"ขุด!"
เย้นโม่หลินออกคำสั่ง
ทุกคนจึงเริ่มทำการขุดหาคนท่ามกลางฝนตกหนักโปรยปราย
ในขณะเดียวกัน อีกทีมหนึ่งก็กำลังค้นบ้านตระกูลหยู หาพวกคนที่หลบหนีออกจากทะเลทราย
แต่คนพวกนั้นหาไม่เจอ พวกเขาไม่ได้กลับไปที่บ้านตระกูลหยู ส่วนโห้หลีเฉินก็ยังก็ไม่รู้ชะตากรรม
วันนี้ได้กำจัดตระกูลหยูไปแล้ว ไม่สามารถที่จะมาข่มขู่คุกคามตระกูลเย้นได้อีก เย้นโม่หลินระดมพลคนของตระกูลเย้นทั้งหมดออกตามหาโห้หลีเฉิน
เขายืนอยู่ท่ามกลางสายฝน ปล่อยให้หยดน้ำฝนที่โปรยปรายลงมากระทบเข้าส่วนร่างกาย
เขามองไปทิศทางการพังถล่ม และกัดริมฝีปากพูดออกมาทีละคำ
"เสี่ยวหว่าน พี่จะต้องหาตัวโห้หลีเฉินให้เจอ เธอเองก็ต้องรอให้พี่หาเธอให้เจอด้วยนะ"
"เด็ก ๆ ยังรอพวกเธอกลับบ้าน"
......
ป่ายฉีคิดว่าตัวเองต้องตายอย่างแน่นอน
แต่กลับคิดไม่ถึงว่า ฟ้ายังเมตตา ให้เขามีวันที่ลืมตาได้อีก
และสิ่งที่เขาเห็น คือเพดานที่คุ้นเคย เป็นห้องของเขา
เขาดีใจจนลุกพรวดขึ้นนั่ง
"เชี่ย กูถูกช่วยเหลือแล้ว ดวงแข็งจริง ๆ"
"คุณชายป่ายฉี ท่านระวังหน่อยค่ะ บนตัวของท่านยังมีบาดแผล เคลื่อนไหวแรงไปอาจทำให้บาดแผลเปิดได้นะคะ"
สาวใช้ที่เฝ้าอยู่ในห้องตกใจจนรีบเข้ามาจับเขาให้หยุดนิ่ง
ป่ายฉีมองดูบาดแผลบนตัวของตัวเอง
สาหัสมาก รอดมาได้เพราะดวงแข็งล้วน ๆ
แต่ในเมื่อรอดมาได้ บาดแผลเหล่านี้ก็ใช้เพียงเวลาในการรักษาพักฟื้นให้ดีขึ้น
เขาไม่ได้สนใจมาก และมองข้ามความเจ็บปวดด้วยซ้ำ แต่กลับรีบร้อนถามขึ้น:
"คนอื่นล่ะ โห้หลีเฉินพวกเขาก็ช่วยออกมาหรือยัง"
สาวใช้แววตาล่อกแล่ก
เธอลังเลครู่หนึ่ง จากนั้นถึงกล่าวด้วยน้ำเสียงบางเบา :
"ได้ยินมาว่าคุณโห้ถูกคนตระกูลหยูพาตัวไปจากทะเลทรายแล้ว ตอนนี้ยังหาตัวไม่เจอ และนายน้อยก็กำลังออกตามหาอยู่ค่ะ"
ถูกพาตัวไป ก็แสดงว่ายังมีชีวิตอยู่ ส่วนเรื่องการตามหาเจอก็เป็นเรื่องไม่ช้าก็เร็ว
หินก้อนใหญ่ในหัวใจของป่ายฉีก็ได้ถูกวางลง จากนั้นก็นึกขึ้นได้อีกเรื่องหนึ่ง
เขาจึงกล่าวถาม:"แล้วผู้หญิงที่อยู่กับผมในทะเลทรายล่ะ ถูกช่วยเหลือกลับมาด้วยหรือเปล่า"
"ถูกช่วยกลับมาพร้อมกันค่ะ ตอนนี้ถูกขังไว้อยู่"
ป่ายฉีเลิกผ้าห่มออก "พาผมไปหาเธอหน่อย"
"แต่ว่าร่างกายของท่าน ยังไม่ควรลุกจากเตียงตอนนี้นะคะ......"
สาวใช้อยากจะห้าม แต่ก็ไร้ประโยชน์เมื่อเห็นความดื้อรั้นของป่ายฉีที่อยู่ตรงหน้า
ป่ายฉีเดินกะโผลกกะเผลกออกมา แล้วมุ่งหน้าเดินไปยังห้องที่ขังยัยคิงคอง
เขากับยัยคิงคองยังมีการเดิมพันอยู่
หากว่าพวกเขารอดตายจากภัยอันตรายนี้ เธอจะต้องทำหน้าที่เป็นหนูทดลองเป็น ๆ ให้กับเขา
เขาสนใจสภาพร่างกายของเธอเป็นอย่างมาก
วิชาแพทย์ของเขา จะมีการพัฒนาอีกขั้นแล้ว
ป่ายฉีรู้สึกตื่นเต้นมาก เพียงแต่ ระหว่างทางที่เดินไปหายัยคิงคองด้วยอารมณ์ที่เบิกบานนั้น กลับพบว่าบรรยากาศของตระกูลเย้นค่อนข้างสลดหดหู่
เหล่าสาวใช้กับบอดี้การ์ดที่เจอระหว่างทาง แต่ละคนล้วนมีสีหน้าดูเศร้าสร้อยราวกับอมทุกข์
ยิ่งเดิน ป่ายฉีก็ยิ่งรู้สึกสงสัยว่าต้องมีอะไร
เขาได้หยุดชะงักเดินก่อนที่จะใกล้ถึงห้องขังของยัยคิงคอง แล้วขมวดคิ้วถามขึ้น:
"ตระกูลเย้นยังเกิดเรื่องอย่างอื่นอีกใช่ไหม"
สาวใช้ดวงตาหลุกหลิก "เกิดเรื่องนิดหน่อยค่ะ......คือ......คุณหนูน้อยแรบบิทเธอถูกยาขององค์กรทำร้าย ตอนนี้กลายเป็นเจ้าหญิงนิทราแล้ว คุณนายบอกว่าหากท่านฟื้นแล้ว ให้ท่านช่วยไปรักษาคุณหนูหน่อยค่ะ"
ป่ายฉีสะดุ้งตกใจเบาๆ รู้สึกรักและสงสารเด็กน้อย
เธอไม่สามารถต้านทานกับยาน้ำนั่น แต่ว่าเธอสามารถเอาชีวิตรอดมาได้ ถือว่าเด็กน้อยอดทนเข้มแข็งมากแล้ว
และนี่ก็เป็นหนึ่งในเหตุผลที่เขาต้องการให้ยัยคิงคองมีชีวิตรอด
เพียงแต่ว่า ป่ายฉียังคงมีความสงสัย ต่อให้แรบบิทจะกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา แต่ว่าเขาก็กลับมาแล้ว และมีวิธีที่อาจจะรักษาให้หายได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน
อืดอาด มีเรื่องคู่นั้นคู่นี้แทรกมาตลอด แล้วยังออกทะเลไปไม่รู้กี่รอบ วนอยู่แต่กับความโง่ของนางเอกและความปิดปังเพราะรักของพระเอก เฮ้อ ทนอ่านมาเพราะอยากรู้ตอนจบ แต่หงุดหงิกมาก...
ฝึกฝนตัวเองหาทางช่วยสามีมันก็ดี แต่ถึงขนาดทิ้งลูกให้คนอื่นดูแลนี่ไม่ไหว เลี้ยงเด็กยังไงให้เป็นแบบนี้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แถมเป็นภาระ ใช้ชีวิตโง่ ๆ มีศัตรูอยู่ แต่ไม่พาการ็ดไปด้วย พอลูกมีปัญหาที่รร. แทนที่จะเรียกสามี มาช่วยตั้งแต่แรก เสือกจะสู้เอง...
นางเอกอ้อนแอแถมโง่ แต่ก็ไม่ฟังพระเอก เสือกวิ่งไปวิ่งมาให้ถูกคนทำร้าย อ่านแล้วรำคาญ...
นางเอกโง่เง่าไม่มีการพัฒนา...
ทำไมไม่บอกพระเอกแล้วให้จัดการกับนังนั่น...
โอน่อหยาก็รู้นี่นาว่านางเอกเป็นคู่หมั้นประธาน ทำไมยังกล้าใส่ร้ายหรือแปลกใจว่านางเอกยังมีคนหนุน...
เนื้อเรื่องยืดยาวววน่าเบื่อมาก วนไปมาไม่เข้าเรื่องสักทีอ่านจนไม่อยากอ่านต่อน่าเบื่อเกิน ไม่เข้าเรื่องพระเอกกับนางเอกสักที วนอยู่ที่เดิมจนไม่น่าติดตามเพราะน่าเบื่อ...