บทที่ 199 แอบหนีไป
เย้นหว่านหว่านลุกขึ้นยืน เธอรู้สึกเหมือนโดนน้ำเย็นราดหน้า ทำให้เธอรู้สึกอับอายมาก
เฝิงเสวียนหลันมองสีหน้าซีดเผือดของเย้นหว่าน แล้วยิ้มออกมาอย่างได้ใจ
น้ำเสียงของเธออ่อนลงเล็กน้อย แล้วถอนหายใจอย่างเป็นผู้ใหญ่ “เสี่ยวหว่าน ป้าเองก็ไม่ได้อยากทำให้เธอลำบากใจ แต่ความจริงมันคือแบบนี้ เธอเองก็ควรจะรู้ตัวเอง ว่าฐานะอย่างเธอ ไม่คู่ควรกับโห้หลีเฉินเลย”
ความไม่ชอบใจของเฝิงเสวียนหลันแสดงออกมาอย่างชัดเจน ถึงแม้เย้นหว่านจะชัดเจนเรื่องนี้มาก แต่หัวใจของเธอก็เจ็บปวดมาก เจ็บจนไม่มีแรงพูดโต้กลับ
ระหว่างเธอกับโห้หลีเฉิน มันไม่คู่ควรกันมาตั้งแต่แรกแล้ว
ถึงแม้จะมีหญิงสาวธรรมดาแต่งเข้าตระกูลดังเป็นตัวอย่างไม่น้อย แต่ระหว่างเธอกับโห้หลีเฉิน ไม่ได้รักกันจริงเหมือนคู่อื่น…
เธอกับเขา แม้แต่ความรู้สึกยังเคลียร์กันไม่ชัดเลย
โห้หลีเฉินเดินออกมาจากห้องของจูเหลียนอีง แล้วเดินไปที่ห้องโถง เขาเห็นเย้นหว่านนั่งอยู่บนโซฟาคนเดียว สีหน้าของเธอเหม่อลอย เหมือนกำลังคิดอะไรออยู่
“กำลังคิดอะไรออยู่ครับ”
โห้หลีเฉินเดินเข้าไปหา แล้วดึงเธอเข้ามากอดไว้อย่างเป็นธรรมชาติ
เย้นหว่านสะดุ้งอย่างแรง พอเห็นเขา เธอก็รีบดิ้นออกมาจากอ้อมกอดของเขา แล้วลุกขึ้นหนีไปหลายเมตร
โห้หลีเฉินย่นคิ้ว
พอรู้สึกตัวว่าตัวเองมีปฏิกิริยารุนแรงเกินไป เย้นหว่านจึงตกใจ แล้วรีบพูดแก้ตัว “คุยธุระเสร็จแล้วเหรอคะ งั้นพวกเรากลับกันเถอะค่ะ ดึกมากแล้ว”
พอพูดจบ เธอก็ไม่รอให้โห้หลีเฉินตอบ รีบเดินออกไปข้างนอกรอทันที
โห้หลีเฉินมองตามแผ่นหลังของเย้นหว่านไป เขาเม้มปาก รู้สึกกังวลใจเล็กน้อย
ผู้หญิงคนนี้เป็นอะไรไป
เขาก้าวเดินตามออกไป
พอขึ้นไปนั่งบนรถ เย้นหว่านก็นั่งตรงที่นั่งข้างคนขับอย่างเชื่อฟัง แล้วหันหน้าออกไปทางหน้าต่าง ทำตัวเหมือนปกติไม่มีความแตกต่างอะไร แต่บรรยากาศรอบตัวเธอกลับผิดปกติมาก
แววตาของโห้หลีเฉินมองมาที่เธอตลอด และเห็นอารมณ์ของเธออย่างชัดเจน
หลังจากกินข้าวเสร็จ เย้นหว่านก็มีท่าทีไม่ค่อยดี อาจจะเป็นเพราะเรื่องกำหนดแต่งงาน แล้วต้องเจอหน้ากับพ่อแม่เธอ
เหตุการณ์ในคืนนั้น โห้หลีเฉินรู้ดี
หลังจากวันนั้น พ่อแม่ตระกูลเย้นเพื่อปลอบใจเย้นซิน ทั้งสองจึงไม่ติดต่อมาหาเย้นหว่าน และไม่มีแม้แต่คำพูดปลอบใจให้เธอเลย
ผ่านไปหลายวัน เดิมทีความสัมพันธ์ก็อ่อนไหวมากอยู่แล้ว ทำให้เย้นหว่านรู้สึกห่างเหินจากบ้านไปเรื่อยๆ
ในสถานการณ์แบบนี้ เธอเองก็ไม่รู้ว่าจะเผชิญหน้ากับทั้งสองคนยังไงดีเหมือนกัน
ที่จริงแล้วสำหรับโห้หลีเฉินแล้ว แค่มีเธออยู่เคียงข้าง แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว เพราะเขาจะเป็นคนสร้างครอบครัวใหม่ให้เธอเอง ครอบครัวที่มีความสุขที่สุด
แต่ว่า เขาเองก็ไม่อยากให้เธอต้องเสียใจทีหลัง
“เย้นหว่าน เรื่องทางบ้านของคุณผมจะจัดการให้คุณเอง”
น้ำเสียงแหบทุ้มของเขาพูดขึ้นมา ทำให้คนฟังรู้สึกสบายใจ
เย้นหว่านมองไปนอกหน้าต่าง ใจสั่นอย่างแรง
เขาดีกับเธอ คอยเอาใจใส่เธอ ดูแลความรู้สึกของเธออย่างดี และเรื่องทุกอย่างของเธอ
เธออยากจะถามเขามาก ว่าที่ดีกับเธอถึงขนาดนี้ เพราะเขาชอบเธอหรือเปล่า
แต่คำพูดมันติดอยู่ตรงลิ้นปี่ ไม่กล้าพูดออกมา
เธอสับสนใจมาก ไม่แน่ใจ ว่าหลังจากได้ยินคำตอบของโห้หลีเฉินแล้ว เธอควรจะตัดสินใจยังไง จะเลือกยังไง
ปฏิเสธก็ไม่ได้เลยว่า โห้หลีเฉินเป็นผู้ชายที่สมบูรณ์แบบมาก ถ้าหากได้แต่งกับเขา ถ้าหากได้รับความเอาใจใส่ของเขา เธอคงกลายเป็นผู้หญิงที่มีความสุขอย่างน่าอิจฉาเลยทีเดียว
แต่ระหว่างพวกเธอ ก็มีอุปสรรคความเป็นไปไม่ได้อยู่เยอะมาก
เธอเป็นแค่เด็กกำพร้า ไม่มีฐานะ ได้แต่งานกับโห้หลีเฉินผู้ยิ่งใหญ่ จะต้องถูกคนกล่าวหานินทาไม่น้อยเลยทีเดียว
แล้วอีกอย่าง เขาสมบูรณ์แบบถึงขนาดนั้น เธอเป็นแค่คนธรรมดา เขาจะมาชอบเธอได้ยังไงกัน อีกทั้ง เธอยังมีอดีตที่ไม่น่าจดจำอยู่ด้วย…
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน
อืดอาด มีเรื่องคู่นั้นคู่นี้แทรกมาตลอด แล้วยังออกทะเลไปไม่รู้กี่รอบ วนอยู่แต่กับความโง่ของนางเอกและความปิดปังเพราะรักของพระเอก เฮ้อ ทนอ่านมาเพราะอยากรู้ตอนจบ แต่หงุดหงิกมาก...
ฝึกฝนตัวเองหาทางช่วยสามีมันก็ดี แต่ถึงขนาดทิ้งลูกให้คนอื่นดูแลนี่ไม่ไหว เลี้ยงเด็กยังไงให้เป็นแบบนี้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แถมเป็นภาระ ใช้ชีวิตโง่ ๆ มีศัตรูอยู่ แต่ไม่พาการ็ดไปด้วย พอลูกมีปัญหาที่รร. แทนที่จะเรียกสามี มาช่วยตั้งแต่แรก เสือกจะสู้เอง...
นางเอกอ้อนแอแถมโง่ แต่ก็ไม่ฟังพระเอก เสือกวิ่งไปวิ่งมาให้ถูกคนทำร้าย อ่านแล้วรำคาญ...
นางเอกโง่เง่าไม่มีการพัฒนา...
ทำไมไม่บอกพระเอกแล้วให้จัดการกับนังนั่น...
โอน่อหยาก็รู้นี่นาว่านางเอกเป็นคู่หมั้นประธาน ทำไมยังกล้าใส่ร้ายหรือแปลกใจว่านางเอกยังมีคนหนุน...
เนื้อเรื่องยืดยาวววน่าเบื่อมาก วนไปมาไม่เข้าเรื่องสักทีอ่านจนไม่อยากอ่านต่อน่าเบื่อเกิน ไม่เข้าเรื่องพระเอกกับนางเอกสักที วนอยู่ที่เดิมจนไม่น่าติดตามเพราะน่าเบื่อ...