บทที่ 174 ถูกวางยา
เวลาสองทุ่ม
ตอนที่เย้นซินกลับมาถึง ประตูใหญ่ยังไม่ปิด เหมือนจงใจเปิดไว้รอเธอ
ปกติตอนที่เธอออกไปข้างนอก นอกจากเย้นหว่านมาเปิดให้แล้ว ประตูใหญ่ของบ้านจะไม่เปิดไว้รอเธอแบบนี้
แต่ช่วงนี้เย้นหว่านไม่ลงมาข้างล่าง ที่ประตูใหญ่ยังเปิดอยู่ ต้องเป็นฝีมือของโห้หลีเฉินแน่นอน
ถ้าเป็นช่วงปกติ เธอจะต้องซึ้งใจมากแน่ๆ แต่วันนี้ เธอกลับรู้สึกเสียใจมากๆ
ดูท่าทางที่โห้หลีเฉินเปิดประตูรอเธอ ก็เพื่อจะไล่ให้เธอออกไปจากที่นี่เร็วๆ
ผู้ชายคนนั้น แทบอยากจะไล่เธอไปจากที่นี่ทุกวินาที
แต่เย้นซินเป็นคนไม่ยอมแพ้ อยากจะไล่เธอไป เธอยิ่งไม่ยอมไป อีกทั้งยัง…
เธอลูบน้ำหอมที่เพิ่งซื้อมาในกระเป๋า ก่อนจะผลักประตูเข้าไปเบาๆ แล้วถือโอกาสตอนที่ห้องโถงไม่มีใคร รีบเดินเข้าห้องของตัวเองไปอย่างรวดเร็ว
แต่ตอนนี้เธอปิดประตูห้อง กลับจงใจทำให้เกิดเสียงขึ้นมา เพื่อให้ทุกคนในบ้านได้ยิน
แล้วก็เป็นไปตามที่คาด ไม่นาน โห้หลีเฉินก็เดินลงมาจากชั้นบนบ้าน
เขาเดินมาหยุดอยู่หน้าห้องของเย้นซิน แล้วเคาะประตูห้องเบาๆ
“ก๊อกๆ”
เขาเคาะประตูห้องสองที เสียงเคาะประตูเหมือนนิสัยของเขามาก ทั้งเด็ดขาดและเย็นชา
“มาแล้วค่ะ”
เสียงของเย้นซินดังออกมาอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้น เสียงเธอวิ่งมา และดูเหมือนจะรีบร้อนมากด้วย
แล้วตามมาด้วยเสียงเปิดประตู แกร๊ก ก่อนที่ประตูห้องจะเปิดออกมาจากข้างใน
“พี่คะ พี่มาหาฉัน…”
ยังพูดไม่ทันจบ เย้นซินก็มองโห้หลีเฉินที่ยืนอยู่หน้าประตูด้วยความตกใจ และนิ่งอึ้งไปเล็กน้อย
น้ำเสียงของเธอตะกุกตะกักขึ้นมาทันที “พี่ พี่เขย ทำไมถึงเป็นพี่เขยล่ะคะ พี่เขยมีธุระอะไรหรือเปล่าคะ”
เธอกำลังถอดเสื้อผ้าอยู่ ก็หยุดชะงักไป แต่ตรงส่วนที่เธอถอดออกไปครึ่งหนึ่ง ได้เผยออกมาหมดแล้ว
ตั้งแต่บนลงล่าง ส่วนเว้าส่วนโค้งที่น่าดึงดูดปรากฏในสายตาคนตรงหน้า
ทำให้โห้หลีเฉินมองเห็นเรือนร่างของเย้นซินอย่างช่วยไม่ได้
เย้นซินหยุดชะงักไป
บรรยากาศภายในห้อง หยุดนิ่งไป โห้หลีเฉินยังคงหน้านิ่งเฉย เหมือนไม่ได้เห็นอะไรเลย และยังคงมีสีหน้าเย็นชาเช่นเดิม
เขายังคงพูดถึงจุดประสงค์ที่เขามาหาเธอออกมา “คุณเตรียมเก็บกระเป๋าไว้ด้วย พรุ่งนี้…”
“ว๊าย”
ในเวลานี้เอง เย้นซินกลับกรีดร้องเสียงต่ำออกมา แล้วรีบดึงเสื้อลงมา เพื่อปกปิดร่างกายของตัวเองไว้
หน้าของเธอแดงก่ำ ตอนที่มองหน้าโห้หลีเฉินก็มีอาการเขินอายเล็กน้อย
“พี่ พี่เขยคะ ฉันไม่ได้ตั้งใจนะคะ… พี่ เอ่อฉัน…”
เธอทำสีหน้าลำบากใจ ก่อนจะรีบปิดประตูอย่างเขินอาย
พอประตูปิดลง สีหน้าของโห้หลีเฉินก็บึ้งตึง นี่ผู้หญิงคนนี้กล้าปิดประตูใส่หน้าเขาเลยเหรอ
นี่มันใจกล้าเกินไปแล้ว
แต่แค่สามวินาที เย้นซินก็เปิดประตูออกมาอีกครั้ง ด้วยสภาพที่ใส่เสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว
เธอหน้าแดงก่ำมองไปทางโห้หลีเฉิน “พี่เขยคะ เมื่อตะกี้ต้องขอโทษด้วยค่ะ ฉันนึกว่าคนที่มาหาเป็นพี่สาว ก็เลย…”
“ไม่เป็นไร”
โห้หลีเฉินไม่อยากพูดเรื่องนี้อีก สีหน้าของเขายังคงเฉยชาเช่นเดิม
สำหรับเขาแล้ว ที่เห็นเมื่อตะกี้ ก็แค่ก้อนเนื้อทั่วไปเท่านั้นเอง อีกทั้งยังใส่เสื้อชั้นในอยู่ด้วย
ในสายตาของเขา นอกจากเย้นหว่านแล้ว ผู้หญิงคนอื่นถึงแม้จะไม่ใส่เสื้อผ้า ก็ไม่สามารถทำให้เขาสนใจได้
เย้นซินมองผู้ชายตรงหน้าด้วยสายตาระยิบระยับ พอเห็นสีหน้าของเขายังคงเย็นชาไร้ความรู้สึก ก็รู้ทันทีว่าที่เธอใช้แผนแก้ผ้าโชว์ก่อนหน้านี้ ใช้ไม่ได้ผลเลยสักนิด
ไม่ว่าจะใช้ความสวย หรือว่าจะยั่วยวน รวมถึงแก้ผ้าโชว์ ก็ใช้ไม่ได้ผลกับเขาเลยแม้แต่น้อย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน
อืดอาด มีเรื่องคู่นั้นคู่นี้แทรกมาตลอด แล้วยังออกทะเลไปไม่รู้กี่รอบ วนอยู่แต่กับความโง่ของนางเอกและความปิดปังเพราะรักของพระเอก เฮ้อ ทนอ่านมาเพราะอยากรู้ตอนจบ แต่หงุดหงิกมาก...
ฝึกฝนตัวเองหาทางช่วยสามีมันก็ดี แต่ถึงขนาดทิ้งลูกให้คนอื่นดูแลนี่ไม่ไหว เลี้ยงเด็กยังไงให้เป็นแบบนี้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แถมเป็นภาระ ใช้ชีวิตโง่ ๆ มีศัตรูอยู่ แต่ไม่พาการ็ดไปด้วย พอลูกมีปัญหาที่รร. แทนที่จะเรียกสามี มาช่วยตั้งแต่แรก เสือกจะสู้เอง...
นางเอกอ้อนแอแถมโง่ แต่ก็ไม่ฟังพระเอก เสือกวิ่งไปวิ่งมาให้ถูกคนทำร้าย อ่านแล้วรำคาญ...
นางเอกโง่เง่าไม่มีการพัฒนา...
ทำไมไม่บอกพระเอกแล้วให้จัดการกับนังนั่น...
โอน่อหยาก็รู้นี่นาว่านางเอกเป็นคู่หมั้นประธาน ทำไมยังกล้าใส่ร้ายหรือแปลกใจว่านางเอกยังมีคนหนุน...
เนื้อเรื่องยืดยาวววน่าเบื่อมาก วนไปมาไม่เข้าเรื่องสักทีอ่านจนไม่อยากอ่านต่อน่าเบื่อเกิน ไม่เข้าเรื่องพระเอกกับนางเอกสักที วนอยู่ที่เดิมจนไม่น่าติดตามเพราะน่าเบื่อ...