บทที่ 273 ส่งให้เธอ
ช่วงเวลาแลกเปลี่ยนของเมืองหนานกับเมืองเจียงใกล้ถึงช่วงสิ้นสุดแล้ว
เวลานี้ บริษัทจัดงานเลี้ยงกล่าวลาครั้งหนึ่งขึ้น คนทั้งสองเมืองต่างมารวมตัวกัน สนุกกันในตอนท้าย
ในนั้นมีการเชิญชวนสุภาพบุรุษสุภาพสตรีของเมืองนี้มาด้วย งานเลี้ยงจัดอย่างยิ่งใหญ่และครึกครื้น
เย้นหว่านมาที่เมืองเจียง เคยเข้าร่วมงานเลี้ยงงานฉลองมาสองครั้ง ในตู้เสื้อผ้าของเธอก็มีชุดราตรีสองตัวแล้ว
ชุดหนึ่งคือวันนั้นที่พึ่งมาถึง ฉูรั่วไป๋ส่งให้ ชุดหนึ่งเป็นช่วงก่อนหน้านี้ที่เธอซื้อเอง
เธอมองเสื้อผ้าสองชุดที่อยู่ด้านใน กำลังลังเลว่าจะใส่ชุดไหนดี หรือว่าไปซื้ออีกชุด
“ก๊อกๆๆ”
เสียงเคาะประตูดังขึ้น
เย้นหว่านยังไม่ได้ตัดสินใจว่าใส่ชุดไหนดี ใส่รองเท้าแตะเดินเข้าไปเปิดประตู
หน้าประตู เหมือนกับหลายวันมานี้ คนที่ยืนอยู่คือโห้หลีเฉิน
แต่วันนี้ต้องเข้าร่วมงานเลี้ยง จึงไม่ได้อ่านหนังสือ เวลานี้โห้หลีเฉินมาทำอะไร?
เห็นเย้นหว่านยืนเหม่อลอยที่หน้าประตู โห้หลีเฉินเม้มริมฝีปากบางยิ้มแล้ว
“ไม่ให้ฉันเข้าไปเหรอ?”
“ไม่ใช่ เชิญคุณเข้ามา”
เย้นหว่านได้สติกลับมา รีบถอยไปด้านหลัง ให้โห้หลีเฉินเดินเข้าไปแล้ว
พอถอย เธอถึงมองเห็นว่าคนที่ตามโห้หลีเฉินมาด้วยนั้น ยังมีเว่ยชี
เว่ยชียิ้มกริ่มมองเย้นหว่าน นำถุงชุดราตรีสีดำใหญ่ๆ ในมือยื่นให้เย้นหว่านอย่างเคารพ
“คุณเย้น นี่ให้คุณครับ”
เย้นหว่านสงสัย “ให้ฉัน? ของอะไรกัน?”
เว่ยชี “คุณเปิดออกดูก็รู้แล้วครับ นี่คือของที่คุณผู้ชายเตรียมให้คุณโดยเฉพาะครับ”
เป็นโห้หลีเฉินเตรียมให้
เย้นหว่านมองชายหนุ่มที่เดินเข้ามาในห้องแล้วโดยจิตใต้สำนึก ในใจเต้นรัวอยู่นิดหน่อย จากนั้นถึงรับกล่องของขวัญเข้ามา
เว่ยชีส่งกล่องของขวัญเสร็จ ไม่ได้เข้าประตู เดินออกไปเลย ยังปิดประตูห้องสนิทอย่างใส่ใจ
ในห้องเหลือเพียงเย้นหว่านกับโห้หลีเฉินแล้ว
เย้นหว่านอุ้มชุดราตรีไว้ มีความไม่สบายใจเท่าไร
โห้หลีเฉินเทเหล้าให้ตนเองแก้วหนึ่ง นั่งบนโซฟาอย่างสง่างาม จิบไปอึกหนึ่งอย่างเอื่อยเฉื่อย
เขาเงยหน้ามองเธอ “ไม่เปิดออกดูหน่อยเหรอ?”
เย้นหว่านใจเต้นเร็วหน่อยๆ
เธออุ้มกล่องของขวัญเดินเข้าไป เธอวางลงบนโต๊ะ ก่อนจะเปิดมันออก
พอเปิดออก สิ่งแรกที่สะท้อนเข้าม่านตาก็คือสีฟ้าน้ำทะเลที่งดงามผืนหนึ่ง
เย้นหว่านเบิกดวงตาโตอย่างตื่นเต้น
“นี่คือ นี่คือชุดนั้นของอาจารย์ฟีโรเจ๊ก?”
“อืม”
โห้หลีเฉินพยักหน้าเบาๆ
มองความดีใจและรอยยิ้มบนใบหน้าเย้นหว่านอยู่ มุมปากของเขาก็ยกขึ้นตามแล้ว
เวลานี้เขาถึงรู้สึกว่ามีบางครั้งของขวัญที่ล้ำค่าที่สุด ไม่ได้อยู่ที่ตัวของขวัญ แต่อยู่ที่ของขวัญนี้สามารถทำให้เย้นหว่านยิ้มแย้ม แบบนั้นถึงจะเป็นของล้ำค่าที่สุดและดีที่สุด
สายตาของเย้นหว่านถูกชุดราตรีตัวนี้ดึงดูดแล้ว เธอหยิบชุดราตรีออกมาด้วยความระมัดระวัง เหมือนประคองของล้ำค่าที่แตกง่ายชิ้นหนึ่ง
เธอนึกไม่ถึงว่าหลังจากงานแฟชั่นโชว์ เธอยังมีโอกาสเจอผลงานขั้นเทพชุดนี้อีก
บนคอเสื้อของชุดนี้ยังเป็นผลงานชิ้นเอกที่โห้หลีเฉินฉีกลงมาด้วยตนเอง
ตอนนี้มันเป็นชุดราตรีที่สมบูรณ์แบบชุดหนึ่ง
เย้นหว่านประคองมันไว้ ควบคุมความตื่นเต้นไม่อยู่เท่าไร ยังมองทางโห้หลีเฉินอย่างกังวลนิดหน่อย
“คุณโห้ คุณคิดจะเอามันให้ฉันใส่เหรอ?”
โห้หลีเฉินเม้มริมฝีปาก น้ำเสียงพูดอย่างเรื่องราวสมควรจะเป็นเช่นนั้น
“นอกจากเธอแล้ว ฉันยังให้ใครได้อีก?”
หัวใจของเย้นหว่านเต้นระรัว คำพูดที่มีเพียงเธอแบบนั้น เย้ายวนระดับเอาชีวิต
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน
อืดอาด มีเรื่องคู่นั้นคู่นี้แทรกมาตลอด แล้วยังออกทะเลไปไม่รู้กี่รอบ วนอยู่แต่กับความโง่ของนางเอกและความปิดปังเพราะรักของพระเอก เฮ้อ ทนอ่านมาเพราะอยากรู้ตอนจบ แต่หงุดหงิกมาก...
ฝึกฝนตัวเองหาทางช่วยสามีมันก็ดี แต่ถึงขนาดทิ้งลูกให้คนอื่นดูแลนี่ไม่ไหว เลี้ยงเด็กยังไงให้เป็นแบบนี้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แถมเป็นภาระ ใช้ชีวิตโง่ ๆ มีศัตรูอยู่ แต่ไม่พาการ็ดไปด้วย พอลูกมีปัญหาที่รร. แทนที่จะเรียกสามี มาช่วยตั้งแต่แรก เสือกจะสู้เอง...
นางเอกอ้อนแอแถมโง่ แต่ก็ไม่ฟังพระเอก เสือกวิ่งไปวิ่งมาให้ถูกคนทำร้าย อ่านแล้วรำคาญ...
นางเอกโง่เง่าไม่มีการพัฒนา...
ทำไมไม่บอกพระเอกแล้วให้จัดการกับนังนั่น...
โอน่อหยาก็รู้นี่นาว่านางเอกเป็นคู่หมั้นประธาน ทำไมยังกล้าใส่ร้ายหรือแปลกใจว่านางเอกยังมีคนหนุน...
เนื้อเรื่องยืดยาวววน่าเบื่อมาก วนไปมาไม่เข้าเรื่องสักทีอ่านจนไม่อยากอ่านต่อน่าเบื่อเกิน ไม่เข้าเรื่องพระเอกกับนางเอกสักที วนอยู่ที่เดิมจนไม่น่าติดตามเพราะน่าเบื่อ...