เมื่ออ่านเนื้อหาข้อความทั้งหมดในแต่ละบรรทัดแล้ว ป่ายฉีตาเบิกกว้าง แม้แต่แรงที่อยากจะบีบกู้จื่อเฟยให้ตายก็ไม่มีแล้ว
เดินช้อปปิ้ง ดูหนังทานข้าว ซื้อบ้าน สิ่งจิปาถะเหล่านี้คือสิ่งที่คนทำกันเหรอ
และเขาต้องไปทำเหรอ
ป่ายฉีจู่ ๆ รู้สึกว่าการเป็นคนธรรมดานี่มันช่างยากเย็นเหลือเกิน
วันถัดไป
หลังจากที่ป่ายฉีทำการตรวจสอบหานจื่อทางด้านวิจัยเสร็จแล้ว ก็พาเธอนั่งเฮลิคอปเตอร์ไปยังเมืองที่ใกล้ที่สุด
เป็นช่วงกลางวันพอดี บนท้องมีคนสัญจรไปมา คึกคักมาก
ก่อนนั้นที่หานจื่อมาสถานที่แบบนี้ มักจะมีเป้าหมายในการสังหารเสมอ เธอต้องหาเป้าหมายของเธอในหมู่ฝูงชนให้เร็วที่สุด ส่วนเรื่องอื่นไม่มีความเกี่ยวข้องใด ๆ กับเธอ
แต่ว่าตอนนี้ เธอกลับไม่มีเป้าหมาย
นี่ทำให้เธอรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ จากนั้นเธอก็เทความสนใจไปที่ตัวของป่ายฉี ดูว่าเขาต้องการจะทำอะไรกันแน่
เดิมทีกำลังเดินสบายไปตามท้องถนน แต่ป่ายฉีจู่ ๆ กลับรู้สึกเย็นวาบที่แผ่นหลัง มีความรู้สึกเหมือนจะถูกสังหารได้ตลอดเวลา
เขาหันหน้าไปมองหานจื่อแล้วส่ายหน้าอย่างเหนื่อยหน่าย
เขาไม่สนใจเธอ เดินนำหน้ามุ่งไปที่ห้างสรรพสินค้าใหญ่ที่อยู่ด้านหน้า
ป่ายฉีได้ศึกษาแผนที่ก่อนหน้าที่จะมาแล้ว จึงพาหานจื่อมุ่งตรงไปที่ร้านขายเสื้อผ้า
เขากล่าว:"เข้าไปเลือกชุดที่คุณชอบสิ ชอบก็ซื้อหมดเลย"
หานจื่อมองเขาด้วยใบหน้าที่เรียบเฉย "คุณต้องการจะทำอะไร"
"ให้คุณซื้อก็ซื้อเหอะน่ะ" ป่ายฉีไม่ได้อธิบายอะไรทั้งนั้น อ้างแต่เหตุผลที่แข็งกระด้างของเขาที่ใช้เป็นประจำ "เพื่อการวิจัยทั้งนั้น"
หานจื่อเดินเข้าไปด้วยสีหน้าที่เย็นชา
เธอย่างเดินทีละก้าวด้วยใบหน้าที่เย็นชา มองสแกนเสื้อผ้าของแต่ละปีราวกับแสงเลเซอร์
จนกระทั่งเธอดูของทุกอย่างในร้านเสื้อผ้าครบแล้ว เธอไม่พูดอะไรแม้แต่คำเดียว ก็เดินออกจากร้านด้วยมือเปล่า
ป่ายฉีเดินตามอยู่ด้านหลังเธอด้วยความหงุดหงิด ถึงแม้ว่าเขาจะไม่สันทัด ไม่เคยสัมผัสการเดินช้อปปิ้งด้วยตัวเอง แต่เขาก็เคยเห็นเคยได้ยิน ว่าเวลาที่ผู้หญิงช้อปปิ้ง จะสามารถซื้อของได้เป็นกอง สามารถเดินช้อปปิ้งกระทั่งขาลากได้
แต่การเดินช้อปปิ้งของหานจื่อนั้นไม่เหมือนกับที่ได้ยินมาเลย
"คุณไม่เจอของชอบเหรอ" ป่ายฉีถามด้วยความอยากรู้
หานจื่อส่ายหน้า "ไม่อ่ะ"
ก้าวแรกที่ไม่ราบรื่น
ป่ายฉีไม่ย่อท้อ พาหานจื่อมาร้านที่สองอีก
ครั้งนี้เขาฉลาดขึ้น เมื่อเข้าไปก็เรียกหาพนักงานมาแนะนำให้กับหานจื่อ
พนักงานสาวบริการดีมาก ทั้งฉลาดทั้งเป็นกันเอง แนะนำเสื้อผ้าหลายชุดให้กับหานจื่อตามรูปลักษณ์รูปร่างที่เหมาะสมกับเธอ
แต่ว่า พนักงานสาวแนะนำจนปากแฉะปากเปื่อยแล้ว หานจื่อก็ยังไม่มีความหวั่นไหวแม้แต่น้อย
เธอเพียงยืนอย่างเฉยเมย และปฏิเสธอย่างเย็นชา
จนพนักงานสาวถึงกับยอมแพ้ และถามขึ้น :"คุณผู้หญิงชอบสไตล์ไหนคะ"
หานจื่อ:"แบบที่อยู่บนตัวฉัน"
พนักงานสาวมองดูเสื้อผ้าของหานจื่อ เสื้อยืดสีดำ กางเกงหนังสีดำ
เธอจึงเข้าใจทันทีและพาเธอไปดูเสื้อผ้าที่ใกล้เคียงกับเสื้อยืดสีดำกางเกงหนังสีดำ
ป่ายฉีที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ทนดูต่อไปไม่ไหว
ถ้าซื้อสีดำกลับไปทั้งกองแบบนี้ การใส่เสื้อผ้าก็ไม่มีการเปลี่ยนแปลง อย่างนั้นจะเปลี่ยนหานจื่อได้อย่างไร จะให้เธอได้สัมผัสชีวิตธรรมดาได้อย่างไร
ป่ายฉีหยิบเสื้อยืดสีดำไปไว้ที่เดิม แล้วพูดกับหานจื่อว่า:
"ผมคิดว่าคุณสามารถลองสไตล์อื่นดูบ้างก็ดีนะ อย่างเช่น กระโปรงขาวอะไรแบบนั้น"
พลางพูดป่ายฉีพลางชี้ไปทางกระโปรง
กระโปรงยาวเรียบง่ายควรมีเตรียมไว้
หานจื่อสีหน้าเย็นชา น้ำเสียงเย็นชา "เสื้อผ้าแบบนี้ไม่เหมาะกับการต่อสู้"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน
อืดอาด มีเรื่องคู่นั้นคู่นี้แทรกมาตลอด แล้วยังออกทะเลไปไม่รู้กี่รอบ วนอยู่แต่กับความโง่ของนางเอกและความปิดปังเพราะรักของพระเอก เฮ้อ ทนอ่านมาเพราะอยากรู้ตอนจบ แต่หงุดหงิกมาก...
ฝึกฝนตัวเองหาทางช่วยสามีมันก็ดี แต่ถึงขนาดทิ้งลูกให้คนอื่นดูแลนี่ไม่ไหว เลี้ยงเด็กยังไงให้เป็นแบบนี้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แถมเป็นภาระ ใช้ชีวิตโง่ ๆ มีศัตรูอยู่ แต่ไม่พาการ็ดไปด้วย พอลูกมีปัญหาที่รร. แทนที่จะเรียกสามี มาช่วยตั้งแต่แรก เสือกจะสู้เอง...
นางเอกอ้อนแอแถมโง่ แต่ก็ไม่ฟังพระเอก เสือกวิ่งไปวิ่งมาให้ถูกคนทำร้าย อ่านแล้วรำคาญ...
นางเอกโง่เง่าไม่มีการพัฒนา...
ทำไมไม่บอกพระเอกแล้วให้จัดการกับนังนั่น...
โอน่อหยาก็รู้นี่นาว่านางเอกเป็นคู่หมั้นประธาน ทำไมยังกล้าใส่ร้ายหรือแปลกใจว่านางเอกยังมีคนหนุน...
เนื้อเรื่องยืดยาวววน่าเบื่อมาก วนไปมาไม่เข้าเรื่องสักทีอ่านจนไม่อยากอ่านต่อน่าเบื่อเกิน ไม่เข้าเรื่องพระเอกกับนางเอกสักที วนอยู่ที่เดิมจนไม่น่าติดตามเพราะน่าเบื่อ...