บทที่ 144 อย่างเช่น ดูหนัง
วางสายโทรศัพท์ เย้นซินรีบพุ่งไปด่าพนักงานรักษาความปลอดภัยอย่างได้ใจ
“เดี๋ยวพี่สาวฉันจะส่งคนออกมารับฉันแล้ว เชอะ พวกนายกล้าขวางฉัน กลับไปฉันจะให้คุณโห่ไล่พวกนายออกให้หมด”
สีหน้าของพนักงานรักษาความปลอดภัยยิ่งไม่ดีแล้ว มองท่าทางลำพองของเย้นซิน มีแต่อยากจะต่อยหล่อนตรงนี้สักรอบ
ไม่นานลั่วอานก็เดินออกมาแล้ว
เธอยิ้มทักทาย “สวัสดีค่ะ ฉันชื่อลั่วอาน คุณคือเย้นซินใช่มั้ย?”
มองเห็นลั่วอานอายุยังน้อย พอมองก็คือเด็กจบใหม่ไม่มีประสบการณ์ใดๆ สีหน้าของเย้นซินไม่ค่อยดูดี
หล่อนเอ่ยปากอย่างเรียบๆ “ฉันเอง”
“พี่เย้นหว่านให้ฉันออกมารับคุณ ตามฉันเข้าไปเถอะ”
เห็นท่าทีของเย้นซินไม่ดีนัก ความกระตือรือร้นของลั่วอานก็หดไปครึ่งใหญ่ชั่วพริบตา เพียงใช้ท่าทีสูตรนิยมที่สุดต่อหล่อน
โดยเฉพาะเธอเป็นผู้ช่วยไม่ต้องมาประจบใคร ท่าทีมีต่อใครเป็นอย่างไรบ้าง ต้องดูคนอื่นเป็นอย่างไรบ้างแล้ว
ชั่วขณะนั้นสีหน้าของเย้นซินยิ่งไม่ดีใหญ่ นี่เย้นหว่านอยากแสดงอำนาจให้หล่อนเห็นเหรอ? แม้แต่ส่งพนักงานเล็กๆ คนหนึ่งมา ยังกล้ามาชักสีหน้าใส่หล่อน
หล่อนโมโหอยากชี้หน้าด่าลั่วอานสักยก แต่นึกถึงเป้าหมายในคืนนี้ของหล่อนคือเข้าไปหาโห้หลีเฉิน คิดหาวิธีใกล้ชิดกับเขา และไม่สามารถมาเอะอะโวยวายทำเสียหน้าที่นี่ได้
หล่อนได้แต่อดกลั้นความโกรธ ตามลั่วอานเดินไปด้านใน
ตอนที่เดินมาถึงหน้าประตู เย้นซินยังมองพนักงานรักษาความปลอดภัยอย่างบ่นพิรี้พิไร แสดงออกด้วยความกระหยิ่มยิ้มย่องอย่างถึงอกถึงใจ
ก้าวร้าวที่สุด
พนักงานรักษาความปลอดภัยแต่ละคนทำหน้ามืดมน
คนคนนี้เป็นน้องสาวของเย้นหว่านจริงๆ แต่ว่านิสัยนี้ ความประพฤตินี้ ความจริงช่างแย่เหลือเกิน
คิดว่านิสัยเย้นหว่านคนนี้คงไม่ได้ดีไปถึงไหน……
คนแบบนี้ถ้าต้องเป็นคุณนายท่านประธานต่อไปของพวกเขา ทันใดนั้นก็ทำให้คนไม่ยอมรับอย่างมาก
เพราะการพบหน้าที่ไม่ราบรื่น เย้นซินจึงเดินเข้าไปโดยไม่ได้พูดอะไรกับลั่วอานตลอดทาง
ลั่วอานพาหล่อนไปที่สถานที่จัดงานเลี้ยง และกำชับอย่างทำไปตามหน้าที่
“คือที่นี่ค่ะ คุณสามารถเดินได้ตามสบาย ทานได้ตามชอบใจ มีอะไรต้องการสามารถเรียกฉันได้ ตอนงานเลี้ยงสิ้นสุด ฉันจะส่งคุณกลับไปเองค่ะ”
มองสถานที่จัดงานเลี้ยงที่เหลืองทองอร่าม หรูหรา บนหน้าเย้นซินเผยรอยยิ้มที่ตื่นเต้น
หล่อนพูดขึ้น “พี่เขยฉัน……พี่สาวฉันอยู่ที่ไหน?”
ลั่วอานมองหล่อนอย่างแปลกใจอยู่บ้าง ถึงตอบกลับ “พี่เย้นหว่านไม่อยู่ที่นี่”
“หา? ทำไมเขาไม่อยู่ที่นี่ เขายังมาไม่ถึง?”
เย้นซินประหลาดในพอสมควร ที่หล่อนยิ่งสนใจ เย้นหว่านไม่อยู่ไม่เป็นไร งั้นโห้หลีเฉินอยู่มั้ย?
ลั่วอานตอบด้วยน้ำเสียงเรียบๆ
“พี่เย้นหว่านออกไปเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อน เขาจะไม่เข้าร่วมงานเลี้ยงฉลองในคืนนี้”
“งั้น……คุณโห้ล่ะ?”
เย้นซินไม่สงบเท่าไรแล้ว รีบร้อนถามออกไป
ลั่วอานมองเย้นหว่านด้วยความแปลกใจ หล่อนเป็นแค่น้องสาวของเย้นหว่าน สนใจท่านประธานทำไม?
เนื่องจากมารยาทโดยพื้นฐาน ลั่วอานยังตอบไป “ท่านประธานเขาก็จะไม่เข้าร่วมงานเลี้ยงในคืนนี้เหมือนกัน”
เหมือนโดนน้ำเย็นราดลงมาบนศีรษะ ความกระตือรือร้นที่เต็มตัวของเย้นซินชั่วถูกดับมอดในพริบตาเดียว
หล่อนพยายามทุ่มเทตามาที่นี่ โห้หลีเฉินไม่อยู่ได้อย่างไรกัน?
สีหน้าของหล่อนยากลำบากเกินทนมาก “พวกเขาไปด้วยกันเหรอ?”
“ใช่ค่ะ”
เดิมทีลั่วอานไม่ควรพูด แต่พอเห็นปฏิกิริยาที่ไม่ค่อยสมเหตุสมผลของเย้นซินแบบนั้นเข้า ก็พูดออกมาแล้ว
พูดจบ เธอยังเสริมอีกประโยค “พวกเขาเหมือนว่าจะไปดูหนังกันแล้ว”
ทั้งสองคน ดูหนัง?
เย้นซินรู้สึกเพียงว่ามีเลือดอุดที่ลำคอ เกือบทำให้หล่อนสำลักตาย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน
อืดอาด มีเรื่องคู่นั้นคู่นี้แทรกมาตลอด แล้วยังออกทะเลไปไม่รู้กี่รอบ วนอยู่แต่กับความโง่ของนางเอกและความปิดปังเพราะรักของพระเอก เฮ้อ ทนอ่านมาเพราะอยากรู้ตอนจบ แต่หงุดหงิกมาก...
ฝึกฝนตัวเองหาทางช่วยสามีมันก็ดี แต่ถึงขนาดทิ้งลูกให้คนอื่นดูแลนี่ไม่ไหว เลี้ยงเด็กยังไงให้เป็นแบบนี้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แถมเป็นภาระ ใช้ชีวิตโง่ ๆ มีศัตรูอยู่ แต่ไม่พาการ็ดไปด้วย พอลูกมีปัญหาที่รร. แทนที่จะเรียกสามี มาช่วยตั้งแต่แรก เสือกจะสู้เอง...
นางเอกอ้อนแอแถมโง่ แต่ก็ไม่ฟังพระเอก เสือกวิ่งไปวิ่งมาให้ถูกคนทำร้าย อ่านแล้วรำคาญ...
นางเอกโง่เง่าไม่มีการพัฒนา...
ทำไมไม่บอกพระเอกแล้วให้จัดการกับนังนั่น...
โอน่อหยาก็รู้นี่นาว่านางเอกเป็นคู่หมั้นประธาน ทำไมยังกล้าใส่ร้ายหรือแปลกใจว่านางเอกยังมีคนหนุน...
เนื้อเรื่องยืดยาวววน่าเบื่อมาก วนไปมาไม่เข้าเรื่องสักทีอ่านจนไม่อยากอ่านต่อน่าเบื่อเกิน ไม่เข้าเรื่องพระเอกกับนางเอกสักที วนอยู่ที่เดิมจนไม่น่าติดตามเพราะน่าเบื่อ...