บทที่ 229 ยืนทั้งคืน
โห้หลีเฉินเม้มปาก เขากวักมือไล่พนักงานไป “นายไปได้แล้ว”
“ครับ คุณโห้ ถ้าต้องการอะไร เรียกผมได้เสมอเลย”
พนักงานพูดอย่างเคารพ ก็เข็นรถจากไป
ทางเดินกลับมาสงบอีกครั้ง
เว่ยชีมองพนักงานจากไปไกลแล้วถึงถอนหายใจโล่งอก และมองบอสตัวเองด้วยสายตาเลื่อมใส
“บอสครับ โชคดีที่คุณรู้ก่อน และเคาะห้องข้างๆพร้อมซ่อนตัวขึ้นมา คุณรู้ได้ยังไงครับว่าคุณเย้นต้องออกมาดูแน่?”
สถานการณ์เมื่อกี้ เขาไม่คิดเลยสักนิดว่าเย้นหว่าจะเดินออกมา
สายตาโห้หลีเฉินดีกว่าเก่ามาก เขาถึงยอมอธิบาย: “พนักงานคนนั้นลนลานเกินไป แถมยังมองมาทางฉันสองครั้ง เย้นหว่านเป็นคนช่างสังเกต ง่ายมากที่จะรู้สึกไม่ชอบมาพากล”
นี่ไม่แค่เตรียมการล่วงหน้า แต่ยังเข้าใจเย้นหว่านด้วย
เว่ยชีถึงบางอ้อ
เวลานี้ ประตูห้องข้างๆมีชายหนุ่มหญิงสาวสองคนเดินออกมา ตอนนี้พวกเขาใส่เสื้อผ้าเรียบร้อย ในมือถือกระเป๋าเดินทาง
ผู้ชายคนนั้นพูดกับโห้หลีเฉินอย่างสุภาพนอบน้อม: “คุณโห้ ผมเก็บข้าวของเรียบร้อยแล้ว เชิญคุณเข้าไปได้เลยครับ”
เมื่อกี้พวกเขากำลังนัวเนียกันอยู่ในห้อง จู่ๆก็มีคนเปิดประตูเข้ามา เดิมทีเขาฉุนเฉียวมาก แต่พอเห็นว่าคนที่ยืนหน้าประตูคือโห้หลีเฉิน ก็สงบลงทันที
ดังนั้นตอนโห้หลีเฉินขอให้พวกเขาสละห้องให้ พวกเขารีบรับปากทันที
ตลกละ โห้หลีเฉินน่ะมีชื่อเสียงจะตาย อยากเจอเขาสักครั้งยังต้องสวดมนต์อธิษฐาน แล้วนี่ถ้าสามารถช่วยเขาได้ ความช่วยเหลือในครั้งนี้จะเป็นโอกาสที่จะร่ำรวยในภายภาคหน้าได้
ใครก็ไม่ยอมปล่อยโอกาสดีแบบนี้ไปหรอก
“อืม”
โห้หลีเฉินพยักหน้า สายตาจับจ้องมองไปที่หน้าห้องเย้นหว่าน ก่อนจะเดินเข้าไป
ชายหญิงคู่นั้นจากไป เว่ยชีก็เดินตามเข้าห้องด้วย
นี่เป็นห้องที่ค่อนข้างว่าง แต่ก็ไม่ใช่ห้องสูทหรู สภาพแวดล้อมก็โอเค แต่ถ้าเทียบกับมาตรฐานปกติของโห้หลีเฉินแล้วถือว่าแย่พอดู
บวกกับชายหญิงเมื่อครู่พึ่งใช้ห้องนี้ไป ถึงจะมองไม่เห็น แต่มั่นใจได้เลยว่ามีร่องรอยอยู่ทุกที่
เว่ยชีมองรอบด้านพลางขมวดคิ้ว “บอส ผมหาห้องให้บอสใหม่ดีกว่านะครับ”
“ไม่ต้อง ห้องนี้แหละ”
โห้หลีแนเดินไปที่ระเบียง สายตาจับจ้องไปที่ระเบียงห้องข้างๆ คือห้องของเย้นหว่านน่ะเอง
เธอปิดหน้าต่างฝั่งระเบียงอยู่ เลยมองอะไรไม่เห็น
แต่เขายังคงมองไปที่ระเบียงห้องเธออยู่ดี ต่อให้มองไม่เห็น ขอแค่ได้มองเห็นระเบียงห้องเธอ เขาก็วางใจ
เว่ยชียืนอยู่ที่เดิมอย่างตกตะลึง เขามองผู้ชายที่ยืนที่ระเบียงอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง
เขารู้ว่าทำไมโห้หลีเฉินถึงอยากอยู่ห้องนี้แล้วล่ะ
ห้องของเย้นหว่านอยู่สุดทางเลย อีกข้างเป็นห้องที่ไม่มีห้องข้าง มีแต่ห้องนี้ที่อยู่ติดกับห้องเธอ
ดังนั้นโห้หลีเฉินเลยยอมทิ้งห้องหรูหราอันอื่นไป เพื่อจะได้มาอยู่ข้างห้องเย้นหว่าน
แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น ทำไมบอสไม่ไปหาเย้นหว่านเลยล่ะ?
เหมือนนี่จะเป็นครั้งแรกที่เว่ยชีเห็นบอสระมัดระวังขนาดนี้ ปกติเห็นแต่บุกตรงไปเลย
ดูท่าปัญหาครั้งนี้จะไม่น้อยเลย
เขาต้องเตรียมความพร้อมเอาไว้
“บอสครับ ผมให้คนมาทำความสะอาด เปลี่ยนผ้าปูเตียงเป็นของใหม่นะครับ”
“ทำเบานะ อย่าให้เย้นหว่านรู้ตัว”
โห้หลีเฉินกำชับ
ความสำคัญในคำพูดของเขาทุกคำเกี่ยวกับเย้นหว่านหมดเลย
เว่ยชีลึกซึ้งแก่ใจ รับคำอย่างหนักแน่น “ครับ บอส”
สักพัก เขาอดพูดขึ้นมาไม่ได้ว่า “บอสครับ อันที่จริงบอสไปหาเธอเลย มีปัญหาอะไรกัน เคลียร์กันต่อหน้าเลยจะดีกว่านะครับ”
ก็ดีกว่าตอนนี้ ได้แต่เฝ้าดูอยู่ห่างๆ หน้ายังไม่กล้าโผล่ไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน
อืดอาด มีเรื่องคู่นั้นคู่นี้แทรกมาตลอด แล้วยังออกทะเลไปไม่รู้กี่รอบ วนอยู่แต่กับความโง่ของนางเอกและความปิดปังเพราะรักของพระเอก เฮ้อ ทนอ่านมาเพราะอยากรู้ตอนจบ แต่หงุดหงิกมาก...
ฝึกฝนตัวเองหาทางช่วยสามีมันก็ดี แต่ถึงขนาดทิ้งลูกให้คนอื่นดูแลนี่ไม่ไหว เลี้ยงเด็กยังไงให้เป็นแบบนี้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แถมเป็นภาระ ใช้ชีวิตโง่ ๆ มีศัตรูอยู่ แต่ไม่พาการ็ดไปด้วย พอลูกมีปัญหาที่รร. แทนที่จะเรียกสามี มาช่วยตั้งแต่แรก เสือกจะสู้เอง...
นางเอกอ้อนแอแถมโง่ แต่ก็ไม่ฟังพระเอก เสือกวิ่งไปวิ่งมาให้ถูกคนทำร้าย อ่านแล้วรำคาญ...
นางเอกโง่เง่าไม่มีการพัฒนา...
ทำไมไม่บอกพระเอกแล้วให้จัดการกับนังนั่น...
โอน่อหยาก็รู้นี่นาว่านางเอกเป็นคู่หมั้นประธาน ทำไมยังกล้าใส่ร้ายหรือแปลกใจว่านางเอกยังมีคนหนุน...
เนื้อเรื่องยืดยาวววน่าเบื่อมาก วนไปมาไม่เข้าเรื่องสักทีอ่านจนไม่อยากอ่านต่อน่าเบื่อเกิน ไม่เข้าเรื่องพระเอกกับนางเอกสักที วนอยู่ที่เดิมจนไม่น่าติดตามเพราะน่าเบื่อ...