดสักพักแล้วตอบระบบไป “รับ มอบหมายมาได้เลยเจ้าค่ะ” นางรับทำภารกิจต่อ ดีเช่นกันหากนางทำภารกิจเร็วก็จะได้เงินของนางขึ้นเช่นกัน “ภารกิจที่ 2 คือปรับปรุงบ้านหลังนี้ด้วยเงินไม่น้อยกว่า 1 ตำลึงทอง เงินรางวัลที่ได้รับ 3 ตำลึงทอง ของรางวัลต่อจากนี้จะได้รับเป็นรางวัลสุ่ม เพราะระบบไม่สามารถรู้ได้เลยว่ารางวัลในตู้ที่จะได้รับในแต่ละภารกิจมันคืออะไร โฮสต์จะรับภารกิจนี้หรือไม่” นางยังไม่ตอบตกลงกับระบบแต่ถามระบบด้วยความสงสัย “ทำไมภารกิจถึงเหมือนกับสิ่งที่ข้าต้องการจะทำอยู่แล้วล่ะระบบ”

“บ้านของโฮสต์ควรได้รับการปรับปรุงเป็นอย่างมาก ฝนตกมาน้ำท่วมบ้าน หนาวมาก็ให้ความอบอุ่นไม่ได้ หากพายุมาระบบรับรองเลยว่า บ้านของโฮสต์ทั้งหลังนี้พร้อมจะไปกับพายุแน่นอน” จะว่าไปก็จริงอย่างที่ระบบพูดมานั้นแหละ บางครั้งลมมานิดหน่อยหลังคาบ้านนางก็เหมือนจะหลุดออกมาอยู่ร่ำไป และแน่นอนว่าการปรับปรุงบ้านในครั้งนี้ นางจะต้องทำให้มันแข็งแรงมากๆ เวลาพายุมาหรือฝนตกนางก็จะได้สบายใจ ไม่ต้องตื่นมาห่วงว่าอะไรจะเสียหายเพิ่มตรงไหนในบ้านหลังนี้อีก 

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สาวโก๊ะทะลุมิติ มาใช้ชีวิตในยุคโบราณ