"สามปีมานี้คุณไปอยู่ที่ไหนมาผมตามหาคุณแทบพลิกแผ่นดินก็ยังหาคุณไม่เจอ" ป่ายฉีเอ่ยถามเย้นหว่าน
เย้นหว่านมองไปรอบๆ ส่งสัญญาณให้พนักงานลงไปข้างล่างให้หมด จากนั้นหันมาบอกกับป่ายฉี "เราไปนั่งกันเถอะ ดื่มไปคุยไป"
ก่อนหน้านี้เย้นหว่านโทรหาป่ายฉีก่อนแล้ว ป่ายฉีได้สั่งกาแฟโปรดของเธอเอาไว้ให้แล้ว
พนักงานลงไปด้านล่างทั้งหมดแล้ว ทั่วทั้งชั้นนั้นเงียบสงบ มีเพียงเย้นหว่านและป่ายฉี
เย้นหว่านนั่งลงตรงหน้าของเขา เอ่ยเบาๆ "ฉันถูกผู้ชายคนหนึ่งช่วยเอาไว้ ฉันไม่แน่ใจว่าอำนาจของเขามีมากขนาดไหน แต่คงจะมีอยู่บ้าง เขาเป็นเสือที่ซ่อนอยู่บนโลกใบนี้"
"เขารู้ความลับมากมายที่มีอยู่บนโลกใบนี้ ตอนนั้นเขาพาฉันไป ขังฉันไว้สามปี เพื่อปกป้องฉัน เขารู้ว่ามีคนต้องการชีวิตของฉัน ไม่อย่างนั้นฉันเองก็คงหนีไม่รอด"
"สามปีมานี้ เขาดีกับฉันมาก ฉันไม่ได้ลำบากเลยแม้แต่น้อย ตอนนี้ถึงเวลาที่เขาคิดว่าฉันโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว จึงให้ฉันกลับมาเมืองหนานตอนนี้"
ป่ายฉีขมวดคิ้ว "ผู้ชายคนนั้นเป็นใคร"
สามารถสืบใต้พรมของตระกูลเย้นและโห้หลีเฉินได้ อีกทั้งยังซ่อนเย้นหว่านเอาไว้ได้ถึงสามปี เขาไม่ปฏิเสธความสามารถของอีกฝ่ายเลยสักนิด
คนคนนี้ต้องเป็นคนที่เก่งกาจอีกคนหนึ่งอย่างแน่นอน
เย้นหว่านส่ายหน้า "ชื่อและฐานะของเขาฉันยังบอกตอนนี้ไม่ได้ ฉันสัญญากับเขาเอาไว้ ฉันรักษาสัญญา เขาปล่อยฉันออกมา ช่วยเหลือฉัน"
"คุณเชื่อใจเขามากเลยหรือ"
เย้นหว่านหายตัวไปไร้แม้เพียงเงาตลอดสามปี ป่ายฉีไม่แปลกใจที่มีคนซ่อนเย้นหว่านเอาไว้ แต่ที่เขาแปลกใจคือท่าทีของเย้นหว่านที่มีต่อคนคนนั้น
"ฉันเชื่อใจเขา" คำนี้ เย้นหว่านไม่ลังเลแม้แต่น้อย
ป่ายฉีมองเธอนิ่ง ดวงตาของเธอใส ไม่มีความรู้สึกไม่ยินยอมหรือถูกควบคุม จึงวางใจลงบ้าง
ห่างกันสามปี ได้มาเจอเย้นหว่านอีกครั้ง เขาดูออก เย้นหว่านไม่ใช่คนที่เฝ้ารอความช่วยเหลือ ใสซื่อไร้พิษภัยเหมือนแต่ก่อนแล้ว
ตอนนี้ดวงตาของเธอแหลมคม ไหล่บอบบางนั้นทว่าราวกับแบกโลกเอาไว้ทั้งใบ
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า เย้นหว่านเติบโตแล้ว
และการเติบโตแบบนี้ของเธอ ทำให้ป่ายฉีเชื่อในสิ่งที่เธอเชื่อ
เขาไม่ถามถึงเรื่องชายคนนั้นอีก "มีอะไรบอกผมได้ สิ่งที่คุณบอกผมได้ ก็บอกผม เรื่องอื่น สัญญาของคุณกับเขา ต้องรักษาความลับก็ไม่จำเป็นต้องพูด แต่ว่า เสี่ยวหว่าน คุณต้องจำเอาไว้ว่า ไม่ว่าอะไรก็ตาม ความปลอดภัยของคุณต้องมาก่อน"
เมื่อเอ่ยถึงสิ่งนี้ น้ำเสียงของป่ายฉีก็เข้มขึ้นมา "เรื่องที่เกิดขึ้นที่บ้านตระกูลหยูเมื่อสามปีก่อน จะเกิดขึ้นเป็นครั้งที่สองอีกไม่ได้"
ในใจของพวกเขา คนตระกูลเย้นใครจะเสียสละตัวเองก็ได้ ยกเว้นเย้นหว่านเพียงคนเดียว
แต่ว่า เมื่อสามปีก่อนเด็กคนนี้ เย้นหว่านเสียสละตนเองเพื่อช่วยพวกเขาทุกคน
เรื่องนี้ เป็นความเจ็บปวดที่ติดอยู่ในใจของคนตระกูลเย้นทุกคน
เย้นหว่านพยักหน้าเคร่งขรึม "รู้แล้วๆ ฉันไม่มีทางทำเรื่องแบบนั้นเป็นครั้งที่สองแน่นอน ฉันก็ไม่ได้ไม่กลัวตายขนาดนั้นซะหน่อย"
เรื่องแบบนี้ คงมีแค่เย้นหว่านเท่านั้น ที่ไม่จริงจังกับเรื่องนี้ และล้อเล้นกับมันได้
ป่ายฉีถอนหายใจ "วันนี้ที่คุณเรียกผมมา มีเรื่องสำคัญใช่ไหม"
สิ่งที่เอ่ยถึงในโทรศัพท์ เตือนเขาว่าโทรศัพท์ถูกดักฟัง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน
อืดอาด มีเรื่องคู่นั้นคู่นี้แทรกมาตลอด แล้วยังออกทะเลไปไม่รู้กี่รอบ วนอยู่แต่กับความโง่ของนางเอกและความปิดปังเพราะรักของพระเอก เฮ้อ ทนอ่านมาเพราะอยากรู้ตอนจบ แต่หงุดหงิกมาก...
ฝึกฝนตัวเองหาทางช่วยสามีมันก็ดี แต่ถึงขนาดทิ้งลูกให้คนอื่นดูแลนี่ไม่ไหว เลี้ยงเด็กยังไงให้เป็นแบบนี้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แถมเป็นภาระ ใช้ชีวิตโง่ ๆ มีศัตรูอยู่ แต่ไม่พาการ็ดไปด้วย พอลูกมีปัญหาที่รร. แทนที่จะเรียกสามี มาช่วยตั้งแต่แรก เสือกจะสู้เอง...
นางเอกอ้อนแอแถมโง่ แต่ก็ไม่ฟังพระเอก เสือกวิ่งไปวิ่งมาให้ถูกคนทำร้าย อ่านแล้วรำคาญ...
นางเอกโง่เง่าไม่มีการพัฒนา...
ทำไมไม่บอกพระเอกแล้วให้จัดการกับนังนั่น...
โอน่อหยาก็รู้นี่นาว่านางเอกเป็นคู่หมั้นประธาน ทำไมยังกล้าใส่ร้ายหรือแปลกใจว่านางเอกยังมีคนหนุน...
เนื้อเรื่องยืดยาวววน่าเบื่อมาก วนไปมาไม่เข้าเรื่องสักทีอ่านจนไม่อยากอ่านต่อน่าเบื่อเกิน ไม่เข้าเรื่องพระเอกกับนางเอกสักที วนอยู่ที่เดิมจนไม่น่าติดตามเพราะน่าเบื่อ...