บทที่ 218 คำบอกรักสไตส์คุณโห้
น้ำเสียงเขาเย็นชามาก “ทำไมหรอ คุณฉูไม่ยอมชนแก้วกับผมหรอ?”
การขอชนแก้วของโห้หลีเฉินมีใครกล้าปฏิเสธ
แถมเป็นการขอชนแก้วในสถานการณ์แบบนี้ด้วย ถ้าฉูรั่วไป๋ไม่ยอมชนด้วย เท่ากับว่าเขาคิดไม่ซื่อกับเย้นหว่าน
งั้นงานนี้มีเรื่องแล้ว
ฉูรั่วไป๋ได้สติกลับมา ก็สบตาเข้ากับสายตาเล็กแหลมอันตรายของโห้หลีเฉิน นั่นเป็นรังสีอำมหิตที่มีต่อศัตรูหัวใจรวมถึงความหวงของอย่างรุนแรงที่มีต่อของๆตนของผู้ชายคนหนึ่งด้วย
แต่จนถึงตอนนี้ฉูรั่วไป๋กลับยังไม่ได้ทำอะไรจริงจังเลย ดูเหมือนจะเป็นการกล่าวโทษไปหน่อย แล้วก็....ไม่อยากแพ้นิดหน่อย
เขาอยู่ในวงสังคมมานานหลายปี เลยได้สติกลับมาเร็ว ใบหน้าหล่อเหลาเริ่มมีรอยยิ้ม
“แค่ตกใจนิดหน่อยครับ ไม่คิดว่าเย้นหว่านจะเป็นคู่หมั้นของคุณโห้”
ฉูรั่วไป๋อธิบายออกมา สายตาก็หันไปมองเย้นหว่าน
เย้นหว่านโดนมองจนรู้สึกไม่สบายใจ ในใจแอบรู้สึกผิดนิดหน่อย ถึงระหว่างเธอกับฉูรั่วไป๋จะเป็นแค่เพื่อนกันไม่มีอะไรแอบแฝงจริงๆ แต่ตอนแรก เธอทำให้ฉูรั่วไป๋เข้าใจผิด จนเกือบจุดไฟสวาทขึ้นมา
พอมีเรื่องนี้ ทำให้ตอนนี้เย้นหว่านรู้สึกกระดากใจนิดหน่อย
เธอฝืนยิ้ม หน้าแดงอธิบายออกมา
“ฉันแค่มาทำงานนอกสถานที่เท่านั้น ไม่อยากให้ฐานะคู่หมั้นคุณโห้แล้วมีคนมาปฏิบัติตัวพิเศษด้วย เลยไม่ได้บอกตั้งแต่แรก หวังว่าคุณ...พวกคุณจะไม่ถือสานะคะ”
ฉูรั่วไป๋จ้องมองเย้นหว่านเขม็ง เห็นท่าทางลุกลี้ลุกลนของเธอ เขาค้นพบบางอย่างที่มันไม่ปกติ
เธอดูเหมือนไม่ค่อยเป็นธรรมชาติเลยเมื่อยืนข้างโห้หลีเฉิน
และดูไม่ได้ยินดียินร้ายอะไรนักหนากับฐานะคู่หมั้นนี่ด้วย
เขาลงสนามเกมส์รักมาหลายปี เรียกได้ว่ารู้เรื่องความสัมพันธ์ชายหญิงดีมาก ตอนนี้ดูเย้นหว่านแล้ว พบว่าความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับโห้หลีเฉินดูไม่ดีอย่างที่เห็นเท่าไหร่
ระหว่างพวกเขามันดูแปลกๆชอบกลนะ
คนเมืองเจียงต่างอยู่เป็น ได้สติกลับมา หันไปยิ้มให้เย้นหว่านกันหมด
“พวกเราไม่ถือสาหรอก จะพูดไม่พูดเป็นสิทธิ์ของคุณหนูเย้นนี่นา แต่ตอนนี้รู้แล้ว งั้นขอแสดงความยินดีกับคุณหนูเย้นก่อนเลยละกันที่มีคู่หมั้นดีแบบนี้”
สรรพนามของพวกเขาที่เรียกเธอเปลี่ยนจากเย้นหว่านที่เป็นกันเองแปรเปลี่ยนเป็นคุณหนูเย้น เย้นหว่านรู้อยู่แล้วว่า การยืนอยู่ข้างกายโห้หลีเฉิน ทำให้ฐานะเธอถูกยกระดับขึ้น และได้รับการปฏิบัติตัวด้วยอย่างพิเศษ
เธอหน่ายใจ แต่ได้แต่ทำใจยอมรับ เธอยิ้มยกแก้วในมือชูขึ้น
หลังจากชนแก้วแล้วก็ควรนั่งลงได้
หวางกวนจิ้งเป็นคนของโห้ถิงกรุ๊ป คุ้นเคยกับประธานบริษัทตนอย่างดี เลยรีบเข้าไปเชื้อเชิญโห้หลีเฉินอย่างเคารพ
“ประธานครับ เชิญนั่งทางนั้นครับ”
ทางที่เธอชี้ไป คือที่นั่งประธานที่เขยิบจากตรงนี้ไปสองสามที่นั่ง และเป็นที่แสดงฐานะของเขา
เดิมทีโห้หลีเฉินควรไปนั่งตรงนั้น
แต่เห็นท่าทีไม่ค่อยยินยอมของผู้หญิงข้างๆ เขาเลยจับเธอเขยิบออกหน่อย และนั่งลงที่นั่งเย้นหว่านก่อนหน้านี้
และให้เธอนั่งข้างเขาอีกข้าง
เขาพูดอย่างสบายๆ “นั่งตรงนี้ละกันครับ”
เย้นหว่านมองเขาอย่างตะลึง นี่มันที่นั่งเธอนะ โห้หลีเฉินมาถึงก็มาแย่งที่นั่งเธอเลย มันจะดีหรอ?
เดิมฉูรั่วไป๋นั่งข้างเย้นหว่าน พอโห้หลีเฉินนั่งลงมา เลยกลายเป็นนั่งข้างเขา และจับเขากับเย้นหว่านแยกกัน
พอมองดูผู้ชายร่างสูงนั่น มุมปากฉูรั่วไป๋กระตุกขึ้นฉับพลัน
ถ้ามองในมุมของผู้ชาย โห้หลีเฉินกำลังแสดงสิทธิ์นะเนี่ย
แต่โห้หลีเฉินกลับทำหน้าเรียบเฉย มองทุกคน พูดราวตัวเองเป็นพระราชาว่า: “นั่งลงเถอะ”
ทุกคนที่ยืนอยู่ถึงพากันทยอยนั่งลง ข่าวซุบซิบแน่นอก สายตาคอยมองไปทางโห้หลีเฉิน เย้นหว่านและฉูรั่วไป๋สลับกันไปมา
ไม่ว่าดูยังไง ก็รู้สึกว่า สามคนนี้นั่งด้วยกันแล้วบรรยากาศมันแปลกๆ
และการที่โห้หลีเฉินนั่งระหว่างเย้นหว่านกับฉูรั่วไป๋ ยิ่งดูน่าสงสัยขึ้นไปอีก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน
อืดอาด มีเรื่องคู่นั้นคู่นี้แทรกมาตลอด แล้วยังออกทะเลไปไม่รู้กี่รอบ วนอยู่แต่กับความโง่ของนางเอกและความปิดปังเพราะรักของพระเอก เฮ้อ ทนอ่านมาเพราะอยากรู้ตอนจบ แต่หงุดหงิกมาก...
ฝึกฝนตัวเองหาทางช่วยสามีมันก็ดี แต่ถึงขนาดทิ้งลูกให้คนอื่นดูแลนี่ไม่ไหว เลี้ยงเด็กยังไงให้เป็นแบบนี้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แถมเป็นภาระ ใช้ชีวิตโง่ ๆ มีศัตรูอยู่ แต่ไม่พาการ็ดไปด้วย พอลูกมีปัญหาที่รร. แทนที่จะเรียกสามี มาช่วยตั้งแต่แรก เสือกจะสู้เอง...
นางเอกอ้อนแอแถมโง่ แต่ก็ไม่ฟังพระเอก เสือกวิ่งไปวิ่งมาให้ถูกคนทำร้าย อ่านแล้วรำคาญ...
นางเอกโง่เง่าไม่มีการพัฒนา...
ทำไมไม่บอกพระเอกแล้วให้จัดการกับนังนั่น...
โอน่อหยาก็รู้นี่นาว่านางเอกเป็นคู่หมั้นประธาน ทำไมยังกล้าใส่ร้ายหรือแปลกใจว่านางเอกยังมีคนหนุน...
เนื้อเรื่องยืดยาวววน่าเบื่อมาก วนไปมาไม่เข้าเรื่องสักทีอ่านจนไม่อยากอ่านต่อน่าเบื่อเกิน ไม่เข้าเรื่องพระเอกกับนางเอกสักที วนอยู่ที่เดิมจนไม่น่าติดตามเพราะน่าเบื่อ...