ในตอนนั้นเอง ก็ได้มีมือใหญ่ๆ หนาๆ ข้างหนึ่งมาวางทับอยู่บนหลังมือของเย้นหว่าน กุมมือที่กำลังจับราวแน่นๆ ของเธอเอาไว้
"ถ้ากลัวก็จับมือผมไว้ ผมไม่หัวเราะเยาะคุณหรอก"
เสียงล้อเล่นที่ทุ้มต่ำ ถูกลมพัดจนมาเข้าหูของเย้นหว่าน
ไออุ่นที่อยู่เคียงข้างตรงหลังมือ แล้วหัวใจของเธอก็ได้เต้นรัวขึ้นมาอย่างบ้าคลั่ง หัวใจที่สุขสมเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข
แก้มของเธอแดงก่ำ ก้มหน้าลง อดไม่ได้ที่จะแย้มมุมปากขึ้น
ความรู้สึกเสียศูนย์กับการขึ้นลงที่เกิดขึ้น ทำก็ไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้นแล้ว
รถไฟเหาะหยุดลงอย่างรวดเร็ว
แรบบิทที่ร้องไห้ฟูมฟายจากการตกใจก็ได้เงียบลงไปแล้ว
โห้หยูเซิงจึงถือโอกาสนี้รีบเหวี่ยงมือของแรบบิทออก แล้วหยิบผ้าเช็ดหน้าที่อยู่ตรงกระเป๋าเสื้อออกมาด้วยสีหน้าที่ไม่ชอบใจ จากนั้นก็เช็ดข้อมือที่ถูกแรบบิทจับอย่างละเอียดไปรอบหนึ่ง
เย้นหว่านที่เห็นแบบนั้น เส้นเลือดตรงขมับก็ได้เต้นแรงขึ้นมาทันที
จุดนี้ของโห้หยูเซิงนี่ช่างเหมือนกับโห้หลีเฉินจริงๆ ไม่คิดว่าจะมีออร่าการที่กลัวสกปรก แล้วยังต้องเช็ดมืออีก!
แต่การกระทำนี้มันดูไร้มารยาทเกินไป มันอาจทำร้ายจิตใจของแรบบิทเอาได้
เย้นหว่านรู้สึกปวดหัว ในขณะที่กำลังคิดว่าจะปลอบใจแรบบิทยังไงดี กลับได้เห็นสิ่งที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น แรบบิทไม่ได้ดูไม่ชอบใจเลยแม้แต่น้อย แต่กลับกะพริบตาปริบๆ จ้องมอง โห้หยูเซิงด้วยความสงสัย
"พี่คะ นี่มือของพี่มันสกปรกมากเลยเหรอคะ?"
พูดจบ เธอก็หันมาดูมองมือเล็กๆ ของตัวเอง แล้วยื่นไปทางโห้หยูเซิง "งั้นพี่ก็ช่วยเช็ดให้หนูด้วยสิ" การเช็ดมือของโห้หยูเซิงชะงักไปทันที แล้วมองกรงเล็บน้อยๆ ของแรบบิทด้วยสีหน้าที่ทั้งงงทั้งอึ้ง
เช็ดมือให้เธออย่างนั้นเหรอ?
เขาไม่อยากไปโดนกรงเล็บเล็กๆ ของเธออีกแล้ว!
โห้หยูเซิงทำหน้าบึ้งตึงแล้วโยนผ้าเช็ดหน้าเข้าไปในมือของแรบบิท ปีนออกจากรถไฟเหาะอย่างเย็นชา จากนั้นก็เดินลงไป
แรบบิทใช้มือข้างหนึ่งถือผ้าเช็ดหน้าเอาไว้ แล้ววิ่งต้วมเตี้ยมต้วมเตี้ยมตามเขาไป
"พี่คะ รอหนูด้วยสิคะ เมื่อกี้หนูตกใจแทบแย่ นี่ขายังอ่อนอยู่เลย เดินเร็วไม่ได้"
โห้หยูเซิงไม่แม้แต่จะสนใจเธอ แต่ความเร็วในการเดินกลับช้าลงนิดหนึ่ง
แรบบิทนั้นเป็นเด็กที่ชอบเล่น
ถึงเธอจะพูดขอร้องว่าจะเล่นเครื่องเล่นแค่อย่างเดียว ถึงเธอจะเลือกที่จะไม่เล่นเครื่องเล่นอย่างอื่นได้ แต่เธอก็ยังสามารถเลือกที่จะกินอะไรก็ได้นี่
ด้วยเหตุนี้ เธอจึงดึงแขนเสื้อของโห้หยูเซิง ทำตัวออดอ้อน แล้วพาเขาเลี้ยวเข้าไปในโซนของกินอีกครั้ง
โห้หยูเซิงมองดูผู้คนมากมายที่อยู่ตรงหน้า สูดดมกลิ่นน้ำมันกลิ่นควันที่ลอยคลุ้งอยู่เต็มอากาศ ใบหน้าเล็กๆ นั้นเต็มไปด้วยความต่อต้านและรังเกียจ
เย้นหว่านเดินตามอยู่ข้างหลัง ด้วยความเป็นห่วงเล็กน้อย
"ของกินพวกนี้มีแต่ของทอด แรบบิทจะกินได้เหรอคะ?"
"นานๆ จะได้กินที ไม่ต้องไปห้าม สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือแค่ลูกชอบก็พอ และ......"
สายตาที่ลึกซึ้งของโห้หลีเฉินจ้องมองไปยังโห้หยูเซิง
"พี่คะ นั่นคืออะไรเหรอคะ?" แรบบิทจับแขนเสื้อของโห้หยูเซิงไว้ เขย่งขาแล้วชี้ไปยังถังหูลู่ที่อยู่บนแผงของกิน
เปลือกตาของโห้หยูเซิงไม่แม้แต่จะยกขึ้น ไม่ตอบอะไร
แรบบิทกำลังน้ำลายสอแล้ว "เรากินหน่อยดีมั้ยคะ? มันดูน่าอร่อยมากๆ เลย ตั้งแต่เล็กจนโตหนูยังไม่เคยได้กินมาก่อนเลย"
โห้หยูเซิง "......" ตั้งแต่เล็กจนโต? คำคำนี้ใช้ถูกแล้วจริงๆ เหรอ?
เขายังคงไม่สนใจเธอต่อไป
แรบบิททำตาละห้อยด้วยความอยากกิน แต่พอเห็นโห้หยูเซิงที่ไม่มีท่าทีว่าจะสนใจเลยสักนิด ลังเลคิดหนักไปพักหนึ่ง ก่อนจะถามไปอย่างไม่มั่นใจว่า
"พี่คะ พี่ไม่ชอบกินอันนี้ใช่มั้ยคะ?"
โห้หยูเซิงทำหน้าเรียบเฉยด้วยความเย็นชา
เขาไม่ได้ไม่ชอบกินอันนี้ แต่เขาไม่ชอบกินสักอย่างต่างหาก
แรบบิทลังเลอยู่นาน แล้วมองดูถังหูลู่ด้วยสายตาที่อาลัยอาวอนไปหลายครั้ง ถึงยอมละสายตาจากมันอย่างไม่เต็มใจ ก่อนจะหันมองไปยังแผงขายของที่อยู่ข้างๆ
บนนั้นมีเนื้อเสียบไม้กองโตตั้งอยู่เต็มไปหมด แถมยังส่งกลิ่นหอมที่ชวนน้ำลายไหลหนักยิ่งกว่าเดิม
แรบบิทดึงแขนเสื้อของโห้หยูเซิงด้วยความคาดหวัง "พี่คะ เรากินเนื้อเสียบไม้กันเถอะค่ะ? เนื้อมันอร่อยมากเลยนะคะ"
โห้หยูเซิงยกเปลือกตาขึ้นช้าๆ แล้วมองเนื้อเสียบไม้ด้วยสายตาที่เมตตา ไปแวบหนึ่ง
จากนั้นก็ยืนอยู่ในจุดที่ไกลออกไปสามเมตร แล้วยังคงดึงดันที่จะไม่เดินหน้าต่อ
แรบบิทที่เห็นว่ายังไงโห้หยูเซิงก็ไม่ยอมสนใจเธอ ดวงตาแดงก่ำขึ้นมา และกำลังจะร้องไห้ออกมา "พี่คะ พี่ไม่กินกับหนูเหรอคะ?"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน
อืดอาด มีเรื่องคู่นั้นคู่นี้แทรกมาตลอด แล้วยังออกทะเลไปไม่รู้กี่รอบ วนอยู่แต่กับความโง่ของนางเอกและความปิดปังเพราะรักของพระเอก เฮ้อ ทนอ่านมาเพราะอยากรู้ตอนจบ แต่หงุดหงิกมาก...
ฝึกฝนตัวเองหาทางช่วยสามีมันก็ดี แต่ถึงขนาดทิ้งลูกให้คนอื่นดูแลนี่ไม่ไหว เลี้ยงเด็กยังไงให้เป็นแบบนี้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แถมเป็นภาระ ใช้ชีวิตโง่ ๆ มีศัตรูอยู่ แต่ไม่พาการ็ดไปด้วย พอลูกมีปัญหาที่รร. แทนที่จะเรียกสามี มาช่วยตั้งแต่แรก เสือกจะสู้เอง...
นางเอกอ้อนแอแถมโง่ แต่ก็ไม่ฟังพระเอก เสือกวิ่งไปวิ่งมาให้ถูกคนทำร้าย อ่านแล้วรำคาญ...
นางเอกโง่เง่าไม่มีการพัฒนา...
ทำไมไม่บอกพระเอกแล้วให้จัดการกับนังนั่น...
โอน่อหยาก็รู้นี่นาว่านางเอกเป็นคู่หมั้นประธาน ทำไมยังกล้าใส่ร้ายหรือแปลกใจว่านางเอกยังมีคนหนุน...
เนื้อเรื่องยืดยาวววน่าเบื่อมาก วนไปมาไม่เข้าเรื่องสักทีอ่านจนไม่อยากอ่านต่อน่าเบื่อเกิน ไม่เข้าเรื่องพระเอกกับนางเอกสักที วนอยู่ที่เดิมจนไม่น่าติดตามเพราะน่าเบื่อ...