"เพี๊ยะ!"
เย้นหว่านยกมือไปตบหน้าเก่อหรูซวนจนเกิดเสียงดังก้อง
เก่อหรูซวนถูกตบจนตะลึงงัน
เธอจับหน้า แล้วมองเย้นหว่านอย่างเหลือเชื่อ "คุณตบฉันทำไมคะ?"
"ไม่ฟังคำพูดของฉัน นี่คือการสั่งสอน ไม่ว่าผู้ชายของฉันจะเป็นหนาวตายหรือป่วยตาย มันก็เป็นเรื่องของฉัน ไม่เกี่ยวอะไรกับคุณเลยแม้แต่นิดเดียว ถ้าครั้งหน้าคุณยังมาเป็นห่วงในเรื่องที่คุณไม่ควรเป็นห่วง ก็คงไม่ใช่แค่ตบหน้าแล้ว ฉันจะแทงคุณให้ตาย"
เก่อหรูซวนคิดไม่ถึงว่าเย้นหว่านจะอวดดีและหยิ่งผยองได้ถึงขนาดนี้
เธอไม่สนใจจริงๆ เหรอว่าโห้หลีเฉินรู้สึกยังไงกับผู้หญิงปากร้ายอย่างเธอ?
เก่อหรูซวนกุมหน้าของเธอด้วยความอับอาย แล้วมองไปทางโห้หลีเฉินด้วยสีหน้าน่าสงสาร "ท่านประธานคะ ..."
สายตาของโห้หลีเฉินเคร่งขรึม
เขาไม่พูด ท่าทีของเขานิ่งเงียบ เป็นความไม่แยแสที่โหดร้ายที่สุด
แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ไม่คิดจะช่วยเธอพูด ถึงแม้เย้นหว่านจะไม่สนใจสุขภาพของเขาอีก แต่เขาก็ยังยืนข้างเย้นหว่านเงียบๆ
เก่อหรูซวนรู้สึกเหมือนถูกทิ่มแทงใจและหนาวเหน็บในหัวใจมาก ยืนอยู่ตรงหน้าพวกเขาสองคน เธอเหมือนเป็นตัวตลก
เธอโมโหจนแทบบ้า ไม่อยากอยู่ที่นี่ต่อแม้แต่วินาทีเดียว
"ดิฉันขอตัวกลับก่อนนะคะ ถ้าไม่จำเป็น ดิฉันจะไม่มาที่นี่อีก"
พูดจบเธอก็หันหลังเดินออกไป
เย้นหว่านเรียกเธอไว้ แล้วพูดอะไรบางอย่างที่ทำให้เก่อหรูซวนเกือบจะระเบิดอารมณ์ออกมา "พรุ่งนี้จะจัดโต๊ะแยกต่างหากให้ฉันในแผนกเลขา ฉันจะไปทำงานที่บริษัท"
"อะไรนะ?" เก่อหรูซวนหันกลับมามองเย้นหว่านด้วยความประหลาดใจ "เลขาของท่านประธานล้วนแต่เป็นทีมมืออาชีพ พวกเขามีคุณสมบัติตามที่ได้รับคัดเลือกมาอย่างดี จากที่ดิฉันรู้มาเมื่อก่อนคุณเย้นเป็นดีไซเนอร์ไม่ใช่เหรอคะ คุณไม่รู้งานด้านเลขาเลยด้วยซ้ำ.."
เย้นหว่านไม่ใส่ใจ "ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป เรื่องของโห้หลีเฉินในบริษัททั้งหมด ฉันจะเป็นคนดูแลเอง เรื่องตารางงาน การออกนอกสถานที่ ฉันก็จะเริ่มเรียนรู้ทั้งหมด"
"อ้อ ฉันเป็นภรรยาของท่านประธาน ด้วยสถานะที่สูงขนาดนี้ คงเป็นเลขาทั่วไปไม่ได้ ไม่อย่างนั้นสามีฉันคงจะขายหน้าแย่ ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป ฉันจะเป็นหัวหน้าเลขาของบริษัท"
เก่อหรูซวนเหมือนถูกฟ้าผ่ากลางแจ้ง หัวหน้าเลขาของบริษัท เป็นเธอนะ!
เย้นหว่านกลับมาในครั้งนี้ ไม่เพียงแต่ทำให้เธอขายหน้าเรื่องความสัมพันธ์ของเธอกับโห้หลีเฉินในที่สาธารณะ แต่ยังต้องการแย่งตำแหน่งหัวหน้าเลขาของเธอไปอีก
นี่มันจะมากไปแล้วนะ แล้วเธอจะเผชิญหน้ากับคนในบริษัทได้ยังไง ไม่ถูกหัวเราะเยาะตายเหรอ?
เย้นหว่านยกยิ้ม แต่รอยยิ้มนั้น เย็นชาราวกับปีศาจ
"คุณเก่อ ถ้าคุณไม่อยากเป็นเลขาทั่วไป คุณก็ลาออกได้นะ"
ริมฝีปากของเก่อหรูซวนกระตุกอย่างรุนแรง
เย้นหว่านพยายามจะบีบให้เธอลาออกอย่างนั้นเหรอ?
เธอคิดได้อย่างรวดเร็ว เธอมองไปที่โห้หลีเฉินอย่างรวดเร็ว แล้วพูดว่า
"ท่านประธานคะ มีหลายเรื่องในบริษัทที่ดิฉันจัดการคนเดียว ปัญหาด้านธุรกิจมันซับซ้อนมาก กลัวว่าคุณเย้นจะเป็นหัวหน้าเลขาไม่ไหวนะคะ คุณช่วยเกลี้ยกล่อมคุณเย้น อย่าให้ไปบริษัทเลยนะคะ เพราะยังไงงานคืองาน ครอบครัวคือครอบครัว แยกแยะไว้จะดีกว่านะคะ"
ดวงตาของโห้หลีเฉินหรี่ลง ในดวงตาของเขาส่องประกายซับซ้อนขึ้นมา
เขามองไปทางเย้นหว่านด้วยสีหน้าเคร่งขรึม "ที่รัก เรื่องงานคุณไม่เข้าใจ ถ้าคุณไปจะเหนื่อยไปด้วย ฉันไม่อยากให้คุณเหนื่อยไปกับผม"
นี้คือจะปฏิเสธเธอเหรอ
เก่อหรูซวนยกยิ้มมุมปากของเธออย่างผู้มีชัย โห้หลีเฉินปฏิเสธแล้ว ดูสิว่าเย้นหว่านจะแย่งตำแหน่งหัวหน้าเลขาของเธอได้ยังไง
สีหน้าของเย้นหว่านบึ้งตึงทันที เธอมองไปที่โห้หลีเฉินด้วยความโกรธ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน
อืดอาด มีเรื่องคู่นั้นคู่นี้แทรกมาตลอด แล้วยังออกทะเลไปไม่รู้กี่รอบ วนอยู่แต่กับความโง่ของนางเอกและความปิดปังเพราะรักของพระเอก เฮ้อ ทนอ่านมาเพราะอยากรู้ตอนจบ แต่หงุดหงิกมาก...
ฝึกฝนตัวเองหาทางช่วยสามีมันก็ดี แต่ถึงขนาดทิ้งลูกให้คนอื่นดูแลนี่ไม่ไหว เลี้ยงเด็กยังไงให้เป็นแบบนี้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แถมเป็นภาระ ใช้ชีวิตโง่ ๆ มีศัตรูอยู่ แต่ไม่พาการ็ดไปด้วย พอลูกมีปัญหาที่รร. แทนที่จะเรียกสามี มาช่วยตั้งแต่แรก เสือกจะสู้เอง...
นางเอกอ้อนแอแถมโง่ แต่ก็ไม่ฟังพระเอก เสือกวิ่งไปวิ่งมาให้ถูกคนทำร้าย อ่านแล้วรำคาญ...
นางเอกโง่เง่าไม่มีการพัฒนา...
ทำไมไม่บอกพระเอกแล้วให้จัดการกับนังนั่น...
โอน่อหยาก็รู้นี่นาว่านางเอกเป็นคู่หมั้นประธาน ทำไมยังกล้าใส่ร้ายหรือแปลกใจว่านางเอกยังมีคนหนุน...
เนื้อเรื่องยืดยาวววน่าเบื่อมาก วนไปมาไม่เข้าเรื่องสักทีอ่านจนไม่อยากอ่านต่อน่าเบื่อเกิน ไม่เข้าเรื่องพระเอกกับนางเอกสักที วนอยู่ที่เดิมจนไม่น่าติดตามเพราะน่าเบื่อ...