บทที่ 228 ผลสุดท้าย
โห้หลีเฉินมองของบนโต๊ะเขา แน่ใจแล้วว่าพอสำหรับคนหนึ่งคน แต่บนการ์ดกลับเขียนว่าคุณฉู
เขาสีหน้าทะมึนลงทันทีที่เห็นชื่อนั้น
เห็นได้ชัด เย้นหว่านไม่ได้พกบัตรประชาชนมาด้วย ฉูรั่วไป๋เป็นคนช่วยเปิดห้องให้เธอ
เขาถามเสียงต่ำว่า: “อาหารบนโต๊ะพอสำหรับคนเดียว ในห้องมีคนเดียว?”
ถึงมันจะเป็นข้อมูลส่วนตัวของแขก แต่อีกฝ่ายเป็นโห้หลีเฉิน พนักงานก็ไม่กล้าปิดบัง
รีบบอกสิ่งที่เขารู้ออกมา “พ่อครัวจะจัดอาหารตามจำนวนแขกที่เช็คอินครับ ผมเองก็ไม่ทราบว่าด้านในมีกี่คน”
อาจจะมีหนึ่งคนหรือสองคนก็ได้
ถึงแม้ว่าเป็นไปได้มากที่จะมีสองคนก็ตาม
สายตาโห้หลีเฉินจ้องมองประตูที่ปิดแน่น สั่งเสียงเข้มว่า: “ส่งอาหารเข้าไป บอกว่าแถมอาหารว่างให้ ถามไปว่าหนึ่งชุดพอไหม”
พนักงานเสิร์ฟทำหน้างง ไม่เข้าใจว่าทำไมโห้หลีเฉินต้องสั่งแบบนี้ด้วย
เว่ยชีที่ยืนอยู่อีกด้านกลับถึงบางอ้อ เข้าใจในทันทีว่าบอสตัวเองทำไมต้องทำแบบนี้
ให้พนักงานเข้าไปส่ง หนึ่งคือเย้นหว่านไม่รู้ว่าบอสมาถึงแล้ว ต่อให้มีอะไรจริง ก็ไม่ถึงกับประจันหน้ากัน
สองคือให้พนักงานถามว่าชุดหนึ่งพอไหม คือการถามทางอ้อมว่าในห้องเย้นหว่านมีกี่คน ถ้าเธอบอกพอแล้ว แปลว่าฉูรั่วไป๋ไม่ได้อยู่ในห้องแล้ว
เว่ยชีนับถือในความฉลาดของบอสตัวเองจริงๆ ในเวลาแบบนี้ยังคิดหาวิธีออกมาได้อย่างแยบยลขนาดนี้
เขาหันไปเร่งพนักงาน “นายไปทำตามที่สั่งก็พอแล้ว รีบเข้าไป”
“ครับ ได้ครับ”
พนักงานพยักหน้าเข้าใจ เข็นอาหารเดินไปหน้าประตู
ในขณะเดียวกัน โห้หลีเฉินเดินไปยืนที่ผนังห้องฝั่งเดียวกัน ยืนด้วยท่าทางสง่างาม ดูสบายๆ แต่ถ้าสังเกตดีๆ ร่างเขาเหมือนจะแข็งเกร็งเล็กน้อย
และสายตาของเขาจ้องมองมาทางห้องนี้อย่างใจจดใจจ่อ ซึ่งสามารถจะมองเห็นช่องว่างเล็กน้อยหลังประตูห้องเปิดออก
เว่ยชีมองการกระทำของบอสตัวเองแล้วนับถืออย่างหมดหัวใจเลย
นี่แค่เลียบเคียงถามเย้นหว่าน บอสยังหาจุดยืนไว้แล้ว ซ่อนตัวเองอย่างแนบเนียน แถมยังมองเห็นภายในห้องได้อีกด้วย
เรียกได้ว่าพยายามมากจริงๆ
“ก๊อกก๊อกก๊อก”
พนักงานเคาะประตูเบามือ
ไม่นานก็ได้ยินเสียงเย้นหว่านตอบมา “รอสักครู่ค่ะ”
หลังจากนั้นตามมาด้วยเสียงประตูเปิดออก “แอ๊ด”
โห้หลีเฉินตัวแข็งเกร็งอย่างไม่รู้ตัว มองจากมุมนี้ เขาสามารถเห็นร่างเย้นหว่านได้
วินาทีที่เห็น ตาเขากระตุกอย่างแรง
ถึงจะมองไม่ค่อยชัด แต่เขามองเห็นได้ว่า เย้นหว่านใส่ชุดคลุมอาบน้ำของโรงแรม และชุดนอนที่โผล่พ้นชุดเสื้อคลุมออกมา ไม่ใช่ตัวที่เธอใส่ออกมา
เธอไม่ได้เอาอะไรออกมาเลย แต่ตอนนี้ไม่เพียงอาบน้ำแล้ว ยังเปลี่ยนชุดนอนแล้วด้วย!
ใครซื้อชุดให้เธอ?
ฉูรั่วไป๋อยู่ด้านในด้วยหรือเปล่า?
ความโกรธเริ่มปะทุขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่ โห้หลีเฉินรู้สึกโกรธมากอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
เขาแทบจะพุ่งออกไปดูให้มันรู้แจ้งเห็นจริง ถามให้แน่ชัด
แต่พอเขาจะขยับ สมองก็ผลุดคำถามที่เย้นหว่านถามเขาว่า “คุณเห็นฉันเป็นอะไรกันแน่?”
สีหน้าท่าทางหวาดกลัวของเธอมันเหมือนเข็มทิ่มแทงใจเขา
ถ้าตอนนี้เขาออกไป เธอคงคิดจะถามอีกว่าเขาเห็นเธอเป็นอะไรกันแน่ และเขาไม่รู้เลยว่าจะตอบเธอว่ายังไงดี
เขาทั้งประคบประหงมประคองเธอไว้ในมือ ทั้งรักทั้งดูแล แต่วันนี้กลับสูญเสียความควบคุม ทำร้ายเธอไป
เขากำหมัดแน่น โห้หลีเฉินพยายามอย่างยิ่งที่จะยืนนิ่งอยู่กับที่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน
อืดอาด มีเรื่องคู่นั้นคู่นี้แทรกมาตลอด แล้วยังออกทะเลไปไม่รู้กี่รอบ วนอยู่แต่กับความโง่ของนางเอกและความปิดปังเพราะรักของพระเอก เฮ้อ ทนอ่านมาเพราะอยากรู้ตอนจบ แต่หงุดหงิกมาก...
ฝึกฝนตัวเองหาทางช่วยสามีมันก็ดี แต่ถึงขนาดทิ้งลูกให้คนอื่นดูแลนี่ไม่ไหว เลี้ยงเด็กยังไงให้เป็นแบบนี้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แถมเป็นภาระ ใช้ชีวิตโง่ ๆ มีศัตรูอยู่ แต่ไม่พาการ็ดไปด้วย พอลูกมีปัญหาที่รร. แทนที่จะเรียกสามี มาช่วยตั้งแต่แรก เสือกจะสู้เอง...
นางเอกอ้อนแอแถมโง่ แต่ก็ไม่ฟังพระเอก เสือกวิ่งไปวิ่งมาให้ถูกคนทำร้าย อ่านแล้วรำคาญ...
นางเอกโง่เง่าไม่มีการพัฒนา...
ทำไมไม่บอกพระเอกแล้วให้จัดการกับนังนั่น...
โอน่อหยาก็รู้นี่นาว่านางเอกเป็นคู่หมั้นประธาน ทำไมยังกล้าใส่ร้ายหรือแปลกใจว่านางเอกยังมีคนหนุน...
เนื้อเรื่องยืดยาวววน่าเบื่อมาก วนไปมาไม่เข้าเรื่องสักทีอ่านจนไม่อยากอ่านต่อน่าเบื่อเกิน ไม่เข้าเรื่องพระเอกกับนางเอกสักที วนอยู่ที่เดิมจนไม่น่าติดตามเพราะน่าเบื่อ...