ดังนั้น ป่ายฉีจึงได้ให้โรงภาพยนตร์ฉายเรือไททานิคอีกครั้งโดยเฉพาะ
เขาทำตามกลยุทธ์วิธีในอินเทอร์เน็ต ซื้อป๊อปคอร์นขนาดใหญ่และก็โค้ก นั่งในโรงภาพยนตร์พร้อมกับกลุ่มคู่รักหนุ่มสาวคู่อื่น
สภาพแวดล้อมที่มืดสลัว รายล้อมไปด้วยบรรยากาศสีชมพูของคู่รักหนุ่มสาว
และยังมีความรักสุดซึ้งบนหน้าจอ......
ทุกอย่างล้วนจำเป็นที่ต้องเตรียมไว้เพื่อการมีความรัก การจัดเตรียมความโรแมนติกที่ไม่สามารถจะโรแมนติกได้มากไปกว่านี้อีกแล้ว
แม้แต่ตอนที่ป่ายฉีบังเอิญไปแตะโดนมือของหานจื่อขณะที่กำลังหยิบป๊อปคอร์น
กลยุทธ์วิธีในอินเทอร์เน็ตบอกว่า นี่คือจุดเริ่มต้นของการสปาร์คเหมือนการสัมผัสโดนไฟฟ้า วินาทีนั้นผู้หญิงจะต้องใจเต้นเหมือนถูกไฟฟ้าช็อตก็ไม่ปาน
ใบหน้าของป่ายฉีกระตุกรอยยิ้มแห่งรอคอย
แต่แล้ว วินาทีต่อไป นิ้วมือของเขามีเสียงดังแกร๊กของกระดูกหัก!
หานจื่อหักนิ้วมือของเขาจนหัก!
ป่ายฉีเจ็บจนใบหน้าซีดเผือด ตวาดขึ้นด้วยความโมโห "คุณทำเหี้ยอะไรของคุณเนี่ย"
หานจื่อมองเขาอย่างเย็นชา แววตามีความเย็นยะเยือกของแรงอาฆาตจนทำให้คนถึงกับมือเท้าเย็นวาบ
"อย่าแตะต้องของของฉัน"
ป่ายฉี:"......"เหี้ย ป๊อปคอร์นซื้อมาเพียงถังเดียว ทำไมถึงกลายเป็นของเธอไปได้
อีกอย่างนิ้วมือเจ็บจังเลย
ไม่มีกะจิตกะใจที่จะดูหนังโรแมนติกอีกต่อไปแล้ว ป่ายฉีแทบอยากจะบีบยัยคิงคองคนนี้ให้ตายคามือ โมโหจนลุกขึ้นแล้วเดินตรงออกไปด้วยใบหน้าที่ดำทะมึน
บนหน้าจอ คุณโดด ฉันโดด ฟังแล้วก็ยิ่งทำให้เขาโมโห
ไม่ได้ผลเลยสักนิดเดียว
หานจื่อเห็นป่ายฉีจากไป ก็ย่อมเป็นธรรมดาที่จะตามเขาออกไป แต่ว่าไม่ได้ลุกขยับในทันที มองดูคนสองคนที่กอดกันบนหน้าจอด้วยแววตาที่เป็นประกาย
จากนั้น เธอก็ไม่ได้หยุดชะงักต่ออีก ลุกยืนขึ้นแล้วก็จากไป
ใบหน้าของเธอยังคงเรียบเฉย ราวกับเทือกเขาน้ำแข็ง และเดินตามหลังป่ายฉี
เดิมทีถ้าทำตามแผนของกู้จื่อเฟย เขายังมีแผนการที่ยังต้องดำเนินต่อ แต่ตอนนี้ป่ายฉีไม่มีกะจิตกะใจแล้ว จึงกลับบ้านด้วยใบหน้าที่ถมึงทึง
กลับถึงบ้านตระกูลเย้น
ก็ไปห้องยาที่เขาใช้เป็นประจำแล้วทำการพันนิ้วมือที่หัก จากนั้นก็กลับไปนอนที่ห้อง
ตั้งแต่ต้นจนจบ ก็ไม่ได้ไปสนใจหานจื่ออีก
เขายิ่งรู้สึกลึกๆว่า เป็นเพราะสมองของเขามีปัญหาหรือเปล่าที่ต้องการไปเปลี่ยนแปลงยัยคิงคองคนนี้ เธอคนที่ไม่มียารักษาได้แล้ว
ป่ายฉีหงุดหงิดโมโหพลิกตัวไปมาอยู่บนเตียง จนร้อนรุ่มดังเปลวไฟแผดเผาอยู่ในใจ
เวลานี้ ในความมืด โทรศัพท์ของเขาดังขึ้น หมายเลขที่แสดงให้เห็นนั้นเป็นของกู้จื่อเฟย
ป่ายฉีที่จิตใจลุกเป็นไฟ ฉับพลันก็ยิ่งลุกท่วมขึ้นทันที
เขารับสายขึ้น แล้วกัดฟันพูดออกมาทีละคำราวกับจะฆ่าคน "กู้จื่อเฟย มึงยังจะกล้าโทรมาหากูอีกเหรอ พรุ่งนี้กูจะนั่งเครื่องบินไปฆ่ามึงให้ตาย"
กู้จื่อเฟยไม่สนคำข่มขู่ของป่ายฉี แถมยังหัวเราะออกมาอย่างมีความสุข
"ฉันได้ยินสาวใช้บอกว่าคุณได้รับบาดเจ็บ ถูกปฏิเสธจนหน้าแตกจริง ๆ ด้วย ฮ่า ๆ คุณมันไม่ได้เรื่องจริง ๆ แค่ออกเดตถึงกับมือหัก"
เธอยังกล้าหัวเราะอีก ยังกล้าเยาะเย้ยเขาอีก
ป่ายฉีใบหน้าดำทะมึนแทบอยากจะบี้โทรศัพท์ให้แหลก "กู้จื่อเฟย มึงมันรนหาที่ตาย!"
"อย่าพูดจาโอหังหน่อยไปเลย คุณทำอะไรฉันไม่ได้หรอก พี่เย้นปกป้องฉันอยู่แล้ว"
ป่ายฉี:"......"แม่งยิ่งทิ่มแทงใจ
น่าโมโหชะมัด เขายกมือขึ้นอยากจะโยนขว้างโทรศัพท์ทิ้ง
กู้จื่อเฟยกลับกล่าวขึ้นต่อว่า:"แต่คุณกลับมาแบบนี้ คือจะยอมแพ้แล้วว่างั้น ถ้าหากว่าคุณยอมแพ้ง่ายๆแบบนี้ ฉันดูถูกคุณนะ"
แดกดันเขา แล้วยังดูถูกเขาอีก......
ป่ายฉีกัดฟัน "มันเกี่ยวเหี้ยอะไรกับมึง ไปให้พ้นซะ"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน
อืดอาด มีเรื่องคู่นั้นคู่นี้แทรกมาตลอด แล้วยังออกทะเลไปไม่รู้กี่รอบ วนอยู่แต่กับความโง่ของนางเอกและความปิดปังเพราะรักของพระเอก เฮ้อ ทนอ่านมาเพราะอยากรู้ตอนจบ แต่หงุดหงิกมาก...
ฝึกฝนตัวเองหาทางช่วยสามีมันก็ดี แต่ถึงขนาดทิ้งลูกให้คนอื่นดูแลนี่ไม่ไหว เลี้ยงเด็กยังไงให้เป็นแบบนี้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แถมเป็นภาระ ใช้ชีวิตโง่ ๆ มีศัตรูอยู่ แต่ไม่พาการ็ดไปด้วย พอลูกมีปัญหาที่รร. แทนที่จะเรียกสามี มาช่วยตั้งแต่แรก เสือกจะสู้เอง...
นางเอกอ้อนแอแถมโง่ แต่ก็ไม่ฟังพระเอก เสือกวิ่งไปวิ่งมาให้ถูกคนทำร้าย อ่านแล้วรำคาญ...
นางเอกโง่เง่าไม่มีการพัฒนา...
ทำไมไม่บอกพระเอกแล้วให้จัดการกับนังนั่น...
โอน่อหยาก็รู้นี่นาว่านางเอกเป็นคู่หมั้นประธาน ทำไมยังกล้าใส่ร้ายหรือแปลกใจว่านางเอกยังมีคนหนุน...
เนื้อเรื่องยืดยาวววน่าเบื่อมาก วนไปมาไม่เข้าเรื่องสักทีอ่านจนไม่อยากอ่านต่อน่าเบื่อเกิน ไม่เข้าเรื่องพระเอกกับนางเอกสักที วนอยู่ที่เดิมจนไม่น่าติดตามเพราะน่าเบื่อ...