บทที่ 202 ไม่ทันระวัง
เย้นหว่านที่ไม่ทันระวังจึงเดินชนเข้ากับหลังของคนที่อยู่ด้านหน้า
“เกิดอะไรขึ้นเหรอ?”
เย้นหว่านรู้สึกไม่สบายใจ จึงได้เดินออกไปด้านหน้าของคนที่อยู่ตรงหน้า เพื่อเดินออกไปสองก้าวก็เจอคนที่อยู่เหนือความคาดหมายที่กำลังยืนอยู่ตรงหน้า
เจอเข้ากับชายคนหนึ่งที่ตัวสูงถึงร้อยเก้าสิบเซน เขาสวมใส่ชุดสูทสีน้ำเงินเข้ม เดินออกมาจากโซนพักผ่อนด้วยท่าทีที่ดูสง่างาม
ด้วยใบหน้าลูกครึ่งที่ดูโดดเด่นของเขา ดวงตาสีฟ้าน้ำทะเลยิ่งขับให้เขาดูหล่อเหลา ดูโดดเด่นยิ่งกว่าใคร เป็นบุคลิกที่ไม่สามารถบรรยายออกมาได้เลย
เย้นหว่านเพียงแค่เคยเห็นรูปถ่ายของเขาตามหน้าหนังสือพิมพ์ ทว่าคิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะปรากฏตัวขึ้นที่นี่เวลานี้ ได้เห็นตัวเขาจริงๆ
“ฉันดูไม่ผิดใช่ไหม? เป็นฉูรั่วไป๋ใช่ไหม? ฉันกลัวว่ามันจะเป็นเพียงแค่ความฝัน เป็นฉูรั่วไป๋จริงเหรอ?”
“ฉันก็รู้สึกเหมือนว่าตัวเองกำลังฝันอยู่เลย เป็นไปได้ยังไง? เป็นฉูรั่วไป๋ไปได้ยัง”
“พระเจ้า! ฉันได้เจอฉูรั่วไป๋แล้ว คิดไม่ถึงเลยว่าเป้าหมายในการแลกเปลี่ยนครั้งนี้ ดีไซเนอร์ของเมืองเจียงก็คือฉูรั่วไป๋งั้นเหรอ?”
ดีไซเนอร์ทั้งหมดต่างพากันพูดไม่หยุด จ้องมองไปยังฉูรั่วไป๋ที่กำลังเดินมาด้วยสายตาตกอกตกใจ
ดวงตาคู่หนึ่งดูราวกับว่าถูกตรึงเอาไว้ที่ร่างกายของเขา
ในวงการนี้ก็เหมือนกับวงกลมของโลกใบเล็ก
สำหรับในโลกเล็กๆ ของดีไซเนอร์แล้ว ฉูรั่วไป๋ก็เปรียบเสมือนดวงดาวที่ส่องประกายมากที่สุด ดีไซเนอร์ทั้งหมดแทบจะนับถือเขาเป็นเทพเจ้าและตำนาน
ผลงานการออกแบบของเขา มักจะเป็นแม่แบบ หนังสือเรียน ไว้ให้ผู้คนได้เรียนรู้อย่างนับไม่ถ้วน
ยิ่งไปกว่านั้นฉูรั่วไป๋ไม่เพียงแต่มากความสามารถ แต่รูปลักษณ์ของเขายังโดดเด่นมากด้วย เป็นลูกครึ่งที่ผสมผสานระหว่างอเมริกา ฝรั่งเศส และจีนได้อย่างลงตัว นั่นยิ่งทำให้เขาดูสง่างามราวกับเจ้าชายที่เดินออกมาจากภาพวาด จึงทำให้เป็นเป้าหมายในใจของหญิงสาวทุกคนได้อย่างง่ายดาย
ความสามารถของเขาทำให้ผู้คนทั้งเลื่อมใสทั้งตกหลุมรัก แต่ภาพลักษณ์ของเขายิ่งทำให้ผู้คนตกหลุมรักเขาอย่างสุดหัวใจ
เย้นหว่านมองไปที่เขาอย่างเลื่อนลอย เธอเองก็รู้สึกว่ามันเป็นเรื่องไม่น่าเชื่อ รู้สึกราวกับว่าเป็นของขวัญที่ฟ้าส่งมาให้
ฉูรั่วไป๋ก็ถือว่าเป็นไอดอลของเธอ เป็นไอดอลเพียงหนึ่งเดียว!
หวางกวนจิ้งที่เห็นปฏิกิริยาของกลุ่มคนของเธอก็รู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างมาก เธอเตรียมพร้อมอยู่นาน ก่อนจะเดินยิ้มเข้าไปจับมือทักทายฉูรั่วไป๋อย่างมีมารยาท
“คุณฉู ทางเรารู้สึกเป็นเกียรติมากที่ได้พบคุณค่ะ เป็นเรื่องที่น่าปลื้มใจมากค่ะที่คุณให้เกียรติออกมารับพวกเราด้วยตัวเอง”
ฉูรั่วไป๋เป็นคนมีชื่อเสียงมาก แต่เขากลับไม่ถือตัวหรือเย่อหยิ่งสักนิด กลับกันเขากลับส่งรอยยิ้มที่มีเสน่ห์ชวนให้ผู้คนหลงใหล
เขายื่นมือออกมาจับมือทักทายกับหวางกวนจิ้ง
“ต่อไปเดี๋ยวทุกคนก็ต้องร่วมงานร่วมกิจกรรมกัน นี่ก็เป็นเรื่องที่ผมควรจะทำอยู่แล้วครับ”
ในขณะนั้นเอง กลุ่มคนก็ต่างพากันซุบซิบไม่หยุด เหล่าสาวๆ ต่างพากันมองด้วยสายตาหลงใหลมากขึ้นไปอีก
“ว้าว เป็นสุภาพบุรุษมาก!”
“อีกครึ่งเดือนหลังจากนี้ฉันจะได้ทำงานร่วมกับฉูรั่วไป๋งั้นเหรอ? นี่ฉันไม่ได้ฝันไปใช่ไหม? ”
“พยุงฉันเร็วเข้า ฉันมีความสุขมากจนจะเป็นลมแล้ว! ฉูรั่วไป๋เป็นผู้ชายที่สมบูรณ์แบบมาก ฉันตกหลุมรักเขาแล้ว ถ้าไม่ใช่เขาฉันจะไม่แต่งงานเลย”
สายตาของสาวๆ ได้ถูกตรึงไว้ที่ร่างสูงของฉูรั่วไป๋ ทุกคนล้วนอยากโผเข้าไปอุ้มเขากลับบ้านไปเลย
ในขณะนั้นเองเย้นหว่านก็ยังคงยืนอยู่ด้วยความมึนงงและตกใจ ทั้งยังมองไปที่ฉูรั่วไป๋ด้วยสายตาสุขใจ
นี่คือไอดอลของเธอ
ไม่เพียงแต่ตกใจและยินดีที่ได้เจอตัวจริงของเขา แต่นิสัยของเขานั้นดียิ่งกว่าที่เธอเคยจินตนาการเอาไว้เสียอีก ทั้งยังเป็นมิตรมากอีกด้วย
สำหรับแฟนคลับคนหนึ่งแบบนี้ก็ถือว่าดีมากแล้ว
หวางกวนจิ้งเห็นว่าทุกคนที่ตัวเธอพามาด้วยนั้นต่างพากันตื่นเต้นดีใจกันมาก ก็เข้าใจและพอใจในสิ่งที่ตนเองทำเป็นอย่างมาก
หลังจากนั้นจึงเริ่มแนะนำกับฉูรั่วไป๋
“คุณฉู นี่เป็นทีมดีไซเนอร์ของบริษัทเรา ในระหว่างที่ให้ความร่วมมือกันนี้ ก็หวังว่าคุณจะดูแลด้วยนะคะ”
ฉูรั่วไป๋พยักหน้ารับ “นั่นเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วครับ”
“ท่านนี้เป็นดีไซเนอร์คนใหม่ของบริษัทเรา เย้นหว่านค่ะ”
หวางกวนจิ้งแนะนำเย้นหว่านก่อนเป็นคนแรก และดึงเย้นหว่านเข้ามา
เย้นหว่านที่ถูกดึงให้เข้ามายืนใกล้ฉูรั่วไป๋ ก็ถึงกลับเกร็งไปทั้งตัว เหมือนกับเด็กนักเรียนที่ได้มายืนอยู่หน้าอาจารย์
เธอเงยหน้าขึ้นมองชายหนุ่มร่างสูงที่อยู่ตรงหน้าด้วยความประหม่า ก่อนจะเริ่มพูดออกมามากกว่าปกติ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน
อืดอาด มีเรื่องคู่นั้นคู่นี้แทรกมาตลอด แล้วยังออกทะเลไปไม่รู้กี่รอบ วนอยู่แต่กับความโง่ของนางเอกและความปิดปังเพราะรักของพระเอก เฮ้อ ทนอ่านมาเพราะอยากรู้ตอนจบ แต่หงุดหงิกมาก...
ฝึกฝนตัวเองหาทางช่วยสามีมันก็ดี แต่ถึงขนาดทิ้งลูกให้คนอื่นดูแลนี่ไม่ไหว เลี้ยงเด็กยังไงให้เป็นแบบนี้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แถมเป็นภาระ ใช้ชีวิตโง่ ๆ มีศัตรูอยู่ แต่ไม่พาการ็ดไปด้วย พอลูกมีปัญหาที่รร. แทนที่จะเรียกสามี มาช่วยตั้งแต่แรก เสือกจะสู้เอง...
นางเอกอ้อนแอแถมโง่ แต่ก็ไม่ฟังพระเอก เสือกวิ่งไปวิ่งมาให้ถูกคนทำร้าย อ่านแล้วรำคาญ...
นางเอกโง่เง่าไม่มีการพัฒนา...
ทำไมไม่บอกพระเอกแล้วให้จัดการกับนังนั่น...
โอน่อหยาก็รู้นี่นาว่านางเอกเป็นคู่หมั้นประธาน ทำไมยังกล้าใส่ร้ายหรือแปลกใจว่านางเอกยังมีคนหนุน...
เนื้อเรื่องยืดยาวววน่าเบื่อมาก วนไปมาไม่เข้าเรื่องสักทีอ่านจนไม่อยากอ่านต่อน่าเบื่อเกิน ไม่เข้าเรื่องพระเอกกับนางเอกสักที วนอยู่ที่เดิมจนไม่น่าติดตามเพราะน่าเบื่อ...