คิดได้แบบนั้น เย้นโม่หลินก็ทำอย่างที่คิด
เขาเดินไปบนพื้นที่เต็มไปด้วยฝุ่น ก้าวแล้วก้าวเล่าฝ่าความมืดมุ่งไปยังบันได
"ระริ่งริ่ง ระริ่งริ่ง"
ในเวลานี้เอง โทรศัพท์มือถือของเขากลับดังขึ้น
ในความเงียบอันมืดมิด เสียงดังกล่าวดังราวกับเสียงฟ้าร้องสนั่น ดังสะท้อนทั่วราตรี
เย้นโม่หลินหยุดชะงักการก้าวเดิน เขากดรับสายโทรศัพท์
"คุณชาย พวกเราพบร่องรอยของเจียงเป้ยนีแล้ว"
เย้นโม่หลินสะดุ้งไปชั่วครู่ ตาของเขาเป็นประกายขึ้นในความมืด
ในที่สุด ก็พบแล้ว
"เดี๋ยวฉันมา"
เมื่อวางสายแล้ว เย้นโม่หลินเดินมุ่งหน้าไปยังประภาคารด้านนอกราวกับดอกธนู
การก้าวเดินของเขาทั้งว่องไวและรีบร้อน ไม่เพียงเท่าไรก็ถึงทรายหาด ใกล้กับป่าต้นมะพร้าว
กู้จื่อเฟยที่กำลังพยายามนอนหลับอยู่ ได้ยินเสียงโทรศัพท์มือถือขึ้นเป็นครั้งแรก ตั้งแต่มาอยู่ที่นี้ ไม่รู้ว่าพวกสาวใช้ใช้โหมดปิดเสียงโทรศัพท์หรือว่าไม่ได้ใช้โทรศัพท์กันแน่ แต่ว่าจะไม้ให้มีการเกิดเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นแบบนี้แน่
ในเวลานี้กลับมีเสียงโทรศัพท์?
หรือว่ามีใครลืมปิดเสียงโทรศัพท์ หรือว่า.........อาจจะเป็นนักท่องเที่ยวที่นอนไม่หลับแล้วผ่านมาทางนี้?
คิดได้ว่าอาจเป็นได้เช่นนั้น กู้จื่อเฟยลุกขึ้นจากพื้นทันที เธอวิ่งไปที่หน้าต่าง รีบมองลงไปด้านล่าง
เธอมองจากที่สูงลงไป ก็มองเห็น—
ในจุดทรายหาดที่ห่างไปประมาณ30-40เมตร มีเงาคนหนึ่งคนกำลังเดินไปทางด้านป่าต้นมะพร้าว
ถึงเธอจะอยู่ไกล แม้ว่าเงานั้นเล็กมาก แต่เธอสามารถแยกแยะได้ทันทีว่าเป็นใคร
เย้นโม่หลิน
เป็นพี่เย้นของเธอ
เขาอยู่ที่นี้ได้ไง! เขามาริมทะเล!
กู้จื่อเฟยดีใจแทบจะระเบิดออกมา เธออ้าปากเตรียมจะส่งเสียงเรียกเขา
"ตึงตึงตึง"
เสียงเดินเท้าเบาๆดังขึ้นด้านนอก
เสียงนี้กู้จื่อเฟยคุ้นเคยเป็นที่สุด มันคือเสียงที่สาวใช้กำลังมาที่ห้องของเธอ
พวกเธอไม่ค่อยมาที่นี่ในเวลากลางดึกแบบนี้ คิดว่าคงเป็นเพราะเสียงโทรศัพท์มือถือเมื่อครู่ จึงได้มาตรวจดู
หากว่าพวกหล่อนรู้ว่าเย้นโม่หลินมาที่นี่ ต้องไปรายงานเจียงเป้ยนีแน่ ถึงไม่รู้ว่าเพราะอะไรทำให้เย้นโม่หลินจากไปอีกแล้ว แต่ยังอีกเพียงนิดเดียวก็จะพบตัวเธอแล้ว
เพื่อความปลอดภัย เจียงเป้ยนีต้องย้ายเธอออกไปที่อื่นทันทีแน่
ถ้าเป็นแบบนี้ เธอก็ยิ่งมีความเป็นไปได้ว่าจะคาดจากการพบกับเย้นโม่หลิน
ในใจกู้จื่อเฟยตื่นเต้นเจียนจะทนไม่ไหว เธอบังคับกลืนคำพูดที่กำลังจะตะโกนออกไป เธออยู่ไกลเกินไป ถึงจะตะโกนออกไปใช่ว่าเย้นโม่หลินจะได้ยิน
ในเวลาสองวินาทีนี้ เย้นโม่หลินได้เดินหายลับเข้าไปในป่ามะพร้าว แม้นแต่เงาก็ไม่เห็นเสยแล้ว
กู้จื่อเฟยมองไปทางด้านที่เขาเดินไปด้วยความอาลัย ในใจแล้วยากจะบินตามไปเหลือเกิน
ในเวลาเดียวกันนี้เอง เสียงคนเดินก็มาถึงประตูพอดี
เสียงคุ้นเคยของการเปิดประตูดังขึ้น
กู้จื่อเฟยรีบกลับไปยังนอนลงพื้นให้เร็วที่สุด เธอแกล้งนอนหลับ
ประตูห้องเปิดออก สาวใช้สองคนมองเข้ามาด้านใน กู้จื่อเฟยนอนเงียบอยู่ที่พื้น อย่างกลับเธอนอนหลับลึกมาก
สาวใช้หนึ่งคนพูดขึ้นว่า
"หลับไปแล้ว คงไม่ได้ยินเสียงอะไรหรอก ตอนนี้ร่างกายเธออ่อนแอมาก นอนหลับแล้วคงไม่สะดุ้งตื่นจากเสียงรบกวนง่ายๆ"
"เป็นเช่นนั้นดี"
พูดแล้วสาวใช้ปิดประตูห้องเข้า พวกหล่อนเดินออกไปด้านนอก พร้อมกับคุยกันเสียงเบา
"ชายคนนั้นเกือบขึ้นมาบนประภาคารแล้ว อันตะลายจริงๆ เรื่องนี้ต้องบอกกับคุณหนูทันทีเลย"
"ตอนนี้มันดึกมากแล้วนะ จะรบกวนคุณหนูพักผ่อนเสียเปล่า ยังไงซะชายคนนั้นก็จากไปแล้ว ก็คงไม่ใช่นักท่องเที่ยวที่สำคัญอะไรที่เดินเที่ยวทั่วไปนั่นแหละ"
"แต่คุณหนูเคยบอกว่า เกิดเรื่องอะไรขึ้นก็ต้องรายงานคุณหนูนะ"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน
อืดอาด มีเรื่องคู่นั้นคู่นี้แทรกมาตลอด แล้วยังออกทะเลไปไม่รู้กี่รอบ วนอยู่แต่กับความโง่ของนางเอกและความปิดปังเพราะรักของพระเอก เฮ้อ ทนอ่านมาเพราะอยากรู้ตอนจบ แต่หงุดหงิกมาก...
ฝึกฝนตัวเองหาทางช่วยสามีมันก็ดี แต่ถึงขนาดทิ้งลูกให้คนอื่นดูแลนี่ไม่ไหว เลี้ยงเด็กยังไงให้เป็นแบบนี้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แถมเป็นภาระ ใช้ชีวิตโง่ ๆ มีศัตรูอยู่ แต่ไม่พาการ็ดไปด้วย พอลูกมีปัญหาที่รร. แทนที่จะเรียกสามี มาช่วยตั้งแต่แรก เสือกจะสู้เอง...
นางเอกอ้อนแอแถมโง่ แต่ก็ไม่ฟังพระเอก เสือกวิ่งไปวิ่งมาให้ถูกคนทำร้าย อ่านแล้วรำคาญ...
นางเอกโง่เง่าไม่มีการพัฒนา...
ทำไมไม่บอกพระเอกแล้วให้จัดการกับนังนั่น...
โอน่อหยาก็รู้นี่นาว่านางเอกเป็นคู่หมั้นประธาน ทำไมยังกล้าใส่ร้ายหรือแปลกใจว่านางเอกยังมีคนหนุน...
เนื้อเรื่องยืดยาวววน่าเบื่อมาก วนไปมาไม่เข้าเรื่องสักทีอ่านจนไม่อยากอ่านต่อน่าเบื่อเกิน ไม่เข้าเรื่องพระเอกกับนางเอกสักที วนอยู่ที่เดิมจนไม่น่าติดตามเพราะน่าเบื่อ...