ไม่รู้ว่าเป็นสถานที่ใด
ในห้องที่มืดสนิท อับชื้น และเต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือด
เสียงเปิดสวิตช์ไฟดัง"แก๊ก"ขึ้น
หลอดไฟกลมที่อยู่เหนือศีรษะสว่างขึ้น เจิดจ้าราวกับดวงอาทิตย์ ส่องแสงแยงเข้ามาในดวงตา
ทันใดนั้นจากความมืดสู่ความสว่างจ้าในฉับพลัน ทำให้คนปรับสภาพไม่ทันจนรู้สึกอึดอัด มือข้างหนึ่งที่เหี่ยวย่นเต็มไปด้วยคราบเลือดสดบนบาดแผล ได้ยกขึ้นอย่างสั่นเทามาบดบังดวงตาของเขาไว้
"โอ๊ย ขนาดนี้แล้ว ยังทนกับแสงแยงตาแค่นี้ไม่ได้อีกเหรอ"
เสียงถากถางอย่างเย็นชาของชายหนุ่มดังขึ้น จากนั้นเขาก็เดินเข้ามา แล้วดึงมือเหี่ยวย่นนั้นออกอย่างหยาบโลน
"หยูฉู่สอง คุณคิดว่าตัวเองนั้นยังเป็นผู้นำสูงส่งของตระกูลหยูอีกเหรอ ตอนนี้คุณมันก็แค่เศษสวะ ขยะเน่า สุนัขข้างถนนเท่านั้น!"
เจ้าของมือที่เหี่ยวย่นก็คือหยูฉู่สองนั่นเอง
เขาไม่หลงเหลือสง่าราศีของชายชราผู้ดูดีมีอำนาจอีกแล้ว เวลานี้ผมเผ้ายุ่งเหยิง คราบเลือดและขี้โคลนเกาะติดกันเป็นก้อน ทั้งสกปรกและดูน่าเกลียด
ร่างกายและใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยบาดแผลและคราบเลือด บางที่กลายเป็นแผลเป็น บางที่ก็ติดเชื้อ ส่งกลิ่นเหม็นและสยดสยอง
เสื้อผ้าของเขาก็ยิ่งเต็มไปด้วยคราบเลือดและขี้โคลน เป็นรูพรุนไปทั่ว
สังเกตดูดี ๆ เขาเหลือเพียงแขนข้างเดียว แข้งขาทั้งสองข้างก็ผิดรูปผิดร่าง นั่งพาดอยู่บนเก้าอี้อย่างบิดเบี้ยว
เห็นลักษณะแล้ว ช่างสมเพชเวทนาเหลือเกิน
แต่ถึงกระนั้นหยูฉู่สองกลับยังมีความเย่อหยิ่งทะนงตัว สายตาที่บาดลึกจ้องมองคนที่อยู่ตรงหน้า
"ฝู้ยวน มึงช่างกล้าดีนักที่ลักพาตัวกู คนตระกูลหยูไม่ช้าก็จะต้องตามมาเจอ ถึงเวลานั้นทั้งมึงและโคตรตระกูลของมึง จะต้องตายอย่างไร้ที่ฝัง"
"กูตายงั้นเรอะ ฮ่า ๆ ๆ!"
ฝู้ยวนหัวเราะอย่างแดกดัน และปล่อยหมัดแรง ๆ ซัดเข้าที่ใบหน้าของหยูฉู่สอง ชกจนใบหน้าของเขาบิดเบี้ยวและกระอักเลือด
ฝู้ยวนสนุกกับความรู้สึกแบบนี้มาก "อย่าแม้แต่จะคิดเลย คนตระกูลหยูไม่มีทางที่จะมาช่วยมึงได้อีกแล้ว เพราะว่าตอนนี้คนตระกูลหยูทั้งหมด ถูกเย้นโม่หลินฆ่าล้างโคตรแล้ว ไม่เหลือรอดแม้แต่คนเดียว!"
หยูฉู่สองช็อกไปทั้งตัว ตาเบิกกว้างด้วยความตกใจ
เสียงของเขาสั่นเครือ "ไม่ เป็นไปไม่ได้ มึงหลอกกู มึงกำลังหลอกกู!"
"ทำไมกูต้องหลอกมึงด้วย สภาพมึงตอนนี้ มีอะไรให้น่าหลอกอีกรึ" แววตาประชดประชันของฝู้ยวนมองเขาราวกับกำลังมองเศษขยะ
หยูฉู่สองส่ายหัวสุดฤทธิ์ เขาไม่เชื่อ เรื่องนี้ทำให้เขาสิ้นหวังกระทบกระเทือนยิ่งกว่าตอนที่ถูกระเบิดแล้วฝัง
อยู่ใต้ซากปรักหักพังเสียอีก
ตระกูลหยูของเขา ตระกูลอันดับหนึ่งของโลก แข็งแกร่งทรงพลังและไม่มีใครเทียบ จะถูกฆ่าล้างโคตรได้อย่างไร จะถูกทำลายได้อย่างไร
เขาไม่เชื่อ
"หากว่าตระกูลหยูถูกฆ่าล้างโคตรจริง หากว่ากูนั้นไม่มีค่าแล้ว ทำไมมึงยังอุตส่าห์พยายามขุดกูขึ้นมาจากซากปรักหักพัง ทำไมยังต้องลักพากูมัดกูไว้ที่นี่ ทำไมถึงยังไม่ฆ่ากูอีก"
หยูฉู่สองหยิบยกข้อเท็จจริงตอบโต้กลับไป
และเบื้องหลังเหตุผลของแต่ละคำถามที่ว่าทำไมนี้ ได้พิสูจน์ว่าสิ่งที่ฝู้ยวนพูดล้วนเป็นเรื่องโกหกทั้งเพ
ฝู้ยวนหัวเราะเยาะเย้ย "มึงอยากรู้ไหมว่าทำไม ง่ายนิดเดียว เพราะว่ากูอยากเห็นมึงอยู่ก็เหมือนตายทั้งเป็น มีชีวิตที่ไม่ต่างไปจากอะไรกับสุนัข"
"หยูฉู่สอง มึงมีชีวิตที่สูงส่งมาตลอดทั้งชีวิต คงไม่เคยถูกลบหลู่เหยียดหยามสินะ มึงเห็นลูกน้องทุกคนไม่ต่างไปจากสุนัข มึงไม่เคยเห็นกูเป็นคนด้วยซ้ำ"
"กูก็เลยเฝ้ารอมาโดยตลอด เฝ้ารอดูวันที่มึงโดนเหยียบย่ำให้จมดิน จนไม่ต่างอะไรกับสุนัขนั้นมีลักษณะอย่างไร"
"กูรอวันนี้มานาน ดังนั้นกูถึงได้แอบส่งคนไปขุดมึงขึ้นมาไงล่ะ"
แต่ละประโยคยิ่งฟังยิ่งเชือดเฉือนให้เจ็บปวด
แววตาที่ดุร้ายของฝู้ยวน การแสดงออกที่น่ากลัว ดูไม่เหมือนกับเป็นการโกหกเลย
มาถึงขั้นนี้แล้ว หยูฉู่สองก็กลายเป็นนักโทษแล้ว ก็ยิ่งไม่มีความจำเป็นใดที่จะโกหกเขาอีก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน
อืดอาด มีเรื่องคู่นั้นคู่นี้แทรกมาตลอด แล้วยังออกทะเลไปไม่รู้กี่รอบ วนอยู่แต่กับความโง่ของนางเอกและความปิดปังเพราะรักของพระเอก เฮ้อ ทนอ่านมาเพราะอยากรู้ตอนจบ แต่หงุดหงิกมาก...
ฝึกฝนตัวเองหาทางช่วยสามีมันก็ดี แต่ถึงขนาดทิ้งลูกให้คนอื่นดูแลนี่ไม่ไหว เลี้ยงเด็กยังไงให้เป็นแบบนี้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แถมเป็นภาระ ใช้ชีวิตโง่ ๆ มีศัตรูอยู่ แต่ไม่พาการ็ดไปด้วย พอลูกมีปัญหาที่รร. แทนที่จะเรียกสามี มาช่วยตั้งแต่แรก เสือกจะสู้เอง...
นางเอกอ้อนแอแถมโง่ แต่ก็ไม่ฟังพระเอก เสือกวิ่งไปวิ่งมาให้ถูกคนทำร้าย อ่านแล้วรำคาญ...
นางเอกโง่เง่าไม่มีการพัฒนา...
ทำไมไม่บอกพระเอกแล้วให้จัดการกับนังนั่น...
โอน่อหยาก็รู้นี่นาว่านางเอกเป็นคู่หมั้นประธาน ทำไมยังกล้าใส่ร้ายหรือแปลกใจว่านางเอกยังมีคนหนุน...
เนื้อเรื่องยืดยาวววน่าเบื่อมาก วนไปมาไม่เข้าเรื่องสักทีอ่านจนไม่อยากอ่านต่อน่าเบื่อเกิน ไม่เข้าเรื่องพระเอกกับนางเอกสักที วนอยู่ที่เดิมจนไม่น่าติดตามเพราะน่าเบื่อ...