ฉันไม่ตอบกำปั้น และรีบเดินเข้าไปในงานเพราะว่ากลัวแม่จะออกมาตามแล้วเห็นเขา เดี๋ยวจะเป็นเรื่องเอา
ส่วนกำปั้น ฉันสั่งให้เขากลับไปที่บ้าน
กว่างานแต่งของเฮียจะเสร็จก็ใช้เวลานานเกือบทั้งวัน และวันนี้เรามีนัดกินข้าวระหว่างครอบครัวเจ้าบ่าวเจ้าสาวด้วย คงจะดึกกว่าจะได้กลับไปที่บ้าน ดีที่กำปั้นยังพอเขื่อฟังคำพูดของฉันอยู่บ้าง ที่บอกว่าห้ามมาวุ่นวายที่งานแต่งเฮียอีก และห้ามโทรมาตามจิกฉัน
วันต่อมา...วันนี้ฉันต้องกลับไปกรุงเทพแล้ว
“ฉันละกลัวจริงๆ เลย กลัวว่าลูกเรากลับไปกรุงเทพแล้วจะไปเสียทีให้มัน” แม่ดูเป็นกังวลมาก แล้วก็เอาแต่พูดว่ากลัวฉันจะไปใจอ่อนให้กำปั้น
“คุณ ผมบอกคุณแล้วว่าเรื่องของเด็กๆ ถ้ามันจะรักกันคุณจะห้ามได้ยังไง” พ่อพูด
“แต่ลูกเราก็ไม่ได้รักมันนี่คะ”
“คุณรู้ได้ยังไงว่าลูกไม่รัก คุณดูไม่ออกรึไงว่าลูกสาวคุณ....”
“พอเลยนะคะ คุณหยุดพูดไปเลย”
ฉันได้แต่ถอนหายใจออกมาเบาๆ อย่างหนักใจที่เห็นพ่อกับแม่เถียงกันเรื่องของฉัน
“แม่คะ....” ฉันรู้สึกประหม่าพอสมควรที่จะพูด แต่ยังไงฉันก็ต้องพูด “เรื่องความรัก หนูอยากให้แม่เข้าใจหนูนะคะ ต่อให้คนนั้นจะเป็นเขา...”
แม่เงียบไม่พูดอะไรตอบฉันสักคำ ฉันรู้ว่าแม่คงไม่พอใจที่ฉันพูดแบบนี้
ในวันนี้ฉันยังไม่ยกโทษให้เขา แต่ก็ไม่รู้ว่าฉันจะใจแข็งได้ถึงเมื่อไหร่ ความรู้สึกของฉันตั้งแต่วันแรกที่ฉันรู้ตัวว่ารักเขา จนวันนี้....คำตอบที่ใช่ที่สุดมันก็ยังเป็นเขาอยู่ ถึงเขาจะไม่ใช่คนดีเลิศเลอก็ตาม
“แทนกลับกันเถอะ” ฉันหันไปบอกแทนก่อนจะยกมือไหว้พ่อกับแม่แล้วเดินไปรถแทนที่จอดรออยู่หน้าบ้าน
เดินมาที่หน้าบ้านฉันเห็นกำปั้นกำลังเก็บของขึ้นรถ เหมือนรู้ว่าฉันกำลังจะกลับ แต่ทั้งที่ฉันไม่ได้บอกเขา แล้วเขาจะรู้ได้ยังไง
“ไปรถฉัน” กำปั้นรีบวิ่งมาขวางประตูรถแทนเอาไว้ไม่ยอมให้ฉันเปิด
“นายอยากมีปัญหากับแม่ฉันอีกหรือไงกำปั้น !!”
“ฉันอยากให้เธอกลับไปด้วย อยากให้เธอนั่งไปข้างๆ” เขามองฉันตาแป๋ว ท่าทางออดอ้อนเหมือนเด็ก
“หลีกไปฉันจะขึ้นรถ”
กำปั้นมองฉันสายตาอาลัยอาวรณ์ แต่สุดท้ายแล้วเขาก็ยอมหลบให้ฉันอยู่ดี
เมื่อเข้ามานั่งในรถแทนก็เอ่ยปากแซวฉันทันที
“รักเขาอยู่อะดิ”
“เงียบไปเลย” ฉันจ้องแทนสายตาดุๆ พูดเหมือนรู้ว่าฉันกำลังรู้สึกยังไง หรืออาการของฉันมันดูออกขนาดนั้นเลยงั้นหรอ
รถของแทนแล่นออกไปจากรั้วบ้านของฉัน โดยมีรถของกำปั้นขับตามหลังมาติดๆ
ใช้เวลาหลายชั่วโมงพอสมควรกว่าเราจะมาถึงที่กรุงเทพกัน แถมมาถึงกำปั้นก็ยังตามฉันมาที่ห้องอีกด้วย ใจคอเขาจะตามไม่ให้ฉันคาดสายตาเลยหรือไงกัน
“นายไม่มีห้องอยู่หรือไง !!” ฉันถามกำปั้นที่กำลังยืนสูบบุหรี่อยู่ที่ระเบียงห้อง เขาไม่มีท่าทีว่าจะกลับห้องตัวเองเลย
“อยากอยู่กับเธอ” เขาตอบกลับมาด้วยคำพูดหวานๆ แต่ในตอนนี้ฉันจะยังหวั่นไหวกับคำพูดของเขาไม่ได้
ใจแข็งเข้าไว้สายธาร !!
“ฉันจะกวาดห้องไห้” กำปั้นเสนอตัวเองทั้งที่ฉันยังไม่ได้ต่อว่าอะไรเขาเลยสักคำ
“ล้างจานให้”
“ซักผ้าให้”
“ให้นอนที่โซฟาก็ได้”
“อย่างนาย จะนอนโซฟา?” ฉันถามอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง นี่ฉันได้ยินอะไรผิดไปหรือเปล่า
“หรือเธอจะให้ฉันนอนกับเธอบนเตียง ?”
“ไม่ !!”
กำปั้นทิ้งมวลบุหรี่ลงในกระถางต้นไม้ ก่อนจะเดินเข้ามาในห้อง เดินมานั่งลงข้างๆ กับฉันบนโซฟา
“ไปหาอะไรกินมั้ย ?”
“ไม่หิว ฉันอยากพักผ่อน” พูดจบฉันก็ลุกขึ้น กำลังจะเดินเข้าห้อง แต่ถูกกำปั้นคว้ามารั้งแขนเอาไว้
“ใจอ่อนเร็วๆ นะ” เขาดูแปลกไปจากเดิม ในความรู้สึกของฉันมันบอกแบบนั้นจริงๆ ในตอนแรกมันแปลกแล้ว แต่พอหลังจากไปบ้านแล้วกลับมาที่กรุงเทพ เขาทำตัวแปลกมากกว่าเดิมขึ้นเยอะเลย
กำปั้นค่อยๆ ปล่อมมือออกจากแขนฉัน จากนั้นฉันก็รีบวิ่งเข้าไปในห้องนอน พร้อมกับหัวใจที่มันกำลังเต้นรัวอย่างบ้าคลั่ง ตั้งใจว่าจะไม่ยอมให้อภัยเขาง่ายๆ แต่ทำไมหัวใจของฉันมันถึงไม่รักดีแบบนี้กันนะ
วันต่อมา ณ มหาวิทยาลัย....ฉันมารถคนละคันกับกำปั้นนะ ถึงแม้ว่าเขาจะนอนที่ห้องฉันก็ตาม แน่นอนว่าเขาให้ฉันขึ้นรถมามหาวิทยาลัยกับเขา แค่ฉันปฏิเสธ
เมื่อคืนกำปั้นนอนที่โซฟาตามที่เขาพูดจริงๆ แถมพอฉันตื่นขึ้นมาก็เห็นเขากวาดห้อง ตอนแรกฉันคิดว่าตัวเองกำลังฝันอยู่ แต่มันก็คือความจริง เขาทำตามที่ตัวเองพูดไปเมื่อวานทุกอย่าง
“นายไม่ไปหาเพื่อนหรือไง มาเดินตามฉันทำไม” ฉันหยุดเดินแล้วหมุนตัวไปจ้องกำปั้นตาเขม่ง เขาเอาแต่เดินตามฉันตั้งแต่มาถึงที่มหาวิทยาลัย
“อยากไปส่งเธอก่อน”
“ไม่ต้อง ฉันเดินไปเองได้!!”
“เธอทำไมชอบเสียงดัง คุยดีๆ ก็ได้” นี่ฉันผิดใช่มั้ยที่ไปเสียงดังใส่เขาน่ะ
“โอเค ฉันเดินเองได้ นายไปหาเพื่อนนาย ฉันจะไปหาเพื่อนฉัน ไม่ต้องเดินตามฉัน” ฉันพูดในเสียงที่อ่อนลง
“เย็นนี้ไปกินหมูกระทะกันมั้ย ?”
กรี๊ดดดด !! นี่เขาชวนฉันกินหมูกระทะงั้นหรอ ไม่รู้หรือไงว่าช่วงนี้ฉันกำลังไดเอ็ดอยู่
“ไม่กิน”
“งั้นเธออยากกินอะไร ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัมพันธ์สวาท