มีนาเบิกดวงตาคู่สวยออกกว้าง มองใบหน้าหล่อเหลาที่อยู่ตรงหน้านี้ พลันรู้สึกใจเต้นและประหม่า
มาร์ชเผยยิ้มมุมปาก ดวงตาเผยแววอันตรายที่จับสังเกตได้ยาก
“ตอนที่ฉันไม่อยู่ เกิดอะไรขึ้น?”
“ไม่มีอะไร......”
“โกหก! ฉันยังทำให้เธอรู้สึกไม่พอหรือไง? ถึงต้องไปอ่อยพี่ชายฉัน?” มาร์ชถามเสียงทุ้มต่ำ ขณะที่ใกล้ชิดกับเธอ ก็อดคิดไปไกลอย่างควบคุมตัวเองไม่ได้
มีนารีบอธิบายทันควันว่า “ไม่ใช่ เรื่องมันไม่ได้เป็นแบบนั้น เขา......เขาต่างหาก......เขาอยากล่วงเกินฉัน!”
มาร์ชล็อคตัวมีนาที่ออกแรงขัดขืนเล็กน้อยไว้แน่น พลันหรี่ตาเอ่ยว่า “ที่นี่ไม่มีใครยอมเชื่อเธอทั้งนั้น ทุกคนก็จะเชื่อแต่ที่พี่ชายฉันพูด ว่าเธออ่อยเขา ซ้ำยังทำร้ายเขาจนหัวแตก”
“ถ้าฉันอ่อยเขาก่อนจริงๆ แล้วฉันจะฟาดเขาจนหัวแตกทำไม? คนบ้านนายไม่มีสมองกันเลยหรือไง? นี่มันย้อนแยงกันชัดๆ” มีนาจ้องมองเขากลับอย่างไม่เกรงกลัว รู้สึกเพียงน่าขบขัน
ขณะที่มาร์ชกำลังจะแตะริมฝีปากเธอ จู่ ๆก็พลันเบี่ยงหน้าออก ก่อนจะเอ่ยเสียงเย็นที่ข้างหูเธอว่า “คนที่นี่ไม่มีใครมีสมองกันทั้งนั้น มีแต่แม่ลูกคู่นั้นที่กลับดำเป็นขาว รวมถึงพ่อฉันด้วย ที่จะเชื่อแต่สิ่งที่พวกเขาพูด”
มีนาสันหลังเย็นเยียบ เข้าใจดีว่ามาร์ชพูดถูก
ดูจากท่าทางที่ธารณ์เหิมเกริมใส่เธอก็รู้ ว่าสถานะของแม่ลูกคู่นั้นในตระกูลธวัชพลังกรเป็นยังไง ถ้าณนนที่เป็นผู้นำตระกูลเองยังเชื่อแต่พวกเขา งั้นต่อให้เธออธิบายจนตายยังไงก็คงไม่มีประโยชน์
“ตอนนี้เริ่มกลัวแล้วหรือไง?” มาร์ชจับคางเธอ พลางเอ่ยอย่างเลือดเย็นว่า “ฉันเองก็ช่วยเธอไม่ได้ ปัญหาที่ตัวเองก่อก็จัดการเองซะ”
มีนาผลักเขาออก ก่อนจะเอ่ยด้วยแววตาหนักแน่นว่า “ฉันรู้ ไม่ลากนายมาลำบากด้วยหรอก”
ตั้งแต่เด็กจนโตเธอเคยพึ่งใครบ้าง เธอเองก็เคยเพ้อฝัน ว่าจะมีครอบครัวที่สามารถพึ่งพิงได้ แต่ความเป็นจริงที่โหดร้ายได้บอกกับเธอ ว่าคนที่เธอฝากฝังความคาดหวังด้วย กลับกลายเป็นคนที่ทำร้ายเธอมากที่สุด
เธอยึดมั่นในความจริงข้อหนึ่งมานานแล้ว ไม่ว่าเผชิญกับเรื่องอะไร มีแต่ต้องพึ่งตัวเองเท่านั้น ไม่อาจหวังพึ่งคนอื่นได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สายใยร้ายคู่นิรันดร์
ไม่ลงต่อเหรอคะ รออ่านค่ะ...