"ทำไมพวกคุณยังไม่ไปอีก? จงรักภักดีกับบริษัทตี้เหาจริงๆ"
สีหน้าของคนพวกนี้ดูแย่มาก พวกเขาต่างก็รู้สึกโกรธแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ พวกเขาพยายามจะใช้สายตาจดจ้องไปยังเย้นหว่าน
"อย่าคิดว่าการที่คุณใช้วิธีแบบนี้ แล้วจะทำให้บริษัทตี้เหาล่มสลายได้ ถ้าพวกเรายังอยู่ คุณก็อย่าหวังเลย!"
ในขณะที่พูด พวกเขาก็มองไปทางโห้หลีเฉิน
"ท่านประธาน ในเมื่อคุณพูดแล้วว่าเรื่องในที่ทำงานก็คือเรื่องในที่ทำงาน เรื่องส่วนตัวก็คือเรื่องส่วนตัว งั้นพวกเรามาคุยเรื่องในที่ทำงานกัน เย้นหว่านจงใจจะทำลายบริษัทตี้เหา และเรื่องนี้ก็มาถึงขนาดนี้แล้ว ซึ่งจะปล่อยให้เธออยู่ภายในบริษัทตี้เหาไม่ได้อีก จะต้องไล่เธอออกในทันที และหลังจากนี้ก็ห้ามเธอเข้ามาเหยียบในบริษัทตี้เหาแม้แต่ก้าวเดียว"
โห้หลีเฉินเม้มริมฝีปากแน่น บรรยากาศรอบตัวมีแต่ความอยากเยือกเย็นมากขึ้น
ไม่มีใครรู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ ต่างก็มองเห็นแค่ความโกรธเคือง
ยังไม่ทันที่เขาจะได้พูดอะไร เย้นหว่านก็ยิ้มออกมาอีกครั้ง ก่อนจะพูดจาถากถางมากขึ้นกว่าเดิม
"พวกคุณนี่โง่จังเลยนะ กลัวจะลืมกัน ว่าฉันเป็นตัวแทนของตระกูลเย้น และในมือ ก็ยังมีหุ้นส่วนรองลงมาจากโห้หลีเฉินแห่งบริษัทตี้เหา เป็นหุ้นส่วนใหญ่อันดับที่สอง พวกคุณมีสิทธิ์อะไรมาไล่ฉันออก ถ้าอยากจะไล่ฉันออกจริงๆ ก็ใช้ความสามารถสิ เอาหุ้นส่วนที่อยู่ในมือของฉันไปให้ได้ก่อนแล้วค่อยมาว่ากัน"
คำพูดนี้ทำให้คนกลุ่มนั้นพูดอะไรไม่ออก พวกเขาโกรธมากแต่ก็ไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้
"เย้นหว่าน ทำไมคุณถึงทำแบบนี้ การที่คุณทำแบบนี้ คุณเคยคิดบ้างไหมว่าคุณโห้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?" เก่อหรูซวนเดินขึ้นมาข้างหน้า และถามอย่างเยือกเย็น
ท่าทีของเธอ คือกำลังเรียกร้องความยุติธรรมให้กับโห้หลีเฉินเหรอ
แต่ในความเป็นจริง เธอกับโห้หลีเฉินยืนอยู่บนเส้นทางเดียวกัน
ในสถานการณ์ตอนนี้ มันก็เหมือนจะเป็นเช่นนี้ เย้นหว่านเป็นคนเลวที่ทำลายโห้หลีเฉิน และทำลายบริษัทตี้เหา
สิ่งนี้ทำให้เธอรู้สึกไม่พอใจมาก สายตาที่เธอมองไปยังเก่อหรูซวนมีความเกลียดชังเพิ่มมากขึ้น
เย้นหว่านพูดอย่างเย็นชา "คุณอยากรู้เหรอว่าทำไม? ฉันบอกคุณให้ก็ได้ เก่อหรูซวน คุณกล้าที่จะอยู่เคียงข้างผู้ชายของฉันเป็นเวลาสองปี ฉันคงปล่อยคุณไปไม่ได้ ตั้งแต่วันแรกที่ฉันกลับมา ฉันก็ขอให้ไล่เธอออกแล้ว"
"แต่เพราะว่าคุณรู้เรื่องของบริษัทมากเกินไป ถ้าโห้หลีเฉินไล่คุณออก บริษัทก็ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ เขามีเหตุผลขนาดนั้น ยังไงเขาก็ต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ของบริษัทก่อนอยู่แล้ว ก็เลยเก็บคุณไว้"
"แต่กับฉันมันไม่ใช่แบบนั้น ฉันเป็นผู้หญิง และพึ่งพาตระกูลเย้น ฉันมีเงินอยู่มากมาย ฉันไม่กลัวอะไรทั้งนั้น ในเมื่อเขากังวลว่าการที่ไล่คุณออก แล้วจะมีผลกระทบต่อการเคลื่อนย้ายของบริษัท งั้นฉัน ก็จะทำลายบริษัทตี้เหาเอง แล้วคุณก็จะไม่มีประโยชน์อะไรอีก"
เก่อหรูซวนตกใจมาก ทำไมเธอคิดไม่ถึงเลย ทำไมเย้นหว่านถึงกล้าพูดจาแบบนี้ต่อหน้าคนมากมาย
"คุณ คุณมันบ้าไปแล้ว"
คนอื่นๆต่างก็รู้สึกตกใจไม่แพ้กัน ทุกคนต่างก็คาดไม่ถึง การที่ทำให้บริษัทอยู่ในวิกฤตแบบนี้ ก็เป็นเพราะว่า ความหึงหวงของหญิงสาว
นี่มันเป็นเรื่องไร้สาระชัดๆ
แต่พวกเขากลับคิดว่ามันเป็นแบบนั้นด้วยความประหลาดใจ เพราะว่า เย้นหว่านที่กลับมาหลังจากสามปีที่ผ่านมา ได้ทำเรื่องราวต่างๆมากมาย ทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอทำมันเหมือนกับว่าเธอเป็นผู้หญิงบ้าคนหนึ่ง
ในบริษัท เธอก็ทำตัวเหมือนคนที่ไร้เหตุผล และคอยหาเรื่องและคอยรังแกเก่อหรูซวนอยู่ตลอดเวลา
"ยัยบ้า การที่คุณโห้แต่งงานกับคุณ ก็ถือว่าเขาซวยมากพอแล้ว"
ผู้คนมากมายต่างก็พากันด่าทอ ทุกคนต่างก็เกลียดเย้นหว่านมากๆ
เย้นหว่านไม่สนใจอะไรทั้งนั้น เธอเอาแต่ยิ้ม รอยยิ้มนั้นดูสง่างามและก็ดูโหดร้าย เธอก็เหมือนกับปีศาจที่ขึ้นมาจากนรก
"คุณโห้ คุณดูสิเย้นหว่านกลายเป็นแบบนี้ไปแล้ว ยังเป็นภรรยาที่คุณเคยรักอยู่อีกเหรอ? เธอบ้าไปแล้ว เธอเป็นโรคประสาท ถึงแม้ว่าเธอจะเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่อยู่ แต่การประชุมภายในบริษัทของเราก็จะไม่ให้เธอเข้าร่วมเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นเธอก็จะเอาข้อมูลในการประชุมของพวกเราไปให้กับทางตระกูลเย้น และมันจะทำให้ตระกูลเย้นโจมตีเราได้ง่ายขึ้น"
เก่อหรูซวนมองไปที่โห้หลีเฉินและพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น
ร่างสูงใหญ่ของโห้หลีเฉินยืนอยู่ตรงนั้น ร่างกายทั้งหมดของเขาก็เป็นเหมือนน้ำแข็งที่แช่แข็ง
หลังจากผ่านไปพักใหญ่ เขาก็ค่อยๆ หันกลับมา
นัยน์ตาของเขาแดงก่ำ เขามองตรงไปที่เย้นหว่าน แววตาของเขาดูลึกซึ้งมาก แล้วก็แอบแฝงไปด้วยความเจ็บปวด
เขาค่อยๆ เปิดปากพูด "เย้นหว่าน ถ้าคุณวางมือทุกอย่างในตอนนี้ ผมจะทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ดีไหม?"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน
อืดอาด มีเรื่องคู่นั้นคู่นี้แทรกมาตลอด แล้วยังออกทะเลไปไม่รู้กี่รอบ วนอยู่แต่กับความโง่ของนางเอกและความปิดปังเพราะรักของพระเอก เฮ้อ ทนอ่านมาเพราะอยากรู้ตอนจบ แต่หงุดหงิกมาก...
ฝึกฝนตัวเองหาทางช่วยสามีมันก็ดี แต่ถึงขนาดทิ้งลูกให้คนอื่นดูแลนี่ไม่ไหว เลี้ยงเด็กยังไงให้เป็นแบบนี้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แถมเป็นภาระ ใช้ชีวิตโง่ ๆ มีศัตรูอยู่ แต่ไม่พาการ็ดไปด้วย พอลูกมีปัญหาที่รร. แทนที่จะเรียกสามี มาช่วยตั้งแต่แรก เสือกจะสู้เอง...
นางเอกอ้อนแอแถมโง่ แต่ก็ไม่ฟังพระเอก เสือกวิ่งไปวิ่งมาให้ถูกคนทำร้าย อ่านแล้วรำคาญ...
นางเอกโง่เง่าไม่มีการพัฒนา...
ทำไมไม่บอกพระเอกแล้วให้จัดการกับนังนั่น...
โอน่อหยาก็รู้นี่นาว่านางเอกเป็นคู่หมั้นประธาน ทำไมยังกล้าใส่ร้ายหรือแปลกใจว่านางเอกยังมีคนหนุน...
เนื้อเรื่องยืดยาวววน่าเบื่อมาก วนไปมาไม่เข้าเรื่องสักทีอ่านจนไม่อยากอ่านต่อน่าเบื่อเกิน ไม่เข้าเรื่องพระเอกกับนางเอกสักที วนอยู่ที่เดิมจนไม่น่าติดตามเพราะน่าเบื่อ...