สักวารัก อาบแผ่นดิน นิยาย บท 9

ฮูหยินเสิ่นช่วยบุตรสาวพลิกผันสถานการณ์ภายในทันท่วงที เพียงเอ่ยปากขึ้นไม่กี่คำก็เหวี่ยงเอาเรื่องวางยาพิษไปใส่ตัวของเฟิ่งหมิงซีได้อย่างหมดจด

ลูกไม้ย่อมหล่นไม่ไกลต้น!

หน็อยแหนะตระกูลเสิ่น แต่ละคนล้วนไม่ธรรมดาเสียจริงๆ!

เฟิ่งหมิงซีฉายแววตาชั่วร้ายขึ้น “ซวงสี่ เราไปศาลต้าหลี่กัน เรื่องนี้ข้าจักต้องสืบหาความจริงเสียให้กระจ่าง!”

ฮูหยินเสิ่นโอบกอดลูกสาวตน พลางมองนางด้วยสายตาอันคมเฉียบ “เลี่ยหวางเฟยช่างทำผิดไม่ยอมผิดเสียจริง เรื่องนี้ตระกูลเสิ่นกับจวนอานอ๋องก็จักมิมีทางปล่อยไปแค่นี้แน่”

เฟิ่งหมิงซีมองไปที่อานอ๋อง แล้วกระตุกมุมปากยิ้มเย็นชา “ก็หวังว่าตระกูลเสิ่นกับจวนอานอ๋องจะ

สามารถสืบหาความจริงออกมา เพื่อลบล้างมลทิลอันใหญ่หลวงที่ติดอยู่บนตัวข้าให้จงได้ ”

ฮูหยินเสิ่นประคองลูกสาวตนขึ้นรถม้า แล้วเอ่ยกับอานอ๋อง “ท่านอ๋อง เยว่เอ๋อร์จำต้องพักรักษาร่างกายให้หายดี แต่เยว่เอ๋อร์นางก็ยังจะแต่งกับท่านตามวันกำหนดให้ได้ โปรดท่านอ๋องจงทวงความยุติธรรมให้นางด้วย”

อานอ๋องก็นับถือนางเป็นแม่ว่าที่ภรรยา “ข้าจะเข้าวังหลวงไปขอให้เสด็จพ่อตัดสินความให้เยว่เอ๋อร์บัดเดี๋ยวนี้เลย”

มู่หรงเซียวเดินเข้า มองเฟิ่งหมิงซีด้วยสายตาดุร้าย “เข้าวังหลวงกับข้าไปสารภาพผิด!”

เฟิ่งหมิงซีมองชายต่ำทรามผู้นี่ แล้วหัวเราะเย็นชาเอ่ย “ข้าแนะนำท่านหากยังอยากจะมีหน้าเป็นมนุษย์อยู่ ก็จงเหลือทางถอยไว้ให้ตนบ้างเถิด”

ซวงสี่เอ่ยขึ้น “ท่านอ๋อง หวางเฟยหาได้วางยาพิษเสิ่นชิวเยว่ไม่ นางต่างหากที่ต้องการใส่ร้าย

หวางเฟยเจ้าค่ะ”

มู่หรงเซียวจะไปเชื่อได้อย่างไรกัน?

“หากไม่ใช่นาง แล้วจะเป็นผู้ใดกัน?”

เฟิ่งหมิงซีโกรธเสียจนไม่อยากจะชายตามองหน้าชายผู้นี้ “ซวงสี่เราไปกันเถอะ อย่าไปพูดกับสิ่งของโง่เขลาเช่นนี้เลย”

สิ้นเปลืองน้ำลายนางเสียจริง

พูดขาดคำ เฟิ่งหมิงซีก็ก้าวเท้าเดินจากไป

ครั้นเห็นนางกลับจวนอ๋อง

แววตามู่หรงเซียวก็แฝงไปด้วยความอึมครึม แล้วรีบตามนางกลับจวนไปในทันที กลับไปค่อยไปจัดการนางให้สาสม!

ตามมาจนถึงเรือนซิงเยว่

เฟิ่งหมิงซีไม่เคยแม้แต่จะหันหลังไป “ซวงสี่ปิดประตู ห้ามมิให้คนนอกเข้าออกเรือนซิงเยว่ได้ตามใจ”

ซวงสี่ยืนอยู่ตรงหน้าประตู เห็นแววตาอันเกรี้ยวโกรธของมู่หรงเซียว จึงเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นคลอน “จวิ้นจู่?บ่าวมิกล้า?”

“เฟิ่งหมิงซี ที่นี่เป็นจวนเลี่ยอ๋อง ข้าใคร่มาก็มาได้ตามใจ” มู่หรงเซียวแววตาเกรี้ยวโกรธ แล้วก้าวเข้ามาอยู่ตรงหน้าหญิงสาว เกลียดชังแทบอยากขยี้นางให้ตายคามือเสีย

เฟิ่งหมิงซีสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายฆ่าสังหาร จึงพลันก้าวถอยไป “มู่หรงเซียววันนี้ท่านลองกล้าลงไม้ลงไม้ดูสิ อย่าคิดว่าข้ารังแกได้ง่ายๆ นะ!”

มู่หรงเซียวยิ้มขึ้นอย่างโกรธเคืองแล้วเอ่ย“ถูกคนวางยาใบ้? ทำลายโฉม? ทำลายวรยุทธ์สูญสิ้น? เฟิ่งหมิงซีเจ้าช่างบังอาจนักกล้าดียังไงมาหลอกข้า!”

เฟิ่งหมิงซีตะคอกขึ้นเบาๆ “แท้จริงแล้วข้าถูกวางยาใบ้ ทำลายโฉม ทำลายวรยุทธ์สูญสิ้นจริงหรือไม่ เมื่อคืนวานท่านก็พิสูจน์เห็นกับตาเองแล้วมิใช่หรือ? ข้าหลอกท่านตอนไหนกัน?”

มู่หรงเซียว:“......”

“อีกอย่างข้าเคยแอบคบชู้จริงหรือไม่ ท่านก็พิสูจน์ดูด้วยตนเองแล้วมิหรือ?”

เฟิ่งหมิงซีโกรธเคืองยากจะสงบยิ่ง เมื่อนึกถึงความโหดร้ายที่ชายผู้นี้ทำไว้กับนางเมื่อคืนวาน ทำให้นางมีมลทิล นางก็แค้นเสียจนอยากจะฆ่าเขาให้ตาย

ครั้นเห็นสายตาของหญิงสาวมองเขาอย่างเหยียดหยาม มู่หรงเซียวก็พลันหน้าซีดเผือด “ภายในคืนเดียวก็ฟื้นฟูหายดีแล้วหรือ? เจ้ากำลังหลอกใครอยู่กัน!”

เฟิ่งหมิงซีเดินไปตรงเก้าอี้แล้วนั่งลงช้าๆ “ก็วิชาแพทย์ข้าสูงส่งนี่ มิได้หรือ? ”

“งั้นไยเจ้าจึงไม่รีบฟื้นตัวให้เร็วกว่านี้? ไฉนต้องรอถึงวันนี้?”ตอบอย่างเคืองโกรธ มู่หรงเซียวไม่เชื่อนางแม้แต่คำเดียว

“สามปีแล้ว ข้าใช้เวลามาตั้งสามปี วันนี้เพิ่งฟื้นฟูสำเร็จ มิได้หรือ?” เฟิ่งหมิงซีถือถ้วยชา พลางเงยหน้ามองเขาด้วยความรังเกียจ “ล้วนว่ากันว่า เลี่ยอ๋องฉลาดมากไหวพรบ กล้าหาญชำนาญรบ เก่งทั้งบุ๋นทั้งบู๊ แต่ไยข้ารู้สึกว่าเชาวน์ปัญญาท่านนั้น ต่ำยิ่งกว่าเด็กสามขวบเสียอีกหนา!”

“เจ้า!”

นึกไม่ถึงว่าสตรีนี่จะมีปากคอเราะรายถึงเพียงนี้!

มู่หรงเซียวสีหน้าเคร่งเครียด กัดฟันเอ่ย “ข้ามิเคยรู้มาก่อนเลยว่า แท้จริงนั้นข้าได้แต่งกับท่านหมอเทวดาเชียว!”

“ใช่น่ะสิ มีวาสนาได้แต่งกับข้านั้นนับเป็นบุญที่สั่งสมมาหลายชั่วอายุคนของท่านแล้ว แต่ดูเหมือนว่าท่านอ๋องนั้นมิคู่ควรเลย”เฟิ่งหมิงซีเชิดคางเล็กน้อย แม้นจะกำลังอยู่ในท่านั่งแต่กลับเปี่ยมไปด้วยพลังรัศมี

มู่หรงเซียวยืนมองหญิงสาวจากมุมสูง แววตาอึมครึมแล้วอึมครึมอีก มิอาจปฏิเสธได้เลยว่าวันนี้เฟิ่งหมิงซีได้รับชัยชนะจนเขาจำต้องเพิ่มความระแวดระวังตัวขึ้น

“เฟิ่งหมิงซี เจ้าอย่ามาเล่นลูกไม้ต่อหน้าข้านะ ลูกไม้ตื้นๆ หลอกล่อให้ตายใจเยี่ยงในบทละครงิ้วเช่นนี้ ข้าเจอมามากแล้ว”

เฟิ่งหมิงซีเขี่ยหูเล่นเบาๆ “มู่หรงเซียว ท่านส่งสายตามองข้าเช่นนี้ ก็มิใช่ว่าโดนหลอกล่อให้ตายใจแล้วหรือ?”

มู่หรงเซียวยิ้มเย็นชา“เจ้าไร้ยางอายทำทุกวิถีทางเพื่อจะได้แต่งกับข้า วางอุบายใส่เสิ่นชิวเยว่ ทำร้ายเสด็จแม่ข้าจนหมดสติยังไม่ฟื้น ใช้อำนาจจวนอ๋องเฟิ่งในการบีบบังคับ หรือว่าเรื่องพวกนี้เจ้ามิใช่เป็นคนทำหรือ?”

บทที่ 9 วีรบุรุษใคร่ล้างแค้น สิบปียังมิสาย 1

บทที่ 9 วีรบุรุษใคร่ล้างแค้น สิบปียังมิสาย 2

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สักวารัก อาบแผ่นดิน