บทที่497 ลำบาก
ถึงอย่างไรคนที่ถูกลูบหน้าในวันนั้นก็คือกู้ซึง ถึงจะรู้ว่าบนมือของป่ายฉีมีแผลเป็นหรือไม่ แต่โห้หลีเฉินไม่ได้ไปสัมผัสด้วยตัวเอง
ไม่ว่าเขาจะพูดว่าสบายหรือไม่สบาย ต่างก็เป็นตัวแทนการยอมรับของหนึ่งในนั้น บนมือของป่ายฉีมีหรือไม่มีแผลเป็นกันแน่
แต่ถ้าพูดผิด นั่นก็จะกลายเป็นหลักฐานที่จะหยูซือห้านกัดไม่ปล่อย
เย้นหว่านขมวดคิ้วอย่างดุร้าย ที่แท้หยูซือห้านคนนี้จะอยู่พูดคุยต่อ ก็ไม่ได้มีเจตนาดี
เขาสงสัยโห้หลีเฉินอย่างร้อยเปอร์เซ็นต์แล้วแน่นอน ดังนั้นจึงตั้งใจพูดขุดหลุม มาทดสอบพวกเขา
ไม่แน่ว่า ในอ้อมแขนของเขายังถือปากกาบันทึกเสียงไว้ด้วย
แล้วยิ่งร้อนรนหงุดหงิด เกลียดตัวเองตอนปกติที่สัมผัสกับป่ายฉี ไม่เคยสนใจสังเกตดู ว่าบนมือของเขามีแผลเป็นหรือไม่?
แต่จะว่าไป ป่ายฉีเป็นหมอ มักจะสัมผัสกับของมีคมเช่นมีดผ่าตัด แล้วยังผลิตภัณฑ์เคมี เครื่องจักร เป็นเรื่องปกติที่จะทำให้มือเป็นแผลโดยไม่ระวัง
บนมือเขามีแผลเป็น อาจจะดูสมเหตุสมผลกว่า?
เย้นหว่านคิดเดาอยู่ในใจ อดไม่ได้ที่จะหันหน้าไปมองโห้หลีเฉิน แอบใช้มือสะกิดอยู่ใต้โต๊ะ ส่งสัญญาณให้เขา
โห้หลีเฉินเม้มปาก กลับส่ายหัวให้เธออย่างไม่ทิ้งร่องรอย
ถัดจากนั้น ก็หันไปมองหยูซือห้าน ยิ้มเย็นชาถากถาง “ดูท่าข้อมูลของคุณชายหยูมักจะผิดพลาดบ่อยๆ เข้าใจผิด ทีแรกสร้างปัญหาตรวจสอบใบหน้าใหญ่โต ตอนนี้ก็เข้าใจผิดว่าป่ายฉีบาดเจ็บมีแผลเป็น ดูท่า เจ้าหน้าที่ข่าวกรองของนาย ควรเปลี่ยนได้แล้ว”
คำพูดถากถาง ดูหมิ่นว่าความสามารถของหยูซือห้านไม่เพียงพอ
สีหน้าหยูซือห้านกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ในอกสุมไฟแห่งความโกรธขึ้นเรื่อยๆ
แม่งเอ้ย โห้หลีเฉินไม่โดนหลอก
หรือว่าเขาเดา?
ถึงอย่างไรหนุ่มใหญ่คนหนึ่ง จะไปสนใจสังเกตมือของหนุ่มใหญ่อีกคนได้ยังไง?
หยูซือห้านกัดฟัน พูดขึ้นอีก “อ่อ บนมือของป่ายฉีไม่มีแผลเป็นหรอ? ฉันต้องจำผิดไปแน่ บนมือเขาไม่มีบาดแผล อีกอย่างคนเรียนหมอ ต้องดูแลนิ้วมืออย่างดี แล้วยังนุ่มนวลมาก ดังนั้นตอนที่เขาผ่าตัดถึงได้พิถีพิถันมาก”
หยูซือห้านหัวเราะฮิฮิ “ฉันเข้าใจผิดเอง คุณชายกู้ไม่ถือสาใช่ไหม?”
โห้หลีเฉินยิ้มเย็นชา
แวบเดียวก็ดูกับดักเล่ห์กลของหยูซือห้านออกแล้ว ปากมีแต่ถ้อยคำขอโทษ แต่ความเป็นจริง ส่วนสำคัญอยู่ที่นิ้วมือนุ่มนวลของป่ายฉี
ถ้าเขาไม่เอะใจ ตอบเออออตามไป ก็จะโดนจับได้อีก
โห้หลีเฉินยิ้มเย็นชา “นิ้วมือของป่ายฉีไม่อ่อนนุ่มเลย กลับกัน กระดูกของเขาแข็งมาก มีแรงเยอะ ต่อให้เป็นคุณชายหยู จะประมือ ก็ไม่เห็นเป็นคู่ต่อสู้ของเขาได้”
คำพูดโต้แย้ง มีความดูหมิ่นและถากถางอย่างชัดเจน
หยูซือห้านสำลักจนพูดไม่ออก สีหน้าเปลี่ยนแล้วเปลี่ยนอีก
โห้หลีเฉินไม่ตกหลุมพรางเขาเลยแม้แต่ครั้งเดียว พูดลักษณะนิ้วมือของป่ายฉีออกมาได้อย่างหมดจด! เขารู้เรื่องพวกนี้ หรือว่าไปตรวจสอบมาเป็นพิเศษ บวกกับสัมผัสมาด้วยตัวเอง สำรวจ แล้วถึงรู้
ทำไมเขาถึงรู้ทั้งหมด คุ้นเคยกับฝ่ามือของป่ายฉีอะไรขนาดนั้น!
หยูซือห้านโมโหจนอยากจะทุ่มโต๊ะ การเตรียมตัวของโห้หลีเฉิน เพียบพร้อมยิ่งกว่าที่เขาคิดไว้
ในตอนที่กลัดกลุ้ม เวลานี้ สาวใช้สองคน ก็ถือน้ำผลไม้กับไวน์แดงเดินมาตามลำดับ
พวกเธอวางน้ำผลไม้กับไวน์แดงไว้บนโต๊ะอย่างเป็นระเบียบ พูดขึ้นอย่างมีมารยาท “คุณหนู คุณชายกู้ คุณชายหยู พวกคุณจะดื่มอะไรคะ? ต้องการให้รินให้ไหม?”
“น้ำ......”
เย้นหว่านพึ่งจะเอ่ยปาก ก็คิดอะไรขึ้นมาได้ โบกมือ “ไม่มีอะไร ฉันทำเอง พวกเธอไปทำงานเถอะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน
อืดอาด มีเรื่องคู่นั้นคู่นี้แทรกมาตลอด แล้วยังออกทะเลไปไม่รู้กี่รอบ วนอยู่แต่กับความโง่ของนางเอกและความปิดปังเพราะรักของพระเอก เฮ้อ ทนอ่านมาเพราะอยากรู้ตอนจบ แต่หงุดหงิกมาก...
ฝึกฝนตัวเองหาทางช่วยสามีมันก็ดี แต่ถึงขนาดทิ้งลูกให้คนอื่นดูแลนี่ไม่ไหว เลี้ยงเด็กยังไงให้เป็นแบบนี้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แถมเป็นภาระ ใช้ชีวิตโง่ ๆ มีศัตรูอยู่ แต่ไม่พาการ็ดไปด้วย พอลูกมีปัญหาที่รร. แทนที่จะเรียกสามี มาช่วยตั้งแต่แรก เสือกจะสู้เอง...
นางเอกอ้อนแอแถมโง่ แต่ก็ไม่ฟังพระเอก เสือกวิ่งไปวิ่งมาให้ถูกคนทำร้าย อ่านแล้วรำคาญ...
นางเอกโง่เง่าไม่มีการพัฒนา...
ทำไมไม่บอกพระเอกแล้วให้จัดการกับนังนั่น...
โอน่อหยาก็รู้นี่นาว่านางเอกเป็นคู่หมั้นประธาน ทำไมยังกล้าใส่ร้ายหรือแปลกใจว่านางเอกยังมีคนหนุน...
เนื้อเรื่องยืดยาวววน่าเบื่อมาก วนไปมาไม่เข้าเรื่องสักทีอ่านจนไม่อยากอ่านต่อน่าเบื่อเกิน ไม่เข้าเรื่องพระเอกกับนางเอกสักที วนอยู่ที่เดิมจนไม่น่าติดตามเพราะน่าเบื่อ...