บทที่ 196 แฟนหนุ่มผู้สมบูรณ์แบบ
“ธุระอะไรครับ”โห้หลีเฉินถาม
มันไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร เย้นหว่านจึงพูดออกมาตรงๆ “เมื่อวานกู้จื่อเฟยเข้าโรงพยาบาลค่ะ วันนี้ฉันจะไปเยี่ยมเธอที่โรงพยาบาล”
เข้าโรงพยาบาลเมื่อวานเหรอ
โห้หลีเฉินนิ่งคิด เหมือนฉันนึกอะไรขึ้นมาได้ เขาถามเสียงต่ำ “ที่คุณออกไปข้างนอกเมื่อวาน เพราะเรื่องของกู้จื่อเฟยหรือเปล่า”
พอพูดถึงเรื่องนี้ เย้นหว่านก็รู้สึกผิดมาก
เธอรีบพูดอธิบาย “ใช่ค่ะ เมื่อวานตอนบ่ายเธอไส้ติ่งอักเสบกะทันหัน ข้างกายไม่มีใคร ฉันก็เลยต้องไปดูแลเธอแทน เมื่อว่านฉันตั้งใจจะขึ้นมาบอกคุณก่อน แต่ว่าคุณกำลังประชุมงานอยู่ ไม่รับโทรศัพท์ของฉัน ดังนั้น ฉันก็เลย…” ต้องออกไปก่อน
เธอรู้ว่าเขากำลังนั่งประชุมอยู่ นั่นก็หมายความว่า เมื่อวานเธอเคยขึ้นมาหาเธอ
โห้หลีเฉินรู้สึกอบอุ่นใจ สายตาของเขาลึกซึ้งและมีเสน่ห์มากขึ้น
เขายื่นมือขึ้นมาโอบไหล่เธอไว้ แล้วเดินตรงไปที่รถ “ผมไปเป็นเพื่อนครับ”
“อะไรนะคะ”
เย้นหว่านมองหน้าโห้หลีเฉินอย่างตกตะลึง เหมือนตัวเองฟังผิดไป
ถึงแม้โห้หลีเฉินกับเธอจะมาทำงานและเลิกงานพร้อมกันทุกวัน แต่เธอก็เข้าใจดี ว่าผู้ชายคนนี้งานยุ่งมากแค่ไหน อีกทั้งยังไม่ไว้หน้าใครหน้าไหน นอกจากงานเลี้ยงสำคัญ หรือนัดกินข้าวที่สำคัญเขาถึงจะไปร่วมงาน ส่วนคนอื่นๆ เขาไม่ไว้หน้าให้ใครเลย
ที่สำคัญ กู้จื่อเฟยเป็นเพื่อนของเย้นหว่าน ไม่มีความเกี่ยวข้องกับโห้หลีเฉินเลย เธอคิดไม่ถึงเลยว่าโห้หลีเฉินจะยอมไปกับเธอด้วย
โห้หลีเฉินโอบเย้นหว่านไว้ แล้วถามเสี่ยงต่ำ “ไม่อยากให้ผมไปด้วยเหรอ”
“ไม่ใช่นะคะ…”
เย้นหว่านรีบส่ายหน้า ยังไม่ทันจะได้พูดอะไรมาก เธอเห็นโห้หลีเฉินยิ้มออกมา
เขาพูดเสียงต่ำ “งั้นไปกันเถอะครับ”
เย้นหว่านถูกพาขึ้นรถ ท่าทางของเธอยังมึนงงอยู่เลย
โห้หลีเฉินจะไปเยี่ยมกู้จื่อเฟยพร้อมกับเธอจริงๆเหรอ
คนที่ตกในมากกว่าเย้นหว่านก็คือ เว่ยชีที่ยืนอยู่ข้างๆ
เขาขับรถไปด้วยวางแผนงานในใจไปด้วย เดิมทีหลังจากเจ้านายกลับบ้าน กินข้าวเย็นพร้อมกับเย้นหว่านเสร็จ ก็จะเริ่มประชุมทางวิดีโอกันต่อ
ตอนนี้ การประชุมทางวิดีโอคงจะต้องเลื่อนเวลาออกไปอีก และไม่รู้ว่าจะต้องเลื่อนไปนานแค่ไหนด้วย…
เว่ยชีมองผู้ชายที่นั่งนิ่งอยู่ที่เบาะหลังรถผ่านกระจก เหนื่อยใจจนไม่รู้ว่าจะพูดยังไงดี
เจ้านายมีความรักส่วนมีความรัก แต่ช่วยคำนึงถึงความยากลำบากของผู้ช่วยอย่างเขาบ้างจะได้ไหม ตารางงานเปลี่ยนแปลงไปหมด จนไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงแล้ว
จะไปเยี่ยมคนป่วย ต้องเตรียมของเยี่ยมไข้อีก
ถึงแม้โห้หลีเฉินจะยิ่งใหญ่ ไม่ยุ่งเกี่ยวเรื่องทั่วไป แต่เรื่องมารยาทเขากลับทำได้ดีมาก
ตอนที่เย้นหว่านมาถึงหน้าประตูโรงพยาบาล ก็มีเลขาถือกระเช้าเยี่ยมไข้ยืนรอแล้ว
“คุณโห้ครับ ผมได้ซื้อของตามที่คุณสั่งเรียบร้อยแล้วครับ ทั้งหมดนี้ล้วนแต่เป็นของบำรุงร่างกาย เหมาะสำหรับผู้หญิงมากด้วยครับ”
“อืม”
โห้หลีเฉินตอบกลับหนึ่งคำ เว่ยชีรีบเดินเข้ามา แล้วรับของเยี่ยมไข้ทั้งหมดมาจับไว้
เย้นหว่านยืนมองของเยี่ยมไข้ทั้งหมด เห็นมีอยู่หลายแบรนด์ จึงรู้ว่าของพวกนี้ต้องแพงมากแน่ๆ
เธอตกใจ และเริ่มทำตัวไม่ถูก “คุณโห้คะ ที่จริงแล้วฉันแค่มาดูอาการของจื่อเฟย ฉันซื้อของเยี่ยมไข้เองก็ได้ค่ะ คุณไม่ต้องเสียเงินเลย”
เดิมทีเธอก็คิดไว้ว่าลงจากรถแล้วจะเดินไปซื้อของบำรุงเล็กน้อย แต่ตอนนี้โห้หลีเฉินกลับเตรียมของบำรุงราคาแพงสารพัดอย่าง จนเธอรู้สึกรู้สึกไม่ดี
โห้หลีเฉินยื่นมือออกมาดึงเย้นหว่านเข้าไปกอด ก่อนจะพูดออกมาด้วยสีหน้านิ่ง “ผมซื้อก็คือคุณซื้อ คุณไม่จำเป็นต้องแบ่งกันชัดเจนถึงขนาดนี้”
เย้นหว่านชะงักงัน เธอรู้สึกเหมือนโดนไฟฟ้าช็อต ใจของเธอเต้นแรงมาก
เขาซื้อก็เหมือนเธอซื้ออะไรกัน
เขาพูดได้เป็นปกติแบบนี้ เหมือนเธอกับเขาเป็นคนในครอบครัวเดียวกันอย่างนั้นแหละ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน
อืดอาด มีเรื่องคู่นั้นคู่นี้แทรกมาตลอด แล้วยังออกทะเลไปไม่รู้กี่รอบ วนอยู่แต่กับความโง่ของนางเอกและความปิดปังเพราะรักของพระเอก เฮ้อ ทนอ่านมาเพราะอยากรู้ตอนจบ แต่หงุดหงิกมาก...
ฝึกฝนตัวเองหาทางช่วยสามีมันก็ดี แต่ถึงขนาดทิ้งลูกให้คนอื่นดูแลนี่ไม่ไหว เลี้ยงเด็กยังไงให้เป็นแบบนี้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แถมเป็นภาระ ใช้ชีวิตโง่ ๆ มีศัตรูอยู่ แต่ไม่พาการ็ดไปด้วย พอลูกมีปัญหาที่รร. แทนที่จะเรียกสามี มาช่วยตั้งแต่แรก เสือกจะสู้เอง...
นางเอกอ้อนแอแถมโง่ แต่ก็ไม่ฟังพระเอก เสือกวิ่งไปวิ่งมาให้ถูกคนทำร้าย อ่านแล้วรำคาญ...
นางเอกโง่เง่าไม่มีการพัฒนา...
ทำไมไม่บอกพระเอกแล้วให้จัดการกับนังนั่น...
โอน่อหยาก็รู้นี่นาว่านางเอกเป็นคู่หมั้นประธาน ทำไมยังกล้าใส่ร้ายหรือแปลกใจว่านางเอกยังมีคนหนุน...
เนื้อเรื่องยืดยาวววน่าเบื่อมาก วนไปมาไม่เข้าเรื่องสักทีอ่านจนไม่อยากอ่านต่อน่าเบื่อเกิน ไม่เข้าเรื่องพระเอกกับนางเอกสักที วนอยู่ที่เดิมจนไม่น่าติดตามเพราะน่าเบื่อ...