บทที่ 188 ใครเป็นคู่ควงของใคร
อีกฝ่ายเห็นว่าโห้หลีเฉินดื่มไวน์ในแก้วจนหมด คิดว่าโห้หลีเฉินไว้หน้าให้เขา จึงรู้สึกตกใจมาก ก่อนจะรีบดื่มไวน์ในแก้วของตัวเองจนหมดตามไปด้วย
พอดื่มหมด เขาก็ยิ้มกว้างแล้วพูด “คุณโห้ครับ ผมคือประธานบริษัทบริษัทคีรี่ ถ้ามีโอกาส พวกเราไปตีกอล์ฟ แล้วไปกินข้าวด้วยกันบ้าง คุณคิดว่ายังไงครับ”
“ไม่มีเวลา”
โห้หลีเฉินตอบกลับห้วนๆ ไม่ไว้หน้าให้อีกฝ่ายแม้แต่น้อย
ชายสูงวัยสีหน้ามึนงง และตกใจมาก
นี่มันอะไรกัน เมื่อตะกี้คุณโห้ยังดื่มไวน์จนหมดแก้วอยู่เลย พูดได้ว่าไว้หน้าให้เขามาก แต่ยังไม่ถึงสามวินาที กลับเปลี่ยนไปแบบนี้
มู่หรุงชิ่นยิ้มละไมอย่างอ่อนหวาน ก่อนจะพูด “ต้องขอโทษด้วยนะคะ ปกติเฉินเขาจะงานยุ่งมาก คุณให้นามบัตรไว้ก็ได้ค่ะ ถ้ามีเวลาเราจะติดต่อกลับไปทีหลังนะคะ”
ชายสูงวัยรู้สึกได้รับคำปลอบใจเล็กน้อย จึงยิ้มออกมา แล้วยื่นนามบัตรให้มู่หรุงชิ่น
หลังจากที่มู่หรุงชิ่นรับนามบัตรแล้ว เธอก็เปลี่ยนไวน์แก้วใหม่ แล้วยื่นให้โห้หลีเฉินอีกครั้ง
เธอยืนอยู่ข้างๆเขา คอยช่วยเหลือเขาอย่างใกล้ชิด
เย้นหว่านที่รีบมาร่วมงาน พอเดินเข้ามาในงาน ก็เห็นภาพนี้ทันที
ภายในงานเลี้ยง มีบรรดาไฮโซทั้งชายและหญิงปะปนกันไปหมด แต่โห้หลีเฉินก็ยังโดดเด่นกว่าใคร ทำให้สามารถมองเห็นเขาได้ตั้งแต่แรก
และมู่หรุงชิ่นที่ยืนอยู่ข้างๆเขาก็งดงามมาก เธอใส่ชุดราตรีสีแดงราวกับเปลวไฟ ถึงแม้จะยืนอยู่ข้างๆโห้หลีเฉิน เธอก็มีรัศมีไม่แพ้กันเลย
แต่กลับทำให้รู้สึกว่า ทั้งคู่เหมาะสมกันมาก ผู้ชายก็หล่อผู้หญิงก็สวย
มู่หรุงชิ่นช่วยโห้หลีเฉินเก็บนามบัตรไว้ ก่อนจะช่วยเขาเปลี่ยนแก้วไวน์ใหม่ แล้วคอยดูแลอย่างใกล้ชิด เหมือนเป็นคู่ควงของเขา และอาจจะสนิทสนมกันมากกว่าคู่ควงด้วยซ้ำ
เย้นหว่านยืนตะลึง มองพวกเขาทั้งสองคน ในใจรู้สึกหนาวเหน็บ
ในขณะนั้นเอง มู่หรุงชิ่นก็มองมาทางเธอ แล้วยกยิ้มเยาะเย้ย มู่หรุงชิ่นแสยะยิ้มท้าทาย เหมือนเป็นผู้ชนะ
ชุดราตรีสีแดงที่เธอใส่ เหมือนไฟที่กำลังแผดเผาดวงตาของเย้นหว่านอยู่
พอก้มลงมองชุดราตรีสีแดงที่ตัวเองใส่อยู่ มันช่างแทงใจดำจริงๆ
ชุดราตรีสีแดงเหมือนกัน และดูเหมือนจะออกแบบมาจากที่เดียวกันด้วย
แต่มู่หรุงชิ่นกลับเหมือนเจ้าหญิงที่กำลังคล้องแขนโห้หลีเฉินไว้ ส่วนเธอ กลับยืนอยู่ตรงประตูเป็นซินเดอเรลล่าที่ไม่มีคนสนใจ
เมื่อเทียบกันแล้ว เธอพ่ายแพ้อย่าย่อยยับเลยทีเดียว
เย้นหว่านจับกระเป๋าแน่น พอสัมผัสโดนกล่องของขวัญที่อยู่ในกระเป๋า เธอรู้สึกเหมือนถูกของแหลมแทงลงกลางใจ
ที่จริงแล้วเขาไม่ได้ต้องการของขวัญจากเธอเลย ถึงแม้เธอจะต้องวิ่งหาไปทั่วเพื่อเขาก็ตาม และเขาไม่จำเป็นต้องให้เธอเป็นคู่ควงมางานด้วยเลย เพราะถึงเธอจะไม่มา ก็มีคนพร้อมจะทำหน้าที่นั้นอยู่แล้ว
ในตอนนี้เย้นหว่านเพิ่งจะรู้สึกตัว ว่าตัวตนของเธอจะมีหรือไม่มีก็ได้
“เอ๊ะ นี่มันเย้นหว่านไม่ใช่เหรอ ทำไมเพิ่งจะมาตอนนี้ล่ะ หรือเพิ่งจะได้ข่าวว่าคืนนี้เป็นงานเลี้ยงฉลองวันเกิดของคุณโห้”
ผู้หญิงสองสามคนที่ยืนอยู่ด้านข้าง พอเห็นสีหน้าตกตะลึงของเย้นหว่าน ก็เริ่มพูดแขวะทันที
“น่าจะเพิ่งรู้ข่าว คุณโห้ต้องไม่ได้เชิญเธอมาร่วมงานด้วยแน่ๆเลย”
“แน่นอนสิ คืนนี้มู่หรุงชิ่นแต่งตัวมาอย่างหรูหรา เพราะเป็นคู่ควงของคุณโห้เลยนะ ไม่มีที่ยืนของเย้นหว่านหรอก”
“พวกเธอดูสิ เธอยังใส่ชุดราตรีสีแดงด้วย ดูเหมือนชุดที่มู่หรุงชิ่นใส่อยู่เลย นี่เธอคิดจะแข่งกับมู่หรุงชิ่นอย่างนั้นเหรอ เหอะๆ ช่างไม่เจียมตัวเอาซะเลย ดอกไม้ป่าจะมาเทียบกับดอกกุหลาบได้ยังไงกัน”
“น่าขายหน้าจริงๆเลย ถ้าเป็นฉันคงไม่กล้ามาร่วมงานแล้วล่ะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน
อืดอาด มีเรื่องคู่นั้นคู่นี้แทรกมาตลอด แล้วยังออกทะเลไปไม่รู้กี่รอบ วนอยู่แต่กับความโง่ของนางเอกและความปิดปังเพราะรักของพระเอก เฮ้อ ทนอ่านมาเพราะอยากรู้ตอนจบ แต่หงุดหงิกมาก...
ฝึกฝนตัวเองหาทางช่วยสามีมันก็ดี แต่ถึงขนาดทิ้งลูกให้คนอื่นดูแลนี่ไม่ไหว เลี้ยงเด็กยังไงให้เป็นแบบนี้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แถมเป็นภาระ ใช้ชีวิตโง่ ๆ มีศัตรูอยู่ แต่ไม่พาการ็ดไปด้วย พอลูกมีปัญหาที่รร. แทนที่จะเรียกสามี มาช่วยตั้งแต่แรก เสือกจะสู้เอง...
นางเอกอ้อนแอแถมโง่ แต่ก็ไม่ฟังพระเอก เสือกวิ่งไปวิ่งมาให้ถูกคนทำร้าย อ่านแล้วรำคาญ...
นางเอกโง่เง่าไม่มีการพัฒนา...
ทำไมไม่บอกพระเอกแล้วให้จัดการกับนังนั่น...
โอน่อหยาก็รู้นี่นาว่านางเอกเป็นคู่หมั้นประธาน ทำไมยังกล้าใส่ร้ายหรือแปลกใจว่านางเอกยังมีคนหนุน...
เนื้อเรื่องยืดยาวววน่าเบื่อมาก วนไปมาไม่เข้าเรื่องสักทีอ่านจนไม่อยากอ่านต่อน่าเบื่อเกิน ไม่เข้าเรื่องพระเอกกับนางเอกสักที วนอยู่ที่เดิมจนไม่น่าติดตามเพราะน่าเบื่อ...