เว่ยชีมองจากแววตาที่เด็ดขาดของเย้นหว่าน ว่าเรื่องนี้สำคัญมาก
เขาเงียบไปสักพัก จากนั้นก็หันหน้ากลับไป ตั้งใจเหมือนอยู่สนามรบ "ขอแค่เป็นเรื่องที่ผมทำได้ ผมจะพยายามช่วยคุณให้เต็มที่ครับ"
เย้นหว่านยิ้มแล้วตบบ่าเขาเบาๆ
"ไม่ต้องตื่นเต้นหรอก ไม่ได้จะส่งนายไปฆ่าใครสักหน่อย นายดูนี่สิ"
ว่าแล้ว เย้นหว่านก็เปิดหน้าระบบบริษัทให้เว่ยชีดูเอกสารลับต่างๆ
นอกจากเอกสารลับที่สำคัญของบริษัทแล้ว อำนาจสิทธิ์ที่สิง สามารถดูเอกสารในนั้นได้เยอะมาก ล้วนแต่เป็นเอกสารลับทั้งนั้น
เย้นหว่านไม่สนใจอะไรเลย เธอเชื่อใจเว่ยชีเต็มร้อย ให้เขาดูทั้งหมด
เว่ยชีตอบตกลงเย้นหว่าน เขาเป็นคนที่มีไหวพริบและฉลาดมาก ให้ดูอะไรก็ดู แถมยังดูอย่างตั้งใจด้วย เขาดูแล้วก็จดจำไว้ในหัว และวิเคราะห์มันอย่างรวดเร็ว
หลังจากที่ดูเนื้อหาส่วนหนึ่งแล้ว เย้นหว่านก็กระซิบถามเขาว่า "นายเห็นความผิดปกติไหม?"
ว่าแล้ว เย้นหว่านก็พูดเสริมอีกว่า "พูดเสียงเบาหน่อย อย่าให้โห้หลีเฉินได้ยิน"
เว่ยชีที่อยู่ในโหมดการทำงานก็เกือบพูดเสียงดังออกมา
เขากระตุกมุมปาก แล้วก็มองกล้องวงจรปิดบนหัวอย่างรู้สึกผิด จากนั้นก็จุดเทียนในใจตัวเองเงียบๆ
งานนี้อันตรายจริง ถ้าทำแล้วเขาอาจจะไม่ได้เจอตะวันของวันพรุ่งนี้อีกเลย
ขี่หลังเสือแล้วลงยาก เขาคงต้องขี่ต่อไป
เว่ยชีย้อนกลับมาในโหมดทำงานต่อ เขากระซิบตอบว่า:
"สถานการณ์ของบริษัทแปลกมาก ภายในเหมือนจะมีอำนาจหนึ่งที่ไม่อยู่ภายใต้การควบคุมของคุณผู้ชาย แต่ก็เหมือนอยู่ในภายใต้การควบคุมของคุณผู้ชาย"
เย้นหว่านยิ้มอย่างปลื้มใจ
สมแล้วที่เป็นเว่ยชี ผู้ช่วยสูงสุดที่โห้หลีเฉินเคยเอาไว้ข้างกาย ดูเอกสารแค่รอบเดียว ก็รู้แล้วว่าปัญหาอยู่ที่ไหน
เธอพูดต่อว่า "งั้นนายดูปัญหาของคนพวกนั้นออกไหม?"
เว่ยชีขมวดคิ้ว "ดูออกได้แค่ภาพรวม แต่ไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่ สถานการณ์ของบริษัทซับซ้อนมาก ถ้าจะคัดคนพวกนี้ออกมา คงต้องใช้เวลาระยะหนึ่ง"
"ไม่ต้องหรอก ฉันคัดเลือกออกมาส่วนใหญ่แล้ว"
เย้นหว่านคลิกเปิดวิดีโอการประชุมให้เว่ยชีดู
เว่ยชีดูแล้ว สีหน้าก็ตึงเครียดและเย็นชาขึ้นมา
"ผมรู้จักคนพวกนั้นแล้ว"
เขากำมือที่วางอยู่บนโต๊ะแน่น และเข้าใจแล้วว่าทำไมสองปีกว่ามานี้ คุณผู้ชายถึงปลดตำแหน่งเขาออก และไล่เขาออกไป
เขาคิดความเป็นไปได้หลายอย่าง และก็เคยคิดว่าคุณผู้ชายอาจจะอยากปกป้องเขา แต่พอมาวันนี้ ในที่สุดเขาก็ได้รู้คำตอบนั้นสักที
คุณผู้ชายกำลังปกป้องเขาจริงๆ
ถ้าสองปีก่อนเขายังอยู่บริษัทต่อ คนพวกนั้นคงลงมือกับเขาแน่ เขาอาจจะตายที่ไหนแล้วก็ไม่รู้
คนพวกนั้นต้องการทำลายบริษัท และต้องการคนของพวกเขาอยู่กับโห้หลีเฉิน เป็นผู้ช่วยสูงสุดหรือเลขาหลัก
เพื่อให้ง่ายต่อการควบคุมโห้หลีเฉิน ตอนที่พวกเขาจะทำลายบริษัท
และสองปีก่อนโห้หลีเฉินก็ไล่เว่ยชีออกไป นั่นก็หมายความว่า สองปีก่อนโห้หลีเฉินรู้เรื่องนี้ดี แต่เขากลับไม่ได้ห้ามปราม แถมยังปล่อยให้พวกนั้นทำตามใจชอบอีก
เว่ยชีคิดไม่ออกเลยว่า ทำไมโห้หลีเฉินถึงทำแบบนี้
"ผมเข้าใจช้าเกินไป สองปีมานี้คุณผู้ชายเผชิญหน้ากับอันตรายตัวคนเดียว ผมมันโง่มาก น่าจะกลับมาหาคุณผู้ชายเร็วกว่านี้"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน
อืดอาด มีเรื่องคู่นั้นคู่นี้แทรกมาตลอด แล้วยังออกทะเลไปไม่รู้กี่รอบ วนอยู่แต่กับความโง่ของนางเอกและความปิดปังเพราะรักของพระเอก เฮ้อ ทนอ่านมาเพราะอยากรู้ตอนจบ แต่หงุดหงิกมาก...
ฝึกฝนตัวเองหาทางช่วยสามีมันก็ดี แต่ถึงขนาดทิ้งลูกให้คนอื่นดูแลนี่ไม่ไหว เลี้ยงเด็กยังไงให้เป็นแบบนี้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แถมเป็นภาระ ใช้ชีวิตโง่ ๆ มีศัตรูอยู่ แต่ไม่พาการ็ดไปด้วย พอลูกมีปัญหาที่รร. แทนที่จะเรียกสามี มาช่วยตั้งแต่แรก เสือกจะสู้เอง...
นางเอกอ้อนแอแถมโง่ แต่ก็ไม่ฟังพระเอก เสือกวิ่งไปวิ่งมาให้ถูกคนทำร้าย อ่านแล้วรำคาญ...
นางเอกโง่เง่าไม่มีการพัฒนา...
ทำไมไม่บอกพระเอกแล้วให้จัดการกับนังนั่น...
โอน่อหยาก็รู้นี่นาว่านางเอกเป็นคู่หมั้นประธาน ทำไมยังกล้าใส่ร้ายหรือแปลกใจว่านางเอกยังมีคนหนุน...
เนื้อเรื่องยืดยาวววน่าเบื่อมาก วนไปมาไม่เข้าเรื่องสักทีอ่านจนไม่อยากอ่านต่อน่าเบื่อเกิน ไม่เข้าเรื่องพระเอกกับนางเอกสักที วนอยู่ที่เดิมจนไม่น่าติดตามเพราะน่าเบื่อ...