หลังจากฟางเหนียงได้เงินจากการขายกล้วยไม้สือหูแล้วนางก็พาเหมยเหม่ยไปซื้อข้าวของที่ต้องใช้กลับบ้าน ทั้งสองคนแยกย้ายกันกลับบ้านก่อน แล้วตอนเย็นเหมยเหม่ยจะแวะเข้ามาหานางอีกครั้ง ฟางเหนียงจึงเข้าไปจัดเตรียมวัตถุดิบไว้ทำหม้อไฟ กว่าเหมยเหม่ยจะมานางก็น่าจะเตรียมเสร็จพอดี นางเตรียมทุกอย่างเรียบร้อยก็รีบไปอาบน้ำอาบท่าแล้วมาติดไฟตั้งหม้อ “ฟางเหนียงเจ้าต้มอะไรอยู่รึ ทำไมถึงมีกลิ่นหอมชวนกินเช่นนี้ล่ะ” เหมยเหม่ยที่เดินเข้ามาในบ้านก็รับรู้ถึงกลิ่นอันโอชะที่มากระตุ้นให้สิ่งเล็กๆ ที่อยู่ในท้องของเหมยเหม่ยดังออกมาอย่างไม่นึกอาย “เจ้ามาพอดีเลย มาๆ เร็วเข้า หม้อกำลังเดือด” ฟางเหนียงที่ได้ยินเสียงของเหมยเหม่ยก็รีบชวนให้มานั่งที่เก้าอี้ที่นางเตรียมไว้ให้ หม้อไฟของนางวันนี้นางทำเป็นซุปหม่าล่าแต่ยุคนี้ไม่มีผงสำเร็จรูปนางจึงต้องตำส่วนผสมเอง ที่นี่มีส่วนผสมที่นางต้องการทั้งหมดแต่คนในยุคนี้อาจยังไม่รู้จักการทำหม่าล่า
“นี้คือหม้อไฟเช่นนั้นรึ” เหมยเหม่ยกวาดตามองเครื่องเคียงที่อยู่เต็มโต๊ะ แล้วนึกสงสัยว่าจะต้องทำยังไงกับพวกมันดี มีทั้งหมู เนื้อ ปลา และผักต่างๆ เหมยเหม่ยมองหน้าฟางเหนียงด้วยความสงสัย “มาเดี๋ยวข้าจะพาเจ้าทานพวกมันเอง อ่ะนี่ น้ำจิ้มสูตรเด็ดของข้า เจ้าดูข้านะ” ฟางเหนียงสาธิตวิธีกินหม้อไฟให้เหมยเหม่ยดู เหมยเหม่ยก็ทำตามอย่างเก้ๆ กังๆ เพราะหม้อมันร้อนเหมยเหม่ยจึงไม่ค่อยกล้าคีบเครื่องเคียงลงไป แต่พอเหมยเหม่ยได้ลิ้มลองรสชาติที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อนก็ทำให้นางต้องร้อง อืมมมมม ออกมาอย่างปลื้มปริ่ม “ฟางเหนียง หม้อไฟอันนี้มันอร่อยมากจริงๆ ข้าหยุดกินมันไม่ได้เลย” เหมยเหม่ยที่ตอนแรกยังกลัวน้ำจะเดือดใส่มือเวลาคีบเครื่องเคียงลงหม้อ แต่มาตอนนี้นางคีบเครื่องเคียงขึ้นลงอย่างหยุดไม่อยู่ ฟางเหนียงที่เห็นเช่นนั้นก็เชื่อเหมยเหม่ยแล้วล่ะว่ามันอร่อยจริงๆ ทั้งสองคนกินหม้อไฟอย่างมีความสุขกินไปหัวเราะกันไป นานแค่ไหนแล้วไม่รู้ที่ทั้งสองคนไม่ได้มีความสุขเช่นนี้
หลังจากที่ทั้งสองคนกินอิ่มแล้วเหมยเหม่ยก็ช่วยฟางเหนียงล้างถ้วยล้างจานก่อนค่อยกลับบ้าน แต่ก่อนที่เหมยเหม่ยจะกลับบ้านฟางเหนียงก็ยื่นตั๋วเงินที่ขายดอกกล้วยไม้สือหูให้กับเหมยเหม่ย“นี่ของเจ้า 50 ตำลึงทอง” เหมยเหม่ยเห็นเช่นนั้นก็รีบปฏิเสธทันที “ไม่ๆ เจ้าไม่ต้องให้ข้าหรอก วันนี้ข้าก็ขายสมุนไพรได้ตั้งหลายตำลึงเงินเช่นกัน” เหมยเหม่ยไม่กล้าที่จะรับตั๋วเงินนี้มาจริงๆ แค่วันนี้ฟางเหนียงพาไปหาสมุนไพรก็ทำให้เหมยเหม่ยหาเงินได้ตั้ง 3 ตำลึงเงิน พอตกเย็นมาฟางเหนียงก็ยังชวนให้มากินหม้อไฟด้วยกันอีก เหมยเหม่ยไม่รู้จะขอบคุณฟางเหนียงยังไงแล้ว “ข้าก็บอกเจ้าตั้งแต่แรกแล้วนี่ ว่าจะแบ่งกันคนละครึ่ง” เหมยเหม่ยส่ายหัวไปมา
“ถ้าเจ้ายังปฏิเสธอีกข้าจะไม่คุยกับเจ้าแล้วจริงๆ” ฟางเหนียงขู่เหมยเหม่ย หากนางไม่ทำเช่นนี้เหมยเหม่ยคงไม่ยอมรับเงินนี้ไปแน่ๆ เหมยเหม่ยที่ได้ยินเช่นนั้นก็เม้มปากตัวเองแล้วพิจารณาว่าจะทำอย่างไรดี “เช่นนั้นข้าเอาแค่ 10 ตำลึงทองก็พอ หากมากกว่านี้ข้าไม่อาจจะสบายใจได้” เหมยเหม่ยพูดออกมาด้วยสายตาที่วิงวอน ว่าอย่าบังคับนางอีกเลยฟางเหนียงที่เห็นเช่นนั้นก็ถอนใจยาวออกมา “เฮ้อออ เจ้านี่นะ ก็ได้ๆ แต่เจ้าต้องเอาไป 20 ตำลึงทองนะ ห้ามปฏิเสธเด็ดขาด” นางพูดด้วยเสียงที่จริงจังแล้วยัดตั๋วเงิน 2 ใบนั้นเข้าไปในกระเป๋าเสื้อของเหมยเหม่ย เหมยเหม่ยก็ได้แต่ยอมแพ้แต่โดยดี เพราะถึงจะปฏิเสธอย่างไรครั้งนี้ฟางเหนียงคงไม่ยอมแน่ๆ
หลังจากที่ทั้งสองคนคุยกันเรียบร้อยแล้วเหมยเหม่ยก็ขอตัวกลับก่อน ฟางเหนียงเข้ามาในห้องแล้วนำเงินที่มีอยู่ทั้งหมด 80 ตำลึงทองเข้าไปในตู้ เสียงแจ้งเตือนก็เริ่มประมวลผลออกมาทันที “ (รางวัลครั้งนี้เจ้าได้ทั้งหมด 3 อย่าง เพราะสิ่งที่เจ้าเอาไปแลกนั้นเป็นของหายาก และรางวัลที่ได้รอบนี้ก็คือ ยาสมุนไพร เหยือกน้ำศักดิ์สิทธิ์ และกระถาง ยาสมุนไพรนี้แท้จริงแล้วมันเป็นของยุคอื่นซึ่งยุคนี้หาไม่มีแน่นอนสรรพคุณของยาตัวนี้คือไม่มีโรคไหนที่รักษาไม่ได้ ต่อมาเหยือกน้ำศักดิ์สิทธิ์ ในเหยือกจะมีน้ำเต็มเหยือกเสมอสามารถนำมาผสมน้ำอาบได้จะทำให้ผิวพรรณกระจ่างใส หากนำมาดื่มก็จะทำให้สุขภาพแข็งแรงป้องกันโรคภัยได้ ส่วนกระถางนี้จะมีดินที่อยู่ในป่าลึกในกระถาง หากเจ้าต้องการพืชที่มาจากธรรมชาติที่แท้จริงก็สามารถเอามาปลูกเพื่อเพิ่มคุณค่าให้พืชนั้นได้) ” เสียงแจ้งเตือนอธิบายสรรพคุณของรางวัลทั้งสามให้นางฟังอย่างละเอียด
“ภารกิจครั้งนี้โฮสต์ทำได้ดีมาก หากโฮสต์หาของไปแลกนั้นมีค่ามากเท่าไหร่ รางวัลที่ได้ก็จะเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน” ถ้าเป็นอย่างที่ระบบบอกจริงๆ มันก็คุ้มยิ่งกว่าคุ้มซะอีก ฟางเหนียงคิดอย่างมีความสุข แล้วนางก็คุยกับระบบเรื่องรางวัลกันต่ออีกนิดหน่อยแล้วจึงเดินไปที่เตียงนอน นางนึกขึ้นมาได้ว่าท่านแม่ของเหมยเหม่ยไม่สบายอยู่ พรุ่งนี้นางไปเยี่ยมท่านป้าสักหน่อยดีกว่า ตั้งแต่วันที่เหมยเหม่ยบอกวันนั้นว่าท่านป้าไม่สบายนางก็ยังไม่มีเวลาว่างไปเยี่ยมท่านเลย ถือโอกาสนี้ไปสอบถามท่านลุงเรื่องการปรับปรุงบ้านด้วยแล้วกัน หลังจากนางทานข้าวเช้าเสร็จนางก็ออกจากบ้านทันที “ท่านป้าเจ้าค่ะ ฟางเหนียงมาเยี่ยมท่านป้าเจ้าค่ะ” ฟางเหนียงตะโกนเสียงดังตั้งแต่หน้าบ้านจนถึงลานบ้านที่ท่านป้ากำลังพับผ้าอยู่ ท่านป้าที่ได้ยินเสียงของนางก็ยิ้มออกมาทันที
“ท่านป้าวันนี้ฟางเหนียงมาเยี่ยมท่านป้าเจ้าค่ะ เหมยเหม่ยบอกข้าว่าท่านป้าไม่ค่อยสบาย ข้าเป็นห่วงเลยเอายามาฝากท่านเจ้าค่ะ” นางเอ่ยแล้วยื่นน้ำในเหยือกศักดิ์สิทธิ์ที่นางแบ่งใส่ขวดไว้ ให้ท่านป้า 2 ขวด “เจ้าไม่ต้องเป็นห่วงข้าหรอก เหมยเหม่ยก็พูดไปเช่นนั้น เจ้าเก็บไว้เถอะ” ท่านป้าเอ่ยปฏิเสธด้วยความเกรงใจ “ท่านป้าต้องรับไว้นะเจ้าค่ะ ข้าตั้งใจเอามาให้ท่านเลยนะเจ้าค่ะ” ฟางเหนียงพูดด้วยเสียงออดอ้อน “ก็ได้ๆ ข้ารับไว้ๆ แล้วยานี้ต้องกินอย่างไรรึ ข้าไม่เคยเห็นมาก่อน” ท่านป้าถามด้วยความสงสัย “ท่านป้าแค่เอาน้ำในขวดนี้เทลงผสมกับน้ำดื่มแค่ 2-3 หยดก็ดื่มได้แล้วเจ้าค่ะ ยานี้ดีมากเลยนะเจ้าค่ะ ข้าดื่มลงไปแล้วรู้สึกหายปวดเมื่อยเลยเจ้าค่ะ” ที่นางมั่นใจกับยาตัวนี้มากก็เพราะเมื่อคืนนางได้ลองเอามาผสมกับน้ำแล้วดื่มดู จากอาการปวดเมื่อยไปทั้งตัวพอดื่มลงไปแล้วร่างกายของนางก็หายปวดเมื่อยอย่างน่าอัศจรรย์ นางถึงกล้ารับรองว่าน้ำศักดิ์สิทธิ์นี้ดีมากจริงๆ
“ดีเช่นนั้นเลยรึ แล้วเจ้าได้ยานี้มาจากไหนกัน” อ่า นางลืมคิดเรื่องนี้ไปเลย “อ่อ มีท่านหมอท่านหนึ่งให้ข้ามาเจ้าค่ะ ตอนนั้นข้าไม่สบายนิดหน่อย ท่านเดินผ่านมาแล้วเห็นว่าข้าไม่ค่อยสบายพอดี ท่านเลยให้ยานี้กับข้ามา 3 ขวดเจ้าค่ะ” ท่านป้าคงเชื่อนางนะ นางไม่ได้คิดไว้นี่น่า ท่านป้าพยักหน้าอย่างเข้าใจ “แล้วทำไมเจ้าให้ข้ามาตั้ง 2 ขวดล่ะ แค่ขวดเดียวก็พอแล้ว” ท่านป้ากำลังจะยื่นกลับมาให้นางแต่นางก็รีบปฏิเสธทันที “ท่านป้าเจ้าค่ะ ข้าอยู่คนเดียวใช้ไม่เยอะหรอกเจ้าค่ะ ท่านป้าเก็บไว้เถอะนะเจ้าค่ะ” ท่านป้าที่ฟังนางพูดเช่นนั้นก็ยิ้มให้ด้วยความเอ็นดู เด็กคนนี้น่ารักจริงๆ ยังคงมีความเป็นห่วงท่านป้าแก่ๆคนนี้เสมอ พ่อแม่ของนางที่อยู่บนสวรรค์คงดีใจมากเป็นแน่ ที่เลี้ยงลูกสาวให้เป็นเด็กดีเช่นนี้ได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สาวโก๊ะทะลุมิติ มาใช้ชีวิตในยุคโบราณ