พวกเขาถูกพาไปยังห้องแต่งกายที่แบ่งแยกชายหญิง
ช่างแต่งหน้าสองคนแต่งหน้าให้มีนา และคัดเสื้อผ้าที่ดูแฟชั่นมากที่สุดออกมาไม่กี่ชุดให้เธอเลือก
เลือกไปเลือกมา เธอก็เลือกเสื้อค้างคาวทรงหลวมสไตล์โบฮีเมียน จับคู่กับกางเกงขากว้างอัดพลีทสีเทาอ่อน เดินอยู่หน้ากระจกดูพลิ้วไหวดั่งสายลม ไม่ต่างอะไรจากนางแบบมืออาชีพ
ช่างแต่งหน้าคนหนึ่งเอ่ยกับเธอยิ้มๆว่า “คุณคนสวยคนนี้ถ้ามาเป็นนางแบบของบริษัทเราแล้วล่ะก็ ต้องดังจนฉุดไม่อยู่แน่ ๆ หุ่นก็ดี เลือกเสื้อผ้าเองก็ตาถึง”
มีนายิ้มแหยๆหน้ากระจก เธอเคยเรียนออกแบบแฟชั่นมาก่อน ก็ต้องรู้อยู่แล้วว่าต้องเลือกเสื้อผ้าที่เหมาะกับตัวเองยังไง แต่เป็นนางแบบอะไรนั่นก็ช่างเถอะ เธอไม่ค่อยชอบเป็นจุดสนใจสักเท่าไหร่
อีกอย่างมาร์ชเจ้าคนน่าชิงชังนั่นต้องคิดไว้ตั้งแต่แรกแล้วแน่ ๆ ว่าจะไม่ไปเซ็นรับมอบที่บริษัทแอมทีทีเดียว และก็ไม่คิดจะบอกเธอเร็วกว่านี้เลย ไม่งั้นเธอก็คงไม่ต้องลงทุนตื่นแต่เช้ามาแต่งหน้าแต่งตัวหรอก
“มีแว่นกันแดดที่เหมาะไหม?”
ช่างแต่งหน้ารีบช่วยเธอหาแว่นกันแดดออกมาคู่หนึ่ง เธอรับแว่นกันแดดมาใส่ จึงจะกล้าเดินออกจากห้องแต่งหน้าไปอย่างสบายใจ
มาร์ชแต่งตัวเสร็จนานแล้ว กำลังนั่งเปิดอ่านนิตยสารแฟชั่นรอเธออยู่ด้านนอก รู้สึกได้ว่ามีคนออกมาจากห้องแต่งหน้าผู้หญิง ก็จึงจะเงยหน้าขึ้นมอง
มีนาเห็นเขาสวมเสื้อลายดอกและกางเกงสแล็กส์ ก็ดูเหมาะกับเสื้อที่เธอใส่ดี
ทันทีที่เขาเห็นมีนาแต่งตัวออกมา สายตาเขาก็เผยแววประกาย ดูอึ้งเล็กน้อย
มีนาถามอย่างไม่สบายใจว่า “แบบนี้ได้ไหม? มีตรงไหนไม่ดีอีกบ้าง?”
มาร์ชวางนิตยสารลง พลันลุกขึ้นยืน เอ่ยว่า “ดีมาก ไปกันเถอะ ควรไปบริษัทแอมทีแล้ว”
บริษัทโมเดลลิ่งมีผู้จัดการพาพวกเขาขึ้นรถตู้คันหนึ่ง ก่อนจะเดินทางไปยังบริษัทแอมทีแฟชั่น
ขณะที่รถตู้ขับผ่านหน้าประตูบริษัทแอมที มีนาก็เห็นคนมายืนถือป้ายกันเต็มที่หน้าทางเข้าบริษัทผ่านกระจกรถ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สายใยร้ายคู่นิรันดร์
ไม่ลงต่อเหรอคะ รออ่านค่ะ...