สาวโก๊ะทะลุมิติ มาใช้ชีวิตในยุคโบราณ นิยาย บท 44

"เจิ้งเจี๋ย เจ้าว่าอันนี้เป็นเช่นไร" ฟางเหนียงกำลังเลือกชุดและของเล่นสำหรับเด็กทารกให้กับหลานของนาง เพราะอีกเดือนเดียวก็ถึงกำหนดคลอดบุตรของเหมยเหม่ยแล้ว และตอนนี้ฟางเหนียงก็อยู่ร้านของเล่นร้านที่สามแล้ว ของเล่นในแต่ละร้านนั้น จะมีของเล่นบางอย่างที่ไม่ซ้ำกัน นางจึงต้องเข้าไปดูทุกร้านเผื่อว่ามีของเล่นที่นางถูกใจ "ข้าว่าตัวนี้มันดูเป็นเด็กผู้หญิงเกินไปนะ ตัวนี้ดีกว่าใส่แล้วเหมือนกับจอมยุทธ์หญิง" เจิ้งเจี๋ยค้าน "ถ้าเช่นนั้นก็เอาทั้งสองชุดเลยดีกว่า หลานของข้าจะได้มีเสื้อผ้าให้เลือกใส่มากหน่อย" ขนาดนี้แล้วเจ้ายังคิดว่ามันยังไม่มากพอหรอกรึ แล้วขนาดไหนถึงจะเรียกว่ามากพอสำหรับเจ้ากัน เพราะนี้ก็รอบที่สามแล้วที่นางให้คนเอาเสื้อผ้าของเด็กไปไว้ในรถม้า เสื้อผ้าที่ซื้อให้หลานของนางในวันนี้ใส่ทั้งปีก็คงไม่หมดเป็นแน่ เจิ้งเจี๋ยคิด

 "หลิวฟางเหนียง หลิวฟางเหนียง ใช่หลิวฟางเหนียงหรือไม่" เจิ้งเจี๋ยหันไปตามเสียงที่เรียกชื่อภรรยาของตน ฟางเหนียงที่กำลังจะเลือกของเล่นอย่างอื่นเพิ่มก็ต้องหยุดลง เพราะได้ยินเสียงที่คุ้นๆเรียกนางอยู่ นางจึงหันมองตามเจิ้งเจี๋ยไปเช่นกัน "ใช่เจ้าจริงๆด้วย ข้าตามหาเจ้าตั้งนาน ไม่คิดเลยว่าจะมาเจอกับเจ้าที่อำเภอซีอานเช่นนี้" ฟางเหนียงเมื่อเห็นหน้าของลีหยางนางก็รีบยิ้มตอบเขาอย่างอ่อนหวานทันที เพราะนางต้านทานความหน้าหวานของเขาไม่ได้จริงๆ เจิ้งเจี๋ยที่เห็นท่าทางของนางเป็นเช่นนั้น ก็รีบเข้าไปสะกิดเพื่อเตือนสตินาง แล้วดึงนางเข้ามาอยู่ในอ้อมกอดของเขาทันที "อ๊ะ อ่า แล้วเจ้าล่ะกลับมาทำอะไรในอำเภอซีอานอย่างนั้นรึ" ฟางเหนียงเอ่ยถามกลับ ในขณะที่ถูกเจิ้งเจี๋ยกอดเอาไว้อยู่ต่อหน้าลีหยาง ทำให้ฟางเหนียงพูดด้วยเสียงเก้ๆ กังๆ  "ข้าพาเพื่อนของข้ามาหาผักหรือผลไม้ที่สามารถเอามาทำแป้งได้นะ" ลีหยางเอ่ย "เอ๊ะ!! จะทำแป้งอย่างนั้นรึ แล้วเจ้าลองเอาข้าวโพดไปทำแป้งบ้างรึยังล่ะ" ลีหยางทำหน้าสงสัยกับสิ่งที่ฟางเหนียงเอ่ยขึ้น "ข้าวโพดเช่นนั้นรึ ที่กำลังเป็นที่นิยมในเมืองเฟิงฟู่นะหรือ" ลีหยางได้ยินมาว่าข้าวโพดเป็นที่ต้องการของพ่อค้าเป็นอย่างมาก ข้าวโพดสามารถเอามาทำเป็นเมนูได้หลายอย่าง หรือจะเอามาต้มไว้กินเล่นก็หวานอร่อยมากเช่นกัน แต่ลีหยางยังไม่เคยได้มีโอกาสซื้อข้าวโพดเลยสักครั้ง เพราะจะไปซื้อครั้งใดก็ไม่มีวาสนาได้ไปเจอกับพ่อค้าที่ขายข้าวโพดนี้เลยสักครั้งเดียว "อืม ใช่แล้วล่ะ เจ้าสนใจจะลองเอาไปทำดูหรือไม่ ข้ามีข้าวโพดส่งให้เจ้าด้วยนะ" ฟางเหนียงรีบเสนอสินค้าของตนเองทันที

ลีหยางทำหน้าตะลึงงัน ว่านางจะหาข้าวโพดมาให้เขาได้อย่างไร "เอ๋!!! ข้าวโพดช่วงนี้มันหาซื้อยากมากเลยนะ เจ้าจะหามาส่งโรงผลิตได้อย่างไร" ที่ลีหยางกล้าพูดเช่นนี้ เพราะมันเป็นสิ่งที่หาซื้อได้จากพ่อค้าคนนั้นคนเดียวเท่านั้น "แน่นอนสิ ตอนนี้ข้าได้รวมกลุ่มชาวบ้าน ปลูกมะเขือเทศและข้าวโพดเพื่อเอาไปขายที่เมืองเฟิ่งฟู่อยู่นะ" ครั้งนี้ลีหยางทำหน้าอย่างไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน สิ่งที่เขาตามหามานานว่าใครกันแน่ที่เป็นคนขายข้าวโพด แท้จริงแล้วพ่อค้าคนนั้นก็คือ เหย่เจิ้งเจี๋ย เองหรอกรึ "เจ้าไม่ต้องสงสัยอะไรทั้งนั้นแหละ ของที่เมืองเฟิ่งฟู่ต้องการนั้นมันมาจากอำเภอซีอานของเรานี่แหละ คริ คริ" ฟางเหนียงหัวเราะให้กับใบหน้านิ่งอึ้งของลีหยาง "เจ้า เจ้าจะบอกว่าพืชทั้งสองชนิดนี้เจ้าเป็นคนพาชาวบ้านปลูกเช่นนั้นรึ" ฟางเหนียงพยักหน้า 

ลีหยางในตอนนี้ยิ่งทำหน้ามึนงงไปใหญ่ แต่เขาก็ดีใจมากเช่นกัน พืชที่ต่างเมืองต้องการมันมากเช่นนี้กลับมาอยู่ในอำเภอของเขา เป็นเช่นนั้นแล้วชาวบ้านในเมืองนี้ต้องมีฐานะที่สูงขึ้นเป็นแน่นอน "หากเช่นนั้นเดี๋ยวข้าจะลองถามเพื่อนของข้าดูก่อนนะ ตอนนี้เขาก็น่าจะถึงตัวอำเภอแล้วล่ะ" ลีหยางพูดไม่ทันขาดคำ อวิ้นเลี่ยงเฟิ่ง ก็เดินตรงมาทางที่พวกเขายืนคุยกันอยู่พอดี "อ่า นั้นไงเลี่ยงเฟิ่งมาแล้ว" ฟางเหนียงมองไปตามลีหยางก็เห็นชายคนหนึ่งที่กำลังเดินมาทางนี้ด้วยท่าทางที่สง่างาม มือซ้ายไขว้หลังส่วนมือขวาถือพัดสะบัดเป็นจังหวะให้เกิดลมพัด บริเวณข้อมือขวาที่กำลังสะบัดพัดอยู่นั้น ปลายแขนเสื้อได้หล่นลงมาครึ่งแขน ทำให้เห็นกำไลสีดำที่อยู่บนข้อมือ สะดุดตาเพิ่มความดึงดูดให้กับคนมองไปอีกหนึ่งระดับ และความใกล้ที่กำลังเดินเข้ามา ทำให้เห็นใบหน้าขาวเนียนใส ไร้ที่ติ ดวงตาที่คมกับขนตาที่หนานั้น มันสะกดคนที่มองได้อย่างอยู่หมัด เส้นผมสีดำกับชุดสีเขียวมรกตที่ปลิวไหวไปตามสายลม ยิ่งมองยิ่งน่าหลงใหลละสายตาจากตาคู่นั้นไม่ได้เลยจริงๆ

เจิ้งเจี๋ยที่รู้ว่าภรรยาตนเองนั้นแพ้ทางให้ผู้ชายที่หน้าตาดีเอามากๆ แม้ตอนนี้นางจะยังอยู่ในอ้อมกอดของเขา แต่สายตาของนางที่มองชายอื่นอยู่นั้นไม่ได้เกรงใจเขาเลยสักนิดเดียว ทำให้เขารู้สึกโมโหนางเอามากๆ เจิ้งเจี๋ยกลั้นความโกรธเอาไว้แล้วเอ่ยกระซิบข้างใบหูของนางด้วยเสียงที่เย็นชา "หากเจ้ายังไม่หยุดมองเขาอีก ครั้งนี้ข้าคงต้องลงโทษเจ้าสถานหนักแล้วล่ะ" ฟางเหนียงได้ยินคำว่าลงโทษของเจิ้งเจี๋ย สติที่เคยหลุดไปกับผู้ชายตรงหน้าที่กำลังเดินเข้ามาใกล้นางเรื่อยๆ ก็กลับคืนมาด้วยความว่องไว ฟางเหนียงกลืนน้ำลายลงคอด้วยความฝืดเคือง เพราะนึกถึงบทลงโทษของเจิ้งเจี๋ยแล้วนางขอยอมแพ้จริงๆ ครั้งที่แล้วลงโทษสถานเบายังเดินเกือบไม่ไหว แล้วถ้าหากสถานหนักล่ะไม่ใช่ว่าจะลุกขึ้นจากเตียงไม่ได้เลยรึ บรือ!!! แค่คิดก็ผวาแล้ว ยกโทษให้ข้าด้วย ยกโทษให้ข้าด้วย

ฟางเหนียงที่กำลังคิดไปในทางที่ไม่ดี เสียงของลีหยางก็ได้ดึงสตินางกลับมาอีกครั้ง "ฟางเหนียง นี่คือ อวิ้นเลี่ยงเฟิ่ง เลี่ยงเฟิ่ง นี่คือหลิวฟางเหนียงที่ข้าเคยเล่าให้เจ้าฟังเมื่อครั้งก่อน ส่วนชายผู้นี้คือสามีของนาง เหย่เจิ้งเจี๋ย" หลีหยางแนะนำทั้งสองฝ่ายให้รู้จักกัน ทั้งสองฝ่ายเคารพซึ่งกันและกัน แต่เจิ้งเจี๋ยนั้นไม่ค่อยพอใจยิ่งนัก เพราะเขารู้ว่าชายคนนี้คิดอะไรกับภรรยาเขาอยู่ ฟางเหนียงเหลือบไปเห็นสายตาที่ผิดหวังของเลี่ยงเฟิ่งที่แสดงออกมาครู่หนึ่ง แต่พอหันไปดูอีกทีก็ไม่เจอกับสายตาเช่นนั้นอีกแล้ว มีแต่สายธรรมดาส่งมอบมาให้ทุกคน สายตานี้เจิ้งเจี๋ยก็เห็นเช่นเดียวกัน ยิ่งทำให้เขามั่นใจเลยว่าชายคนนี้ต้องคิดอะไรกับภรรยาเขาจริงๆ

"เลี่ยงเฟิ่ง เจ้าต้องการแป้งจากพืชชนิดอื่นอยู่ใช่หรือไม่" ลีหยางถาม "เพื่อนของข้า ฟางเหนียง มีพืชชนิดหนึ่งจะแนะนำ นั้นก็คือข้าวโพด มันสามารถเอามาทำเป็นแป้งขาวได้" เลี่ยงเฟิ่งทำหน้าสงสัยแล้วถามออกมา "แล้วข้าวโพด ที่จะนำส่งมาที่โรงงานล่ะ จะพออย่างนั้นรึ แค่เอาไปขายในเมืองเฟิ่งฟู่ก็ยังไม่พอคนซื้อเลยด้วยซ้ำ" ฟางเหนียงได้ยินเช่นนั้นก็ยิ้มกว้างทันที เรื่องที่ข้าวโพดไม่มีส่งโรงงานนั้นไม่มีอะไรให้น่าเป็นห่วง เพราะนางได้แบ่งเมล็ดพันธุ์ให้กับชาวบ้านในหมู่บ้านต่างๆที่นางไปรับซื้อผักสด ตอนนี้พวกเขาก็น่าจะถึงเวลาเก็บเกี่ยวข้าวโพดแล้วด้วย เพราะนางได้ฝากปุ๋ยวิเศษไปให้ทุกหมู่บ้านด้วยนิดหน่อย "พวกเจ้าไม่ต้องเป็นห่วงนะงานนี้โรงงานของพวกเจ้าต้องขายแป้งข้าวโพดดีเป็นแน่" ฟางเหนียงเอ่ยด้วยรอยยิ้ม "อ่า เช่นนั้นแล้วข้าคงต้องขอรบกวนเจ้าแล้วล่ะ" ลีหยางเอ่ยขึ้น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สาวโก๊ะทะลุมิติ มาใช้ชีวิตในยุคโบราณ