บทที่ 234 ใช้ปาก
เย้นหว่านตัวแข็งทื่อ ไม่กล้าขยับเขยื้อนอีกแม้แต่น้อย
เขารู้จักโห้หลีเฉินอยู่บ้าง บนโลกนี้คงไม่มีเรื่องไหนที่เขาไม่กล้าทำ ตอนนี้หากเธอยังแข็งขืนกับเขา ก็ยากที่จะรับประกันว่าเขาจะไม่ทำอะไรสักอย่าง
เพื่อนร่วมงานที่นี่ก็ยังต้องร่วมงานกันไปอีกนาน เย้นหว่านไม่อยากทำให้มีปัญหาจนอยู่ต่อไปไม่ได้อีก
เธอกัดฟัน แล้วพูดด้วยเสียงแผ่วเบา “คุณปล่อยฉันก่อนสิ”
“ได้”
โห้หลีเฉินปล่อยแขนของเย้นหว่านอย่างง่ายดาย แต่สายตากลับยังจ้องเธอเขม็งอยู่อย่างนั้น
เหมือนกุญแจมือที่มองไม่เห็น ที่คอยผูกมัดเธอไว้
เย้นหว่านยืนแข็งทื่ออยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะนั่งลงอย่างไร้ทางเลือก
เก้าอี้ทั้งสองตัวห่างกันไม่กี่เซนติเมตร แต่การมีอยู่ของตัวตนโห้หลีเฉินนั้นแข็งแกร่งมาก หรืออาจจะพูดได้ว่าอิทธิพลที่มีต่อเย้นหว่านนั้นมากเกินไป ทำให้เธอรู้สึกอึดอัดไปทั่วทั้งตัว
หัวใจยิ่งควบคุมไม่อยู่ ยิ่งอยู่ก็ยิ่งเต้นเร็วขึ้น
สายตาของโห้หลีเฉินเริ่มเลื่อนไปอยู่ที่ตัวของเย้นหว่าน เลยเห็นได้ชัดเจนว่า ถึงแม้เธอจะนั่งลงแล้ว แต่ก็กลับนั่งติดขอบเก้าอี้ เป็นไปได้อย่างมากว่าคงเพื่อรักษาระยะห่างระหว่างเขา
และท่านั่งของเธอก็แข็งทื่อ ทำตัวเกร็ง ดูเหมือนกำลังตื่นเต้นมาก อึดอัดมาก
สายตาของโห้หลีเฉินมืดมนกว่าเดิมลงไปอีก ก่อนเมื่อวาน ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเย้นหว่านก็เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆแล้ว จากเดิมที่เธอเคยระมัดระวัง ต่อมาก็เริ่มกลายเป็นสบายใจ และผ่อนคลาย
แต่เรื่องเมื่อคืนวาน ทำให้ความสัมพันธ์ของพวกเขากลับไปสู่จุดเริ่มต้นอีกครั้ง
และตอนนี้เย้นหว่านก็ยิ่งทำตัวเหินห่างและต่อต้านเขายิ่งกว่าตอนที่เพิ่งเริ่มรู้จักกันเสียอีก
ความรู้สึกแบบนี้ทำให้โห้หลีเฉินรู้สึกเหมือนกับกำลังกินก้อนสำลี แล้วติดอยู่ที่ลำคอ กลืนไม่เข้าคายไม่ออก แต่เขาจะรีบร้อนไม่ได้ ไม่อย่างนั้นจะทำให้เย้นหว่านตื่นกลัวอีก
เดิมทีเธอก็มีปัญหามากมายอยู่แล้ว เขาจะผลักให้เธอไปไกลกว่าเดิมไม่ได้
เรื่องราวดูเหมือนจะผ่านไปได้แล้ว ทุกอย่างเริ่มสงบลง ฉูรั่วไป๋มองดูโห้หลีเฉินที่นั่งอยู่ข้างเย้นหว่าน แต่กลับรู้สึกรำคาญสายตามาก
ในใจเหมือนยิ่งอัดอั้น ยิ่งแบกไว้ก็ยิ่งรู้สึกแย่
เขาพยายามอดทนเพื่อระงับความรู้สึกอัดอั้นนั้นไว้ และนั่งลงตรงที่นั่งอีกข้างที่ติดกับเย้นหว่าน
แววตาของโห้หลีเฉินเปลี่ยนไปทันที ทันใดนั้นสายตาที่แสนอันตรายก็กวาดไปที่ฉูรั่วไป๋
เป็นการข่มขู่ที่ไร้สุ้มเสียง
ฉูรั่วไป๋กลับทำเหมือนมองไม่เห็น แล้วมองไปทางเย้นหว่านด้วยรอยยิ้มอบอุ่น ก่อนจะถามว่า
“ดูข้อมูลเสร็จหรือยัง มีตรงไหนไม่เข้าใจไหม เดี๋ยวฉันช่วยอธิบายให้”
ความคิดของเย้นหว่านถูกโห้หลีเฉินขัดจังหวะไปแล้ว ตอนนี้ถึงดูข้อมูลพวกนี้ไป ในหัวก็ว่างเปล่าอยู่ดี
แต่ตอนนี้เธอก็ตกเป็นเป้าสายตาของทุกคนไปแล้ว อีกทั้งยังนั่งอยู่ข้างโห้หลีเฉินอีกด้วย เธอก็เลยไม่กล้าที่จะพึ่งแค่การภาวนาอีกต่อไป
เธอส่ายหัว “อืม ดูเสร็จแล้วล่ะ”
“งั้นก็ดีแล้ว”
ฉูรั่วไป๋พยักหน้า และไอเย็นรอบตัวของโห้หลีเฉินก็เพิ่มขึ้นอีก
คนอื่นๆก็ทยอยพากันนั่งลง แต่ละคนต่างก็เกร็งไปทั้งตัว ตื่นเต้นจนต้องตั้งสติให้ตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา
เพื่อรับประกันว่า ถ้าเกิดเรื่องขึ้นมาก็สามารถหนีออกไปได้ทันท่วงที
หวางกวนจิ้งแอบมองพวกเย้นหว่านทั้งสามคนเงียบๆ รู้สึกว่าบรรยากาศมันหนักอึ้งมาก จนอาจจะเกิดสงครามขึ้นมาได้ทุกนาทีเลยทีเดียว
เธอรีบกระแอมในลำคออย่างรวดเร็ว ก่อนจะพูดว่า
“คนก็มากันครบแล้ว มาเริ่มกันเลยเถอะ เย้นหว่าน เธอเริ่มพูดก่อนได้เลย”
เมื่อเงยหน้าขึ้นก็พบกับสายตานับหลายคู่ เย้นหว่านเลยรู้สึกประหม่าขึ้นมาเล็กน้อย
เธอสูดหายใจเข้าลึก พยายามที่จะไม่สนใจโห้หลีเฉินที่อยู่ข้างๆให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ มุ่งความสนใจไปที่หน้าที่การงานที่อยู่ตรงหน้า
เธอเม้มริมฝีปากและยิ้ม “วันนี้ฉันมาพูดแทนพี่หวาง หากมีจุดไหนที่บกพร่องไปบ้าง ขอต้องขออภัยทุกท่านไว้ ณ ที่นี้ด้วย หากมีปัญหาก็ช่วยชี้แนะได้นะคะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน
อืดอาด มีเรื่องคู่นั้นคู่นี้แทรกมาตลอด แล้วยังออกทะเลไปไม่รู้กี่รอบ วนอยู่แต่กับความโง่ของนางเอกและความปิดปังเพราะรักของพระเอก เฮ้อ ทนอ่านมาเพราะอยากรู้ตอนจบ แต่หงุดหงิกมาก...
ฝึกฝนตัวเองหาทางช่วยสามีมันก็ดี แต่ถึงขนาดทิ้งลูกให้คนอื่นดูแลนี่ไม่ไหว เลี้ยงเด็กยังไงให้เป็นแบบนี้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แถมเป็นภาระ ใช้ชีวิตโง่ ๆ มีศัตรูอยู่ แต่ไม่พาการ็ดไปด้วย พอลูกมีปัญหาที่รร. แทนที่จะเรียกสามี มาช่วยตั้งแต่แรก เสือกจะสู้เอง...
นางเอกอ้อนแอแถมโง่ แต่ก็ไม่ฟังพระเอก เสือกวิ่งไปวิ่งมาให้ถูกคนทำร้าย อ่านแล้วรำคาญ...
นางเอกโง่เง่าไม่มีการพัฒนา...
ทำไมไม่บอกพระเอกแล้วให้จัดการกับนังนั่น...
โอน่อหยาก็รู้นี่นาว่านางเอกเป็นคู่หมั้นประธาน ทำไมยังกล้าใส่ร้ายหรือแปลกใจว่านางเอกยังมีคนหนุน...
เนื้อเรื่องยืดยาวววน่าเบื่อมาก วนไปมาไม่เข้าเรื่องสักทีอ่านจนไม่อยากอ่านต่อน่าเบื่อเกิน ไม่เข้าเรื่องพระเอกกับนางเอกสักที วนอยู่ที่เดิมจนไม่น่าติดตามเพราะน่าเบื่อ...