บทที่ 449 การแข่งขัน
เย้นหว่านขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ หยูซือห้านคนนี้ช่างเป็นคนที่น่ารังเกียจจริงๆ ชอบใช้อำนาจกดหัวคนอื่น
แต่โห้หลีเฉินหน่ะเหรอจะหวั่นกลัว? อีกอย่าง ถ้าพูดถึงพื้นหลังนั้น โห้หลีเฉินเป็นถึงทายาทเพียงผู้เดียวของตระกูลหยู มีความน่าเคารพยิ่งกว่าเขาหยูซือหานเสียอีก
แต่ว่าตอนนี้โห้หลีเฉินเปลี่ยนรูปลักษณ์ไปแล้ว ตอนนี้เขากำลังอยู่ในตัวตนของกู้ซึง ถ้าปะทะกับหยูซือห้านต่อหน้าต่อตาแบบนี้ก็ไม่ใช่เรื่องที่ดีเท่าไหร่นัก
เย้นหว่านดึงชายเสื้อของโห้หลีเฉินกระซิบเสียงแผ่วเบา: "ไม่ต้องไม่สนใจเขา เราไปซื้อเส้นอื่นกันดีกว่า”
โห้หลีเฉินส่ายหน้า มือหนาลูบเบาๆ ไปที่หลังมือของเย้นหวานเพื่อให้เธอผ่อนคลายใจ
สายตากวาดมองไปที่หยูซือห้านอย่างเย็นชา ริมฝีปากกระตุกเยือกเย็น
“ยังไม่ทันลองสู้เลย จะรู้ได้ยังไงล่ะว่าสุดท้ายแล้วใครกันแน่ที่จะชนะ? ”
ใบหน้าของหยูซือห้านเคร่งขรึมลง สายตาเต็มไปด้วยความโหดเหี้ยม
เขาพูดมาถึงจุดนี้แล้ว กู้ซึงก็ยังคงไม่เข้าใจใดๆ นี่เขากล้าจะต่อสู้หรืออย่างไรนะ?
เขาไม่รู้สึกเกรงกลัวใดๆ นี่ไม่รู้เลยหรือยังไงว่าอิทธิพลของตระกูลหยูนั้นมีมากน้อยเพียงใด!?
ในเมื่อเป็นแบบนี้แล้ว เขาก็ฆ่าตัวตายดีๆ นี่เอง เขาจะไม่ให้โอกาสกับเขาอีก ให้เขาได้ลิ้มลองดู ว่าการที่ถูกชนชั้นบนทำลายนั้นมันให้ความรู้สึกแบบใด
ในความคิดของหยูซือห้านนั้น มีแต่ความกระหายและมาดร้าย
เย้นโม่หลินได้เห็นฉากนั้นก็ขมวดคิ้วเคร่ง
เขาเป็นคุณชายตระกูลเย้น ที่ชิดเชื้ออยู่กับตระกูลหยู ค่อนข้างจะรู้ถึงอำนาจและวิธีการของตระกูลหยู ซึ่งกู้ซึงซึ่งเป็นตระกูลเล็กๆ ในเมืองหนานไม่อาจต่อกรได้
ถ้าหยูซือห้านลงมือ คาดว่ากู้ซึงนั้นไม่อาจที่จะมีลู่ทางชีวิตอีกต่อไป
ก่อนหน้านี้เขาไม่เคยสนใจคนแปลกหน้าพวกนี้มาก่อน และก็ยิ่งจะไม่ไปสงสารและเห็นใจแล้วยุ่งให้มากเรื่องหรอก แต่ในสถานการณ์นี้กู้ซึง เป็นคนที่เย้นหวานชอบ นั่นก็อาจจะได้เป็นน้องเขยของเขาในภายหลัง
มันสำหรับความสัมพันธ์นี้นั้น เขาเองก็ทนรอไม่ไหวแล้วที่จะให้หยูซือห้านจัดการกับกู้ซึง
“พวกนายต่างก็มาที่ตระกูลเย้น ดังนั้นทุกคนก็เป็นดั่งแขกของตระกูลเย้น ตระกูลเย้นของเราเป็นคนให้เกียรติแก่ผู้มาเยือน พวกนายเองอย่าได้ทำลายความเมตตาของเราเลย
เย้นโม่หลินเดินเข้ามาหา ใบหน้าหล่อเหลายิ้มออกมาอย่างสุภาพบุรุษ อ่อนโยน แต่แฝงไปด้วยนัยยะการเตือน
ใบหน้าของหยูซือห้านเปลี่ยนไปซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไม่คิดเลยว่าสถานการณ์แบบนี้เย้นโม่หลินจะลุกออกโรงมาแบบนี้
อีกอย่างความหมาย ถ้าพูดเอาตามความจริง ตอนนี้กู้ซึงก็เป็นดั่งคนของตระกูลเย้นหน่อยๆ ถ้าหากเขากล้าแตะต้อง นั่นก็คงจะทำให้ไปต่อกับตระกูลเย้นไม่ได้
การฆ่าเศรษฐีน้อยเมืองหนานนั้นเป็นเรื่องเล็ก แต่เมื่อเพราะเป็นตระกูลเย้นจึงกลายเป็นเรื่องใหญ่
เขานั้นถึงแม้จะอยู่ในจุดที่สูงในตระกูลหยู แต่ก็ยังไม่อาจต้านไหว
หยูซือห้านเขาจำต้องกดความโกรธแค้นลง และพยักหน้ายิ้มๆ
“ที่คุณชายเย้นพูดก็ถูก ถึงแม้ฉันกับคุณชายกู้จะอยากที่จะจ่ายเงินให้แก่เสี่ยวหว่าน แต่การขัดแย้งกันแบบนี้มันก็แสดงออกถึงความจริงใจ คุณชายกู้เองก็คงไม่คิดเคืองใจใดๆ หรอกจริงไหม? ”
เขายิ้มมองไปทางใบหน้ายิ้มกว้างของโห้หลีเฉิน ถ้าหากโห้หลีเฉินยังสนใจอยู่ ก็เหมือนเขาคิดเล็กคิดน้อย
อีกอย่างโห้หลีเฉินก็บอกว่าไม่ใส่ใจ ก่อนหน้านี้หยูซือห้านนั้นก็คิดต่อกร แต่ก็ผันแปรกลายเป็นสันติ
ไม่ว่าจะมองยังไงมันก็เป็นประโยชน์ของเขา
สายตาของโห้หลีเฉินเยือกเย็น ริมฝีปากกระตุกยิ้มเหยียดอย่างเย้ยหยัน
เขาพูดเรียบๆ :”คุณชายหยูออกจะใจกว้างถึงขนาดนี้แล้ว ถ้าอย่างนั้นสร้อยเส้นนั้นก็ให้ผมเสียเถอะ”
ไม่พูดว่าสน แต่ก็ไม่พูดว่าไม่สน จู่ๆ ก็ไปพูดถึงเรื่องสร้อย
หยูซือห้านในตอนนี้นั้นจะให้ก็ไม่ถูกนัก แต่จะไม่ให้ก็ไม่ได้ มันกลับกลายเป็นว่าเขาถูกโห้หลีเฉินตลบหลัง
ถ้าให้ไปนั้น เขาก็พลาดโอกาสที่จะให้สร้อยคอ ไม่ได้เหยียบย่ำกู้ซึง อีกทั้งยังต้องเสียหน้าอีก แต่ถ้าจะไม่ให้ ก็ดูเหมือนเขาขี้งกทั้งยังเสแสร้งอีก
เกี่ยวกับเรื่องของการวางแผนแล้ว โห้หลีเฉินนั้นไม่ได้อะไรเลย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน
อืดอาด มีเรื่องคู่นั้นคู่นี้แทรกมาตลอด แล้วยังออกทะเลไปไม่รู้กี่รอบ วนอยู่แต่กับความโง่ของนางเอกและความปิดปังเพราะรักของพระเอก เฮ้อ ทนอ่านมาเพราะอยากรู้ตอนจบ แต่หงุดหงิกมาก...
ฝึกฝนตัวเองหาทางช่วยสามีมันก็ดี แต่ถึงขนาดทิ้งลูกให้คนอื่นดูแลนี่ไม่ไหว เลี้ยงเด็กยังไงให้เป็นแบบนี้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แถมเป็นภาระ ใช้ชีวิตโง่ ๆ มีศัตรูอยู่ แต่ไม่พาการ็ดไปด้วย พอลูกมีปัญหาที่รร. แทนที่จะเรียกสามี มาช่วยตั้งแต่แรก เสือกจะสู้เอง...
นางเอกอ้อนแอแถมโง่ แต่ก็ไม่ฟังพระเอก เสือกวิ่งไปวิ่งมาให้ถูกคนทำร้าย อ่านแล้วรำคาญ...
นางเอกโง่เง่าไม่มีการพัฒนา...
ทำไมไม่บอกพระเอกแล้วให้จัดการกับนังนั่น...
โอน่อหยาก็รู้นี่นาว่านางเอกเป็นคู่หมั้นประธาน ทำไมยังกล้าใส่ร้ายหรือแปลกใจว่านางเอกยังมีคนหนุน...
เนื้อเรื่องยืดยาวววน่าเบื่อมาก วนไปมาไม่เข้าเรื่องสักทีอ่านจนไม่อยากอ่านต่อน่าเบื่อเกิน ไม่เข้าเรื่องพระเอกกับนางเอกสักที วนอยู่ที่เดิมจนไม่น่าติดตามเพราะน่าเบื่อ...