เมื่อพาแรบบิทกลับไปที่ห้องของเธอแล้ว โห้หลีเฉินก็นั่งรถเข็น และกำลังเลื่อนไปบนระเบียงทางเดินอย่างช้าๆ
เขาเลื่อนรถเข็นไปพลาง พร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นไปพลางว่า "เว่ยชี"
"คุณผู้ชาย มีคำสั่งอะไรครับ"
เว่ยชีเดินออกมาจากด้านข้าง และยืนอยู่ข้างหลังโห้หลีเฉิน จากนั้นก็เดินไปข้างหน้าตามความเร็วของเขา
น้ำเสียงของโห้หลีเฉินดูหนักอึ้ง แต่กลับมีความหนักแน่นอย่างมาก
เขาพูดไปอย่างชัดเจนว่า "ให้ทีมแพทย์เข้ามา"
เว่ยชีประหลาดใจอย่างที่สุด
แม้ว่าคุณผู้ชายจะให้ความร่วมมือในการรักษาแล้ว แต่ทีมแพทย์นั้นเป็นทีมที่จัดมาโดยหยูฉู่สอง ซึ่งจะมีกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งจะเข้ามาด้วย และพวกเขาก็จะเข้าไปก้าวก่ายและยุ่งเกี่ยวกับหลายอย่าง ซึ่งมันก็ไม่ต่างอะไรกับการเอาตัวตรวจสอบที่นับไม่ถ้วนมาไว้ในบ้าน
โห้หลีเฉินปฏิเสธมาโดยตลอด ทำไมจู่ๆ เขาถึงปล่อยให้ทีมแพทย์เข้ามาได้ล่ะ?
"คุณผู้ชายครับ คุณผู้ชายตัดสินใจแล้วจริงๆ เหรอครับ?" เว่ยชีถามอย่างไม่แน่ใจอีกครั้ง
รถเข็นของโห้หลีเฉินหยุดลง จากนั้นเขาก็มองลงไปยังทิศทางของชั้นล่างด้วยสายตาที่หนักอึ้ง
จากนั้นไม่นาน เขาก็ค่อยๆ เอ่ยปากพูดว่า
"แรบบิทอยากเจอแม่ของเธอมาก"
เขาจะไปจากที่นี่ ดังนั้นสิ่งแรกเลยสุขภาพร่างกายของเขาจะต้องดีให้ได้เสียก่อน ก่อนที่จะมีทุนทำภารกิจ
เว่ยชีตาเป็นประกาย และเต็มไปด้วยน้ำตา
หลังจากรอมาตั้งครึ่งปี ในที่สุดก็เห็นว่าคุณผู้ชายคิดปลุกเร้าใจแล้ว
ถึงแม้ว่าจะเป็นเพราะแรบบิท แต่ที่จริงแล้ว เขาก็รู้ดีว่าในใจของโห้หลีเฉินคิดถึงเย้นหว่านและรีบร้อนอยากออกไปมากขนาดไหน
เพราะเขาอยากพบเย้นหว่านมากกว่าใครๆ
แต่ถ้าอยากเจอเย้นหว่าน และอยากไปหาเธอ หนทางข้างหน้าคงจะยากลำบากอย่างมาก
พวกเขาคงไปไม่พ้นจากตระกูลหยูหรอก เพราะนั่นมีหนทางเดียว คือโค่นล้มตระกูลหยู
ด้วยความที่โห้หลีเฉินและเขา มีสาวใช้ไม่กี่คนเท่านั้น
และด้วยสถานการณ์ที่ถูกศัตรูโอบล้อมทั้งสี่ทิศ โดยไม่มีคนช่วยเช่นนี้อีกด้วย
แต่ในอกของเว่ยชี นั้น กลับมีไฟลุกโชนที่ไม่เคยมีมาก่อนในสองปีนี้ ทำให้เขารู้สึกตื่นเต้น และรู้สึกฮึกเหิม
แต่การต่อต้าน ก็ยังดีกว่า การมีชีวิตอยู่ภายใต้สภาวะที่ยากลำบาก
"เพียงแต่ คนที่หยูฉู่สองส่งมานั้น จะรักษาแค่สุขภาพของคุณผู้ชายเท่านั้น แต่จะไม่ทำให้ขาทั้งสองข้างของคุณผู้ชายดีขึ้น ดังนั้นคุณผู้ชายว่าผมควรส่งคนไปหาวิธีรักษาอย่างลับๆ ไหมครับ?"
"แล้วคนที่แกส่งไป จะเข้ามาได้เหรอ?"
โห้หลีเฉินถามกลับ จนทำให้เว่ยชีพูดไม่ออกอยู่ครู่หนึ่ง
หยูฉู่สองควบคุมตัวพวกเขาเหมือนกับนักโทษเก้าชั่วโคตรเลย และในทุกๆ วันพวกเขาก็ถูกห้อมล้อมด้วยสายตาที่มากมายหนาแน่น และละเอียดรอบคอบ ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะลงมือกระทำการใดๆ ด้วยตนเอง
ยิ่งไม่ต้องพูดถึง การจัดหาหมอที่มีชีวิตเข้ามาเลย
แม้ว่าทำการจัดการได้สำเร็จ และคนที่จะเข้ามาได้นั้น อาจเป็นคนของหยูฉู่สองก็เป็นได้ จากนั้นมันจะยิ่งทำให้การรักษาขาของโห้หลีเฉินจะยิ่งพิกลพิการขึ้นกว่าเดิม
เว่ยชีโมโห "บ้าเอ๊ย!"
"อย่ากังวลไปเลย ค่อยๆ ทำไปทีละขั้นเถอะ"
โห้หลีเฉินเอ่ยปากพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น แล้วควบคุมรถเข็น จากนั้นก็ค่อยๆ เลื่อนไปข้างหน้า
แม้ว่าจะพิการทั้งสองขา และถูกมัดมือมัดเท้าไว้ แต่ตราบใดที่หัวใจของเขายังไม่ยอมแพ้ การต่อสู้ครั้งนี้ก็ไม่มีวันสิ้นสุด
ตระกูลหยูวางท่าทางทะนงองอาจอยู่เหนือจุดสูงสุดของโลก แล้วมองตระกูลและกองกำลังอื่นๆ อย่างหยิ่งยโส ส่วนตระกูลยักษ์ใหญ่นั้นก็ได้ยืนอยู่ในที่สูงสุด
มันทั้งแข็งแกร่ง และคงกระพัน
และไม่มีอำนาจใดกล้ายั่วยุพวกเขา ดังนั้นยิ่งไม่ต้องพูดถึงแค่คนคนเดียวอย่างเขาเลย
หนทางข้างหน้ามันช่างยากลำบาก
สายตาของโห้หลีเฉินยิ่งดูเยือกเย็นลง
......
สามวันต่อมา
ทีมแพทย์บำบัดรักษาก็กำลังเข้ามาในวิลล่าแห่งนี้พอดี
ซึ่งกลุ่มคนนั้นมีคนทั้งหมด 12 คนด้วยกัน ซึ่งพวกเขาเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในด้านต่างๆ และมีหน้าที่หลักในการรักษาภายในและโรคต่างๆ กับกามโรคที่ยังตกค้างอยู่ในร่างกายของโห้หลีเฉิน
โดยมีจุดประสงค์บำรุงรักษาสุขภาพร่างกายของเขาให้หายดี และช่วยฟื้นฟูให้อยู่ในสภาพที่ดีที่สุด เพื่อให้เขามีชีวิตอยู่ไปอีกนาน
เพื่อไม่ให้กลับมากำเริบอีก และไม่ให้เกิดการเสียชีวิตอย่างกะทันหันอีกต่อไป
แต่ในนั้น กลับไม่มีแพทย์ด้านกระดูกเลยสักคน และไม่มีใครจะรักษาขาของเขาด้วย
วันนี้แดดดีมาก และมันก็สาดส่องผ่านทางหน้าต่าง มาสู่พื้น ทำให้ทั่วทั้งห้องอบอุ่นและสว่างโล่ง
และโห้หลีเฉินที่กำลังนอนอยู่บนเตียงผู้ป่วยนั้น มองดูกลุ่มคนในชุดคลุมยาวสีขาวเดินเข้ามาทีละคน
โดยในนั้นมีคนวัยกลางคนสามคนด้วยกัน ส่วนอีกเก้าคนนั้นอายุยังน้อย พวกเขาสวมหน้ากากไว้ ด้วยท่าทีที่ดูเคร่งขรึมอย่างมาก เหมือนกับว่ากำลังตึงเครียดอย่างมาก และสำรวมกิริยา
พวกเขาเดินเข้ามาทีละคน แล้วแนะนำตัวทีละคนเรียงกันไปตามลำดับ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน
อืดอาด มีเรื่องคู่นั้นคู่นี้แทรกมาตลอด แล้วยังออกทะเลไปไม่รู้กี่รอบ วนอยู่แต่กับความโง่ของนางเอกและความปิดปังเพราะรักของพระเอก เฮ้อ ทนอ่านมาเพราะอยากรู้ตอนจบ แต่หงุดหงิกมาก...
ฝึกฝนตัวเองหาทางช่วยสามีมันก็ดี แต่ถึงขนาดทิ้งลูกให้คนอื่นดูแลนี่ไม่ไหว เลี้ยงเด็กยังไงให้เป็นแบบนี้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แถมเป็นภาระ ใช้ชีวิตโง่ ๆ มีศัตรูอยู่ แต่ไม่พาการ็ดไปด้วย พอลูกมีปัญหาที่รร. แทนที่จะเรียกสามี มาช่วยตั้งแต่แรก เสือกจะสู้เอง...
นางเอกอ้อนแอแถมโง่ แต่ก็ไม่ฟังพระเอก เสือกวิ่งไปวิ่งมาให้ถูกคนทำร้าย อ่านแล้วรำคาญ...
นางเอกโง่เง่าไม่มีการพัฒนา...
ทำไมไม่บอกพระเอกแล้วให้จัดการกับนังนั่น...
โอน่อหยาก็รู้นี่นาว่านางเอกเป็นคู่หมั้นประธาน ทำไมยังกล้าใส่ร้ายหรือแปลกใจว่านางเอกยังมีคนหนุน...
เนื้อเรื่องยืดยาวววน่าเบื่อมาก วนไปมาไม่เข้าเรื่องสักทีอ่านจนไม่อยากอ่านต่อน่าเบื่อเกิน ไม่เข้าเรื่องพระเอกกับนางเอกสักที วนอยู่ที่เดิมจนไม่น่าติดตามเพราะน่าเบื่อ...