เสิ่นเคอหานสมกับที่เป็นหมอชั้นแนวหน้าที่มีความสามารถโดดเด่น ไม่เพียงแค่รักษาและช่วยชีวิตคน แม้กระทั่งมีความแม่นยำถึงขนาดรู้ถึงความยึดกุมของคนเจ็บ
เป็นไปตามคาดการณ์ของเสิ่นเคอหาน
เอวของโห้หลีเฉินจะเริ่มอ่อนกำลัง ต่อมา เขาจะกลายเป็นอัมพาต
กระบวนการนี้ไม่สามารถหวนคืนสู่สภาพเดิมได้ และไม่มีใครสามารถทราบถึงสาเหตุได้
"หมอเย่ซือซือ เกิดอะไรขึ้นกับคุณโห้กันแน่ครับ?" เว่ยชีที่ยืนอยู่ที่เตียงถามด้วยความร้อนใจ
หัวใจเต็มไปด้วยความกังวล
ดวงตาของเย่ซือซือมีแสงวาบ รู้สึกได้ถึงความขมในปากของเธอเอง
เธอพูดออกมาอย่างยากลำบาก:
"ยังไม่ทราบถึงสาเหตุที่แน่ชัดค่ะ แต่น่าจะเป็นเพียงชั่วคราวเท่านั้น เป็นปฏิกิริยาลูกโซ่ที่เกิดจากขา หลังจากที่ขาหายดีแล้ว เอวก็จะสมานตามไปด้วย"
"ปฏิกิริยาลูกโซ่? ไม่ใช่ว่าคุณกำลังรักษาของคุณผู้ชายอยู่หรือ มันควรจะดีขึ้นเรื่อยๆสิ แล้วมันจะทำให้เกิดปฏิกิริยาลูกโซ่จนทำให้เอวเขาไร้แรงไปด้วยกัน ได้อย่างไรละครับ?"
เว่ยชีถามกลับอย่างเฉียบแหลม
ถึงแม้เขาจะไม่เข้าใจการแพทย์ แต่เขารู้ ว่าคำพูดนี้มันขัดกัน
ซีเหวินพูดต่ออีกว่า "คุณเว่ยชีครับ ในเรื่องนี้ด้านการแพทย์ก็มีตัวอย่างที่ประสบความสำเร็จมาแล้วนะครับ สุดท้ายแล้วประสาทจะไหลเวียน และคุณโห้จะไม่เป็นอะไร"
"จริงสิ ผมนึกขึ้นได้แล้ว" กงหยานพูดขึ้นมาว่า "นี่เป็นตัวอย่างที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก ตอนนี้ส่วนเอวของคุณโห้ไร้เรี่ยวแรง ไม่เพียงแต่ไม่ใช่เรื่องแย่ แต่ยังเป็นสัญญาณว่าสุขภาพของเขากำลังจะดีขึ้น"
เมื่อเห็นพวกเขาพูดอย่างมั่นใจ เว่ยชีก็เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง
เขาวางแผนว่าจะกลับไปหาตัวอย่างที่ว่านี่ด้วยตัวเขาเอง
"ปาปา ปาปา"
ในตอนนี้เอง ที่ร่างเล็กร่างหนึ่งวิ่งถลาเข้ามาในห้อง
เธอกระโจนมาข้างเตียง ก่อนจะปีนขึ้นมาบนเก้าอี้ มือน้อยกุมมือของโห้หลีเฉินแน่น
ดวงตาสีดำขลับราวกับไข่มุกเม็ดงาม กะพริบตาปริบๆ เป็นประกาย
"ปาปา หนูได้ยินมาว่าเอวของปาปาขยับไม่ได้แล้ว เจ็บไหมคะ?"
เมื่อเห็นเด็กน้อยที่เขาเลี้ยงดู สีหน้าที่ไม่แยแสของโห้หลีเฉินก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย
มือใหญ่ของเขาลูบผมเด็กน้อย ก่อนจะพูดปลอบอย่างอ่อนโยน
"ไม่เจ็บเลย น้าเย่ของหนูบอกว่าเป็นแค่ชั่วคราวเท่านั้นเอง อีกสักพักก็หายดี คราวหลังก็ยืนได้แล้ว แล้วก็จะได้วิ่งเล่นเดินเล่นกับหนูไง"
"จริงไหมคะ?"
เด็กน้อยกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ
เธอหันหน้าไปทางเย่ซือซือ ใบหน้าเล็กอมชมพูของเธอเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่ไร้เดียงสา
"พี่เย่ ขอบคุณที่ช่วยคุณพ่อของหนูนะคะ หนูชอบพี่มากจริงๆ ค่ะ"
เมื่อสบกับดวงตาที่เปล่งประกายของแรบบิท หัวใจของเย่ซือซือดูเหมือนจะถูกแทงด้วยดาบนับพันเล่ม
ละอายใจ
เสียงของคุณของเด็กตัวน้อย ราวกับเป็นเสียงของความประชดประชัน
เธอคู่ควรกับคำนี้ที่ไหน?
เธอเป็นแค่คนสารเลวตั้งแต่ต้นจนจบ
"ฉัน ฉันปวดท้อง ขอไปเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ"
เย่ซือซือรีบออกมาด้วยความกระวนกระวาย
เธอรีบสาวเท้าออกมา ไม่กล้าสบตาใคร เพราะกลัวจะเปิดเผยความรู้สึกผิดชอบชั่วดีและโทษตัวเอง
ไม่นานนักเย่ซือซือก็มาถึงห้องน้ำ
เธอยืนอยู่หน้าอ่างล้างมือ ก่อนจะวักน้ำล้างหน้าฉาดใหญ่
น้ำที่ไหลอาบแก้มของเธอ ไม่รู้ว่าเป็นน้ำหรือน้ำตากันแน่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน
อืดอาด มีเรื่องคู่นั้นคู่นี้แทรกมาตลอด แล้วยังออกทะเลไปไม่รู้กี่รอบ วนอยู่แต่กับความโง่ของนางเอกและความปิดปังเพราะรักของพระเอก เฮ้อ ทนอ่านมาเพราะอยากรู้ตอนจบ แต่หงุดหงิกมาก...
ฝึกฝนตัวเองหาทางช่วยสามีมันก็ดี แต่ถึงขนาดทิ้งลูกให้คนอื่นดูแลนี่ไม่ไหว เลี้ยงเด็กยังไงให้เป็นแบบนี้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แถมเป็นภาระ ใช้ชีวิตโง่ ๆ มีศัตรูอยู่ แต่ไม่พาการ็ดไปด้วย พอลูกมีปัญหาที่รร. แทนที่จะเรียกสามี มาช่วยตั้งแต่แรก เสือกจะสู้เอง...
นางเอกอ้อนแอแถมโง่ แต่ก็ไม่ฟังพระเอก เสือกวิ่งไปวิ่งมาให้ถูกคนทำร้าย อ่านแล้วรำคาญ...
นางเอกโง่เง่าไม่มีการพัฒนา...
ทำไมไม่บอกพระเอกแล้วให้จัดการกับนังนั่น...
โอน่อหยาก็รู้นี่นาว่านางเอกเป็นคู่หมั้นประธาน ทำไมยังกล้าใส่ร้ายหรือแปลกใจว่านางเอกยังมีคนหนุน...
เนื้อเรื่องยืดยาวววน่าเบื่อมาก วนไปมาไม่เข้าเรื่องสักทีอ่านจนไม่อยากอ่านต่อน่าเบื่อเกิน ไม่เข้าเรื่องพระเอกกับนางเอกสักที วนอยู่ที่เดิมจนไม่น่าติดตามเพราะน่าเบื่อ...