โห้หลีเฉินเอ่ยราวกับเป็นเรื่องปกติ "นวดขาให้ฉัน"
เย่ซือซือ "..."
ทั้งๆ ที่ขาของเขาใช้ไม่ได้แล้วแท้ๆ ไม่มีความรู้สึกอะไรทั้งนั้น อย่าว่าแต่นวดขาเลย ต่อให้ตัดขาทิ้งก็ไม่รู้สึกอะไร
ให้เธอนวดเพื่ออะไร? เห็นเธอนอนแล้วขัดตา อยากแกล้งเธอชัดๆ เลย
"คุณโห้คะ ยอมแพ้เรื่องการรักษาเถอะ ขาคุณเกินเยียวยาแล้ว"
โห้หลีเฉินมีภูมิคุ้มกันกับคำพูดจาโจมตีแบบนี้นานแล้ว ถึงจะอยู่กับเย่ซือซือทั้งวัน แต่ความไม่พอใจที่ผู้หญิงคนนี้มีต่อเขาก็ยิ่งหนักขึ้นทุกทีๆ
การพูดว่าเขาสิ้นหวังและกำลังจะตายนั้นน้อยเกินไปแล้ว ธรรมดาเสียยิ่งกว่าคำสาปแช่งอีก
เขาเป็นคนใจใหญ่ใจกว้างมาโดยตลอด ไม่คิดเล็กคิดน้อยกับเธอ
"มานวด"
คำง่ายๆ สองคำนั้นเป็นคำสั่ง
ความไม่เต็มใจในอกของเย่ซือซือก็หงอลงไปด้วย น้ำเสียงตอนโห้หลีเฉินเอ่ยสั่ง มักจะบ่งบอกว่าเขาหมดความอดทนแล้ว
เวลานี้หากปฏิเสธก็เท่ากับว่ารนหาที่ตาย
อยู่ใต้ชายคาเขาก็ต้องก้มหน้า ต่อให้อีกฝ่ายเอ่ยคำขอที่ไร้สาระขนาดไหน
เย่ซือซือเดินเข้าไปด้วยความหงุดหงิด นั่งลงข้างเตียง เลิกผ้าห่มออก เผยให้เห็นขาวใหญ่ยาวทั้งสองข้างของเขา
เนื่องจากนั่งเป็นเวลานาน เขาผอมจนใกล้เหลือแค่หนังหุ้มกระดูกแล้ว
เย่ซือซือก้มลงมอง ไม่ขยับเขยื้อนไปครู่ใหญ่ แล้วก็ไม่ได้เอ่ยอะไรด้วยเช่นกัน
โห้หลีเฉินเอ่ยเร่งอย่างหมดความอดทน "นวด"
ได้ยินแล้วเย่ซือซือถึงยื่นมือออกไปช้าๆ นวดน่องของเขา ท่าทางนั้นสามารถพูดได้ว่าทำแบบขอไปทีสุดๆ อย่างไรเสียเขาก็ไม่มีความรู้สึกอะไร เธอจึงนวดออกแรงเบาหวิว
โห้หลีเฉินมองเขาด้วยแววตาเฉียบคม น้ำเสียงเย็นเยียบจนขนลุกเกรียว
"ถึงขาฉันไม่มีความรู้สึก แต่ฉันไม่ได้ตาบอด"
เย่ซือซือนิ่งแข็งค้าง เงยหน้าขึ้นมาก็สบเข้ากับสายตาข่มขู่อันตรายของโห้หลีเฉิน
เธอใจแป้วไปชั่วขณะ และยังหดหู่อย่างยิ่ง
ขาไม่มีความรู้สึกแล้วแท้ๆ จะนวดอะไร ไม่สู้ตัดทิ้งไปเลยดีกว่า
เจตนาแกล้งไม่ให้เธอนอน
ช่วงนี้เธอใต้ตาดำคล้ำหมดแล้ว
เย่ซือซือเอ่นถามอย่างสุดจะทน "คุณโห้คะ คุณแกล้งฉันสนุกนักเหรอ?"
คนปกติถ้าโกรธใส่แบบนี้แล้ว ก็คงไม่ทำต่ออีก
แต่คิดไม่ถึงว่า โห้หลีเฉินจะพูดราวกับเป็นเรื่องปกติได้ขนาดนั้น
"สนุก"
คำราบเรียบคำเดียว เผยรสนิยมน่ารังเกียจทั้งหมดของเขาออกมา
เย่ซือซือขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน อกแทบระเบิด
ข่มเหงรังแกกันเกินไปแล้ว
"ได้ ฉันนวดให้คุณ นวดลงแรงเลย!"
เย่ซือซือออกแรงที่มือหนักๆ กดลงไปบนขาของโห้หลีเฉินแรงๆ ทุกครั้ง
แรงนี้ เกรงว่าไม่มีใครที่จะไม่เจ็บ
ทว่าโห้หลีเฉินก็ยังคงไม่มีปฏิกิริยาเลยแม้แต่น้อย เขาจ้องเย่ซือซือราวกับคุมงาน ให้เธอออกแรงนวดต่อไป
เย่ซือซือนวดจนเหงื่อตกเต็มหน้า เหนื่อยจนมือไม้อ่อน แต่ไม่ได้สร้างความรู้สึกไม่สบายให้โห้หลีเฉินเลยแม้แต่น้อยนิด
เธอโมโหแทบกระอักเลือด
ได้แต่ลดแรงอีกครั้ง และใช้น้ำหนักมือปกตินวดต่อไป ไม่อย่างนั้น ไม่ใช่แค่แกล้งโห้หลีเฉินไม่ได้ แต่ทำให้ตัวเธอเหนื่อยตายเองด้วยซ้ำไป
เย่ซือซือนวดไป ราวกับรังเกียจโห้หลีเฉินอย่างไรอย่างนั้น เธอเอ่ยถาม
"ขาของคุณเนี่ย ถ้าเกิดรักษาให้ทันตั้งแต่เพิ่งเริ่มเสื่อม ก็คงไม่ถึงกับพิการหรอก แต่ลากยาวมาจนถึงขนาดนี้ ตั้งหนึ่งปีกว่าแล้ว คงพิการตลอดชีวิตหมดหนทางเยียวยา"
เธอมักจะยินดีที่จะเอ่ยเตือนเขาว่า พิการตลอดชีวิต
โห้หลีเฉินหน้าไม่เปลี่ยนสี เอ่ยถามเสียงสุขุม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน
อืดอาด มีเรื่องคู่นั้นคู่นี้แทรกมาตลอด แล้วยังออกทะเลไปไม่รู้กี่รอบ วนอยู่แต่กับความโง่ของนางเอกและความปิดปังเพราะรักของพระเอก เฮ้อ ทนอ่านมาเพราะอยากรู้ตอนจบ แต่หงุดหงิกมาก...
ฝึกฝนตัวเองหาทางช่วยสามีมันก็ดี แต่ถึงขนาดทิ้งลูกให้คนอื่นดูแลนี่ไม่ไหว เลี้ยงเด็กยังไงให้เป็นแบบนี้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แถมเป็นภาระ ใช้ชีวิตโง่ ๆ มีศัตรูอยู่ แต่ไม่พาการ็ดไปด้วย พอลูกมีปัญหาที่รร. แทนที่จะเรียกสามี มาช่วยตั้งแต่แรก เสือกจะสู้เอง...
นางเอกอ้อนแอแถมโง่ แต่ก็ไม่ฟังพระเอก เสือกวิ่งไปวิ่งมาให้ถูกคนทำร้าย อ่านแล้วรำคาญ...
นางเอกโง่เง่าไม่มีการพัฒนา...
ทำไมไม่บอกพระเอกแล้วให้จัดการกับนังนั่น...
โอน่อหยาก็รู้นี่นาว่านางเอกเป็นคู่หมั้นประธาน ทำไมยังกล้าใส่ร้ายหรือแปลกใจว่านางเอกยังมีคนหนุน...
เนื้อเรื่องยืดยาวววน่าเบื่อมาก วนไปมาไม่เข้าเรื่องสักทีอ่านจนไม่อยากอ่านต่อน่าเบื่อเกิน ไม่เข้าเรื่องพระเอกกับนางเอกสักที วนอยู่ที่เดิมจนไม่น่าติดตามเพราะน่าเบื่อ...