บทที่ 127 เดจาวูคู่สามีภรรยา
เพียงแค่ไปพักที่บ้านโห้หลีเฉินไม่กี่วัน เย้นหว่านจึงไม่ได้เอาสิ่งของไปมากมาย นำของใช้ที่จำเป็นและเสื้อผ้าที่ใส่เปลี่ยนติดตัวไป กระเป๋าเป้ใบหนึ่งจึงเพียงพอแล้ว
มองฝั่งเย้นซิน ถือกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ ราวกับนำของในบ้านทั้งหมดใส่เข้าไปด้านใน อย่างกับจะไปอยู่ยาว
เย้นหว่านหดมุมปากเล็กน้อย งงงวยไปหมด และไม่รู้ว่าการพาเย้นซินไปด้วยกัน เป็นเรื่องดีหรือไม่ดี
โห้หลีเฉินกับไม่ใส่ใจสักนิด ตลอดระยะเวลาล้วนไม่มองเย้นซินสักแวบ ตั้งแต่ต้นจนจบสายตาตกอยู่บนตัวของเย้นหว่าน
มาถึงคฤหาสน์ เย้นหว่านเลือกห้องที่ระยะห่างไม่ใกล้ไม่ไกลจากห้องนอนโห้หลีเฉินห้องหนึ่ง พาเย้นซินเดินเข้าไป
ในคฤหาสน์ห้องหับมีมากมาย เพียงแต่ไม่มีห้องนอนแขก
ห้องนี้เหมือนกันกับที่เย้นหว่านคิด เพียงแค่วางข้าวของบางอย่าง สะอาดเป็นระเบียบมาก ถือว่าเป็นห้องนอนชั่วคราวก็สะดวกดี
“พี่ ฉันนอนที่นี่เหรอ? แต่ว่าทำไมไม่มีเตียงล่ะ?”
เย้นซินแปลกใจอยู่บ้าง ยืนอยู่หน้าประตูไม่ได้วางกระเป๋าเดินทางลง
เย้นหว่านมองโห้หลีเฉินแล้ว พูดด้วยความจำใจพอสมควร “บ้านเขาไม่มีห้องนอนแขก พวกเราปูพรมที่พื้นกัน ก็นอนได้แล้ว”
เย้นซินลังเลสักนิด แต่ไม่อยากไปจากที่นี่เพราะเรื่องเตียง ดังนั้นจึงพยักหน้ารับปากแล้ว
หล่อนเลื่อนกระเป๋าเสื้อผ้าเข้าไปจัดเก็บ
เย้นหว่านถือโอกาสวางกระเป๋าของตนเองลงเช่นกัน ก่อนจะจัดเก็บ
เธอพึ่งรูดซิปกระเป๋าออก มือขาวเนียนและยาวข้างหนึ่งตกอยู่บนหลังมือของเธอ
เสียงทุ้มต่ำน่าดึงดูดของโห้หลีเฉินลอยมาจากบนศีรษะของเธอ “เธอทำอะไร?”
เย้นหว่านตอบกลับ “เก็บของไง”
พูดๆ อยู่ เธอก็อยากดึงมือออกจากในมือของโห้หลีเฉิน กลับโดนโห้หลีเฉินกุมแน่นยิ่งกว่าเดิม แม้กระทั่งดึงเธอขึ้นมา
เธอพุ่งไปในอ้อมอกของเขาอย่างไม่ทันตั้งตัว
ลมหายใจของชายหนุ่มใกล้มาก ใกล้จนทำให้คนใจสั่น
นึกถึงเย้นซินยังอยู่ที่นี่ แก้มของเย้นหว่านก็ทั้งแดงทั้งร้อนอย่างไม่สบายใจ รีบอยากผลักโห้หลีเฉินออก
“คุณทำอะไรกัน? รีบปล่อยเลยนะ”
“ไปนอนห้องนอนของฉัน”
โห้หลีเฉินปฏิเสธคำพูดของเย้นหว่านอย่างเฉียบขาด เสียงทุ้มต่ำมีความหยอกล้อส่วนหนึ่ง อันตรายส่วนหนึ่ง
“ไม่ใช่ครั้งสองครั้งที่นอนในห้องฉัน จะโวยวายอะไร?”
นี่คือโวยวายแล้ว?
เย้นหว่านมึนงง เดิมทีเธอกับเขาไม่ได้มีความสัมพันธ์ที่แท้จริงกันสักนิดเดียว นอนด้วยกันคงไม่ใช่เรื่องปกติมั้ง
หรือว่าเธอยังต้องเคยชินเหรอ
เธอสูดหายใจลึกทีหนึ่ง คิดจะคุยกับเขาด้วยเหตุผลอย่างจริงจัง “คุณโห้……”
“ฉันไม่ถือสาที่หล่อนจะดันทุรังวิ่งเข้ามา ตอนนั้นน้องสาวเธอจะจินตนาการอะไรบ้าง ฉันไม่สนใจ”
เสียงของเขาทุ้มต่ำอันตราย
คำที่เย้นหว่านอยากพูดออกมาสำลักอยู่ในลำคอแล้ว
เธอมองเย้นซินโดยจิตใต้สำนึก เห็นหล่อนไม่รู้ว่าหยุดเก็บของตั้งแต่เมื่อไรกัน กำลังยืนอยู่ตรงนั้น หน้าตาท่าทางตกตะลึงมองพวกเขาอยู่
เย้นหว่านแก้มแดงขึ้นอีก เมื่อก่อนทำไมเธอถึงไม่รู้ว่าโห้หลีเฉินคนนี้ถึงต่ำทรามขนาดนี้ล่ะ
ใช้เย้นซินมาบีบเธออย่างคาดไม่ถึง
เย้นหว่านกำหมัดแน่น แต่ละคำแต่ละประโยคเหมือนกัดฟันเสียงลอดออกมาจากช่องฟัน
“ปล่อยฉันออก ฉันจะไปเอง”
โห้หลีเฉินเม้มริมฝีปากอย่างแผนการสำเร็จ ปล่อยเย้นหว่านออกอย่างว่องไว
ร่างสูงใหญ่ยังคงยืนอยู่ตรงหน้าเธอ เหมือนภูเขาใหญ่ที่ไม่สามารถก้าวข้ามได้
เย้นหว่านโกรธจนเดือดดาลในใจ พูดกับเย้นซินด้วยน้ำเสียงอ่อนละมุน
“เธอนอนคนเดียวไม่มีปัญหานะ?”
เย้นซินเป็นคนที่ฉลาด ถึงแม้ฟังคำพูดของโห้หลีเฉินกับเย้นหว่านไม่ชัดเจน แต่มองสถานการณ์ของทั้งสองก็เดาได้ว่าเย้นหว่านต้องไปนอนที่ห้องนอนโห้หลีเฉิน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน
อืดอาด มีเรื่องคู่นั้นคู่นี้แทรกมาตลอด แล้วยังออกทะเลไปไม่รู้กี่รอบ วนอยู่แต่กับความโง่ของนางเอกและความปิดปังเพราะรักของพระเอก เฮ้อ ทนอ่านมาเพราะอยากรู้ตอนจบ แต่หงุดหงิกมาก...
ฝึกฝนตัวเองหาทางช่วยสามีมันก็ดี แต่ถึงขนาดทิ้งลูกให้คนอื่นดูแลนี่ไม่ไหว เลี้ยงเด็กยังไงให้เป็นแบบนี้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แถมเป็นภาระ ใช้ชีวิตโง่ ๆ มีศัตรูอยู่ แต่ไม่พาการ็ดไปด้วย พอลูกมีปัญหาที่รร. แทนที่จะเรียกสามี มาช่วยตั้งแต่แรก เสือกจะสู้เอง...
นางเอกอ้อนแอแถมโง่ แต่ก็ไม่ฟังพระเอก เสือกวิ่งไปวิ่งมาให้ถูกคนทำร้าย อ่านแล้วรำคาญ...
นางเอกโง่เง่าไม่มีการพัฒนา...
ทำไมไม่บอกพระเอกแล้วให้จัดการกับนังนั่น...
โอน่อหยาก็รู้นี่นาว่านางเอกเป็นคู่หมั้นประธาน ทำไมยังกล้าใส่ร้ายหรือแปลกใจว่านางเอกยังมีคนหนุน...
เนื้อเรื่องยืดยาวววน่าเบื่อมาก วนไปมาไม่เข้าเรื่องสักทีอ่านจนไม่อยากอ่านต่อน่าเบื่อเกิน ไม่เข้าเรื่องพระเอกกับนางเอกสักที วนอยู่ที่เดิมจนไม่น่าติดตามเพราะน่าเบื่อ...