สรุปเนื้อหา บทที่37 กฏเหล็กสามข้อ – สัญญาร้ายของประธานปีศาจ โดย หยุนซู่
บท บทที่37 กฏเหล็กสามข้อ ของ สัญญาร้ายของประธานปีศาจ ในหมวดนิยายโรแมนซ์ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย หยุนซู่ อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
บทที่37 กฏเหล็กสามข้อ
แววตาคุณแม่ไป๋หม่นลง คล้ายอยากพูดแต่ไม่พูด จ้องมองไป๋เสว่เอ๋อร์ที่ก้มหน้าดูเฟอร์นิเจอร์ สุดท้ายก็เอาคำพูดที่ค้างอยู่กลับกลืนลงคอ
“แม่ เดี๋ยวหนูจะไปเลือกเครื่องประดับที่มีเต็มกระเป๋าของหนูออกมาขาย พอเราได้เงินมาก็เอาไปให้พ่อเจรจากับคนในคุก”
ยี่สิบกว่าปีที่ผ่านมา พ่อมอบชีวิตที่ปราศจากเรื่องทุกข์ร้อนแก่เธอ เธอยังไม่อาจตอบแทนได้ ที่ทำได้ในตอนนี้มีเพียงแค่สิ่งนี้เท่านั้น
คุณแม่ไป๋พยักหน้า ผลักลิ้นชักไปอีกทาง “เสว่เอ๋อร์ ลูกไม่ต้องจัดการเรื่องเฟอร์นิเจอร์แล้วนะ แม่ติดต่อคนรับซื้อแล้ว ถึงเวลาจะมีคนมารับไปเอง”
“ค่ะ” ไป๋เสว่เอ๋อร์ถอดชุดสูทบนตัว แล้วหันกลับไปมองคุณแม่ไป๋ “จริงสิ แม่คะ มะรืนนี้หนูอาจจะต้องไปเมืองหนานไห่หลายวัน เลยมาบอกแม่ล่วงหน้าไว้ก่อน”
คุณแม่ไป๋ไม่ถามอะไรมาก เพียงพยักหน้าเท่านั้น “จ้ะ ระมัดระวังตัวด้วยล่ะ รีบไปอาบน้ำข้างบนเถอะ เสื้อผ้าเปียกไปหมดแล้ว”
ไป๋เสว่เอ๋อร์รับคำ สาวเท้าขึ้นชั้นบน ขณะมาถึงห้องเก็บของที่ชานบันได เห็นกล่องของขวัญมากมายวางเกยกันอยู่ ก่อนหน้านี้ทุกเทศกาลสำคัญ มักมีผู้คนมากมายมอบของขวัญให้แก่ครอบครัวเธอ เป็นจำพวกโสมและเหล้าสำหรับเฉลิมฉลอง เมื่อไม่สามารถกินหมดได้ในคราวเดียว จึงเอามากองรวมกันในห้องเก็บของ วันนี้ห้องเก็บของถูกเปิดออก คงเพราะคุณแม่ไป๋คิดจะเอาของพวกนี้ไปขายทิ้ง
ไป๋เสว่เอ๋อร์ไม่คิดอะไรมาก กำลังจะเลยผ่านไป แวบนั้นบังเอิญเหลือบเห็นกล่องของขวัญสีกรมท่ากล่องหนึ่ง แตกต่างจากกล่องของขวัญสีเหลืองแดงและสีดำใบอื่น ๆ ไป๋เสว่เอ๋อร์ลังเลอยู่ชั่วขณะ หยุดฝีเท้า ยื่นมือไปหยิบกล่องใบนั้น ยังไม่ทันเปิดออก ความทรงจำที่เกี่ยวข้องกับกล่องของขวัญใบนี้ก็พรั่งพรูเข้ามา
เมื่อก่อนพ่อเคยมีเพื่อนเก่าคนหนึ่ง ชื่อหร่วนชิวไป๋ เป็นยอดช่างฝีมือชั้นครูด้านงานปักประจำเมืองซูโจวอันเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่ไม่อาจจับต้องได้ เมื่อก่อนเคยไปมาหาสู่กับตระกูลไป๋ ไป๋เสว่เอ๋อร์กับป้าหร่วนเองก็สนิทสนมกันดี แต่ว่าภายหลังสุขภาพของป้าหร่วนอ่อนแอลงมาก เพื่อดูแลสุขภาพจึงตัดสินใจไปอาศัยในป่าลึกเพื่อพักรักษาตัว ก่อนจากไปยังแวะมาที่บ้านตระกูลไป๋ แล้วมอบงานปักชิ้นนี้ไว้ให้
ไป๋เสว่เอ๋อร์ค่อย ๆ เปิดกล่องออก เห็นถุงหอมอยู่บนงานปัก อันเป็นงานปักที่คุณป้าหร่วนตั้งใจปักให้ไป๋เสว่เอ๋อร์ไว้แต่แรก ภายใต้ผ้าไหมนั้นก็คืองานปัก ‘นางนวลหกเหิน’ แห่งเมืองซูโจวอันล้ำค่า ไป๋เสว่เอ๋อร์มองงานปักอันละเอียดลออ แล้วหัวใจหนักอึ้ง ในความคิดพลันนึกอะไรบางอย่างขึ้นมา
งานปักชิ้นนี้ยังขายไม่ได้ ไม่แน่มันอาจมีประโยชน์...
ก่อนไปดูงานหนึ่งวัน ไป๋เสว่เอ๋อร์อยู่ที่บริษัทยุ่งมากกว่าปกติ สวี่เยว่หรูจงใจโยนภาระอันแสนวุ่นวายมาให้เธอ ตอนนี้ถึงไม่มีเธอและไป๋เสว่หรู ข้างกายเผยลี่เชินยังมีเลขาชายอีกหนึ่งคน ทว่าแต่ละวันช่างหาตัวยากนัก ไป๋เสว่เอ๋อร์เองยังเคยพบไม่กี่ครั้ง ฉะนั้นงานที่สวี่เยว่หรูโยนมาให้เธอ เธอจึงต้องทุ่มเทจัดการให้เรียบร้อยด้วยตัวคนเดียว
เมื่อข่าวเรื่องเผยลี่เชินจะไปดูงานต่างเมืองถูกแพร่ออกไป หลายต่อหลายแผนกก็ยื่นเอกสารและโปรเจกต์ที่ต้องเซ็นรับรองด่วนเข้ามาทันที ไป๋เสว่เอ๋อร์ตรวจตราและรวบรวมเสร็จ จึงส่งต่อไปยังห้องทำงานของเผยลี่เชิน
ตอนที่ไป๋เสว่เอ๋อร์ส่งเอกสารที่รวบรวมเสร็จแล้วเป็นกองที่สาม เผยลี่เชินกำลังคุยโทรศัพท์ ไม่ทันได้พูดอะไรนักก็วางสาย
ไป๋เสว่เอ๋อร์เดินไปหา เอาเอกสารในมือส่งให้ “ประธานเผยคะ กองนี้ก็เป็นเอกสารที่แต่ละแผนกส่งมาค่ะ”
“วางเอาไว้” เผยลี่เชินสีหน้าปกติ พลิกเอกสารในมือไม่หยุด “เธอไปประกาศซะ แจ้งให้ทุกคนรู้ว่าตอนที่ฉันไม่อยู่ สิทธิทุกอย่างมอบให้เผยอี้และฟางหรงเทียนเป็นคนจัดการ”
“ทุกอย่างเลยหรือคะ?” ไป๋เสว่เอ๋อร์ยังไม่แน่ใจ จึงถามย้ำอีกครั้งเพื่อความมั่นใจ
แม้ว่าเธอจะไม่รู้เรื่องราวเกี่ยวกับธุรกิจมากนัก แต่เธอเองก็อยู่ในไป๋ซื่อ รู้ว่าผู้จัดการทั่วไปมักไม่โอนถ่ายสิทธิของตนให้ผู้อื่นมากเท่าไหร่ ต่อให้ไปดูงานต่างเมือง ก็ยังต้องมีส่วนร่วมในการเจรจาและโปรเจกต์ของบริษัท บางเวลายังต้องประชุมกันทางโทรศัพท์และเซ็นเอกสารรับรองผ่านทางอินเทอร์เน็ต
เผยลี่เชินได้ยินเสียง ชะงักมือเล็กน้อย เลิกคิ้วถามไป๋เสว่เอ๋อร์ “ใช่ ทุกอย่าง”
ได้ยินฝ่ายชายยืนยันมั่นเหมาะอย่างนั้น ต่อให้ไป๋เสว่เอ๋อร์ยังมีข้อสงสัยแต่ก็ไม่กล้าถามต่อไป ได้เพียงแต่รับคำแล้วตัดสินใจเดินออกมา เธอเพิ่งจะก้าวเท้า ก็มีเสียงต่ำทว่าน่าดึงดูดของชายหนุ่มดังไล่หลัง
“ไป๋เสว่เอ๋อร์”
หญิงสาวหยุดฝีเท้า หันไปด้วยความสงสัย
“มีเรื่องหนึ่งที่ก่อนไปดูงาน ฉันคิดว่าเราต้องตกลงกันให้ชัด” น้ำเสียงของเผยลี่เชินไม่สั่นไหวแม้แต่น้อย แววตาลึกล้ำยากจะคาดเดา
คำพูดพวกนั้นของเผยลี่เชิน ย้ำเตือนสถานะที่แท้จริงของเธออยู่ทุกวินาที เธอยังเคยนึกว่าตัวเองไม่ต่างจากคนอื่นนัก แต่ว่าในสายตาของเผยลี่เชิน ไม่ว่าตระกูลไป๋จะล้มละลายหรือไม่ เธอยังคงเป็นเพียงของแลกเปลี่ยนที่ไม่คู่ควรแม้แต่จะเอ่ยถึง
สิ่งที่เธอพอทำได้มีเพียงต้องเข้มแข็ง ยืนหยัดไม่พึ่งพาใคร ๆ รวมทั้งเผยลี่เชิน
วันต่อมา เมื่อถึงหนานไห่ พอเครื่องบินลงจอด ไป๋เสว่เอ๋อร์ก็ได้รู้สึกถึงอุณหภูมิที่แตกต่างระหว่างเมืองหนานไห่และเมืองไห่เฉิง ในบรรยากาศตลบอบอวลไปด้วยกลิ่นอายแห่งท้องทะเล
การไปดูงานครั้งนี้ตลอดทั้งทริปมีเพียงแค่สามคน เผยลี่เชิน ไป๋เสว่เอ๋อร์และคนขับรถ ทันทีที่เครื่องบินจอด คนขับก็ตรงดิ่งไปยังบริษัทให้เช่ารถยนต์ ส่วนไป๋เสว่เอ๋อร์ต้องพาเผยลี่เชินนั่งแท็กซี่เดินทางไปยังโรงแรมที่จองเอาไว้ก่อนหน้าแล้ว
ไป๋เสว่เอ๋อร์ตอบอีเมลหลายฉบับบนรถ แล้วรายงานการเดินทางต่อเผยลี่เชินทันทีที่ลงจากรถ
“ประธานเผยคะ ฉันติดต่อกับทางผู้ดูแลหนานไห่อสังหาริมทรัพย์แล้ว เขาบอกว่าวันนี้มีเวลาสามารถมาพบเราได้ แต่เรื่องเวลาจะกำหนดได้วันนี้ เดี๋ยวพอถึงโรงแรมแล้วฉันจะแจ้งให้ทราบอีกทีหลังได้รับการยืนยันค่ะ”
“ตกลง เธอจัดการแล้วกัน”
ห้องของเผยลี่เชินกับไป๋เสว่เอ๋อร์อยู่ข้างกัน แบบนี้ได้สะดวกต่อการทำงาน ไป๋เสว่เอ๋อร์กลับห้องของตัวเอง วางสัมภาระแล้วติดต่อไปยังผู้มีหน้าที่รับผิดชอบทันที
โทรศัพท์ไปถึงสองครั้ง ปลายทางจึงจะมีคนรับสาย
“สวัสดีค่ะประธานซุน ฉันคือไป๋เสว่เอ๋อร์เลขาธิการของผู้จัดการเผยลี่เชินแห่งกลุ่มธุรกิจไป๋ซื่อจากเมืองไห่เฉิง ก่อนหน้านี้ได้ติดต่อคุณมาแล้ว คุณบอกว่าวันนี้สามารถหาเวลามาพบกับพวกเราได้ ตอนนี้เราถึงเมืองหนานไห่แล้ว ไม่ทราบว่าคุณพอจะสะดวกเวลาไหนคะ?”
ทันใดนั้นคนที่อยู่ในสายแสดงอาการลังเลอย่างเห็นได้ชัด “เลขาไป๋ คืออย่างนี้ครับ เย็นวันนี้ผมมีธุระกะทันหัน เรื่องพบกัน อาจจะให้เวลาคุณได้เพียงครึ่งชั่วโมงเท่านั้น”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญาร้ายของประธานปีศาจ
มีตอนต่อไปไหม...